จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือ กรณีพี่สาวไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นขาดการติดต่อนาน 1 ปี ก่อนพบเป็นศพ มีรอยไหม้ และรอยบอบช้ำทั้งตัว แต่ผลการชันสูตรศพจากทางประเทศบาห์เรนกลับระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากปอดฉีกและหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นพิษ

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ระบุว่า “#อยากให้เรื่องถึงที่สุด #ช่วยด้วยค่ะ #ช่วยแชร์ด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ พอดีพี่สาวไปทำงานที่ต่างประเทศแล้วเขาได้แฟนที่โน่นเมื่อ 2-3 ปี แต่ว่าพี่สาวขาดการติดต่อไปเมื่อเมษาปี 2566 จนทางบ้านได้เดินเรื่องติดต่อสถานทูตไทยไปที่สถานทูตบาห์เรน แล้วเพิ่งได้รับเรื่องเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2567 ว่าพี่สาวได้เสียชีวิตแล้ว และเมื่อเดือนมีนาปี 2566 พี่สาวได้ถ่ายรูปและคลิปว่าโดนทำร้ายมาให้หนูดู แต่หนูก็ไม่คิดว่าจะโดนถึงชีวิต ที่สถานทูตบาห์เรนได้ส่งเอกสารมาว่าพี่สาวน็อกเหล้า แต่รูปถ่ายศพมีรอยช้ำ แต่ตอนนี้แม่ยังไม่ได้นำศพกลับมาเพราะจะรอรื้อคดีและชันสูตรศพอีกรอบ อยากทราบว่าถ้าจะนำศพกลับมาต้องใช้เงินเท่าไรคะ แต่ที่บ้านไม่ค่อยมีกำลังทรัพย์แต่ยังไงพวกเพื่อน ๆ พี่หนูจะช่วยค่ะ #หนูพอจะช่วยพี่สาวได้ไหมคะ”

วันนี้ทางทีมข่าวช่อง 8 จึงลงพื้นที่ ไปยังซอยวุฒากาศ 53 แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. พบน้องฟ้า (นามสมมติ) เจ้าของโพสต์น้องสาวของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางสาวกายกาญจน์ (ออม) อายุ 32 ปี

น้องฟ้า (นามสมมติ) เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า น.ส.ออม เป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องเลี้ยงดูครอบครัวกว่า 5 ชีวิต ในเดือนมีนาคม 2564 นางสาวจำเป็นต้องเดินทางไปทำงานที่ประเทศบาห์เรน เพราะพี่สาวคนกลางเกิดอุบัติเหตุ กระทบกระเทือนทางสมองต้องใช้เงินในการรักษาค่อนข้างสูง น.ส.ออม จึงเสียสละไปทำงานเพื่อส่งเงินมารักษาตัวน้องสาว รวมทั้งเพื่อจุนเจือครอบครัว

ซึ่ง น.ส.ออม เดินทางไปคนเดียว เพราะมีเพื่อน ๆ ทำงานอยู่ที่ประเทศบาห์เรนอยู่แล้ว ทั้งยังมีเพื่อนช่วยออกค่าตั๋ว และค่าเดินทางต่าง ๆ ให้ หลังจากไปทำงานก็ผ่อนจ่ายเขาในภายหลัง จนกระทั่งผ่านไป 1 ปีกว่า ๆ น.ส.ออม ก็ออกมาอยู่กับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นชาวบาห์เรน ตลอดระยะเวลา น.ส.ออม ส่งเงินกลับมาที่บ้านเป็นประจำทุกเดือน ทั้งยังสามารถติดต่อพูดคุยได้ตามปกติ พูดคุยกันครั้งล่าสุดผ่านแชตกับน้องฟ้า เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2566 เรื่องการสั่งของ ทั้งยังบอกคิดถึงคุณแม่ตามปกติ

จนกระทั่งช่วงหลัง ๆ มา น.ส.ออม มีการส่งคลิปรอยฟกช้ำตามร่างกายมาให้น้องสาวดู บอกแค่ว่าถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย แต่ก็ไม่เล่ารายละเอียดอะไรให้ฟังเลย หลังจากนั้นเมื่อ 17 เมษายน ปี 2566 ก็ติดต่อพี่สาวไม่ได้อีกเลย หายเงียบไป ทั้งยังไม่ส่งเงินมาทางบ้านเหมือนเช่นเคย ทางครอบครัวจึงพยายามติดต่อไปยังคนที่รู้จักที่บาห์เรน แต่ก็ไม่มีใครพบเจอเลย

จากนั้นจึงร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด จนกระทั่งผ่านไป 1 ปี ทางสถานทูตบาห์เรนติดต่อส่งรูปศพผู้หญิงมา แต่เห็นเพียงแค่ข้อเท้า จึงไม่แน่ใจว่าใช่พี่สาวหรือไม่ ต่อมา 18 เมษายน 2567 จึงตัดสินใจไปกองคุ้มครองคนไทยในต่างแดน พบรูปศพหญิงสาวเสียชีวิต จากรูปประพรรณสันฐานคือ น.ส.ออม พี่สาวของตนจริง ๆ ซึ่งตามร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ มีรอยไหม้บริเวณข้อเท้า แต่สาเหตุการตายที่ระบุมา กลับบอกว่า เกิดจากปอดฉีกและหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นพิษ ซึ่งทางครอบครัวคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะ น.ส.ออมเป็นคนคอแข็งอยู่แล้ว และไม่ใช่คนดื่มหนักขนาดนั้น

ทางครอบครัวยอมรับว่าติดใจสาเหตุการตายเป็นอย่างมาก เชื่อถูกทำร้ายจนเสียชีวิต คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นแฟนหนุ่มชาวบาห์เรนที่เคยทำร้ายร่างกาย น.ส.ออม อย่างแน่นอน เพราะขณะที่ น.ส.ออม เสียชีวิต คนที่ไปแจ้งเจ้าหน้าที่กลับเป็นพี่ชายของแฟน น.ส.ออม จึงยังเป็นคำถามคาใจว่า แล้วแฟนน.ส.ออม อยู่ที่ไหน ขณะที่พี่สาวเสียชีวิต ทำไมถึงไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง และทำไมถึงไม่พยายามหาช่องทางติดต่อมายังญาติของ น.ส.ออม เลย ทุกประเด็นยังไม่คลายข้อสงสัยเลย

ทั้งนี้ทางครอบครัวได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิปวีณาหงสกุล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางมูลนิธิกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือ นำศพกลับมายังประเทศไทยเพื่อชันสูตรและหาสาเหตุการตาย โดยเร็วที่สุด ในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย) ทางมูลนิธิได้นัดพูดคุยกับครอบครัว สอบถามรายละเอียด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป