กรณี นายคริส อายุ 36 ปี หนุ่มนักร้องร้านอาหารกลางคืน ในจังหวัดอุบลราชธานี เข้าขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด โดยระบุว่านางสาวบ๋อมแบ๋ม อายุ 31 ปี ภรรยาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย กว่า 8ปี ช่วงหลังเข้าไปปฏิบัติธรรมและทำบุญ รวมทั้งเป็นสะพานบุญจัดสร้างพระพุทธรูปให้กับหลายวัด จนกระทั่งไปรู้จักกับวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลดงมะไฟ อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร ไปรู้จักกับพระสนั่น จนกระทั่งถูกข่มขืน เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 ภายในวัดดังกล่าว จากนั้นมีการถ่ายคลิปข่มขู่ หากไปฟ้องหรือบอกใครจะถูกปล่อยคลิป และยังอ้างว่า หากมีคนรู้จะยิงให้ตายเนื่องจากมีปืน แล้วยังได้มีการใช้คลิปที่ถ่ายเอาไว้ข่มขู่แบล็กเมลล์มีอะไรอีกหลายครั้ง จนตั้งท้อง นั้น

 

วันนี้ (31 มี.ค.) ภายหลังนายคริส ผู้เสียหาย ในฐานะสามีของนางสาวบ๋อมแบ๋มที่ท้องกับพระสนั่น เจ้าตัวได้มีการเข้าให้ข้อมูลและร้องเรียนกับเพจสายไหมแล้ว ได้มีการเปิดใจเพิ่มเติมและพูดคุยกับทีมข่าวช่องแปด พร้อมกับมีการส่งมอบหลักฐานอีกหลายหลายอย่างที่เชื่อมโยง ว่าพระรูปดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ตีท้ายครัว แล้วยังมีพฤติกรรมข่มขู่

 

นายคริส ผู้เสียหาย มีการส่งคลิป มีการแอบบันทึกภายในบ้านในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยจะเป็นคลิปที่ได้ยินเสียงนางสาวบ๋อมแบ๋มมีการพูดคุยกับพระสนั่น ซึ่งตัวของผู้เสียหาย ได้มีการแอบอยู่ในห้องน้ำแล้วอัดคลิปเอาไว้ เพราะพระสนั่นไม่ยอมจบ โทรมาง้อ มาตื๊อ มาเจรจา และมีลักษณะข่มขู่ จะได้ยินการสนทนาพูดคุยกัน โดยในคลิปตัวขอนางสาวบ๋อมแบ๋มจะแทนตัวเองว่า  “หนู” ส่วนพระสนั่นจะแทนตัวเองว่า “พี่”  โดยการพูดคุย มีการคุย ทำนองว่า “ ฝ่ายหญิงมีการไปโพสต์ทำให้พระอับอาย และเป็นการทำร้ายกัน จนทำให้ไม่มีที่ยืน แล้วยังมีการพยายามข่มขู่“

 

จากนั้นยังมีอีกคลิป  ที่มีการพูดคุยกันทำนองว่า “ พระสนั่นต้องการโทรมาคุยเรื่องลูกที่อยู่ในท้อง และต้องการเอาลูกไปเลี้ยง  แต่ฝ่ายหญิงบอกว่าสามารถเอาไปได้แต่ขอให้ลูกหย่านมก่อน และยังมีการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตว่า ว่ามีการทำให้ท้อง และฝ่ายหญิงก็มีการโวยวายว่าแล้วจะมีการบังคับข่มขืนทำไม“

 

นายคริส ผู้เสียหาย เปิดใจว่า ตนเองกับภรรยาแต่งงานและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายอยู่ด้วยกันมานานกว่า 8 ปี แต่ช่วงหลังด้วยภรรยาเดินสายทำบุญและเป็นสะพานบุญหาเงินไปช่วยสร้างพระพุทธรูปให้กับหลายวัด จนได้ไปรู้จักกับพระรูปดังกล่าวที่วัดในพื้นที่ยโสธร ซึ่งตนเองก็ไม่ได้สังเกตความผิดปกติอะไร เนื่องจากเห็นภรรยาชอบทำบุญและไปวัด และหลังจากเสร็จทำบุญก็จะกลับมาบ้านตามปกติ

แต่สิ่งที่ทำให้ผิดปกติคือช่วงประมาณเดือนก่อน  ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ช่วงเช้าก่อน 6 โมง มีคนเปิดสัญญาณไฟเลนซึ่งคาดว่าเป็นรถกู้ภัย ขับรถไปตามซอยต่างๆในหมู่บ้าน พร้อมกับมีการประกาศผ่านโทรโข่งซึ่งเป็นเครื่องขยายเสียงของรถกู้ภัย และมีการเปิดเสียงหวอดังลั่นหมู่บ้าน โดยมีการประกาศทำนองว่า “ บ๋อมแบ๋มอยู่ไส บ๋อมแบ๋มอยู่ไส ออกมาเดี๋ยวนี้” จนทำให้คนในหมู่บ้าน เห็นและรู้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองออกไปดูรถคันดังกล่าวก็เห็นว่า ตัวของพระสนั่นเป็นคนขับและประกาศตามหาบ๋อมแบ๋มภรรยาของตนเอง ซึ่งยังคงหัวโล้นและแต่งกายชุดพระ แต่มาประกาศตามหาผู้หญิง

 

จากนั้นตนเองจึงได้ไปถามภรรยา  ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมพระต้องมาประกาศตามหาแบบนี้ จนภรรยารับสารภาพว่าตอนนี้ตั้งท้องอยู่ 7 เดือน กับพระสนั่น ซึ่งถูกข่มขืนและบังคับกระทำในวัด พร้อมกับมีการอัดคลิปในขณะที่มีอะไรเอาไว้ เพื่อใช้ในการข่มขู่และแบล็กเมลล์ โดยอ้างว่าถ้าหากนำไปบอกใครจะปล่อยคลิป รวมทั้งมีปืนพร้อมที่จะยิงตายทุกเมื่อ ภรรยาจึงไม่กล้าที่จะขัดขืน ได้แต่เก็บเลือกเงียบเอาไว้ จนเลือกแดงเพราะพระสนั่น มาประกาศตามหาในหมู่บ้านตนเองถึงรู้ความจริงว่าภรรยาท้องกับพระ ตนเองจึงได้พาภรรยาไปแจ้งความเมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา แต่ภรรยากับถูกกระทำตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. 2566 ผ่านไปกว่า 1 ปี ซึ่งส่วนตัวก็เข้าใจความรู้สึกของภรรยาที่ไม่กล้าบอก อาจจะกลัวเรื่องความปลอดภัยและอับอาย

 

และก่อนที่ตัวของพระสนั่น จะเอารถกู้ภัยที่ติดเครื่องขยายเสียงมาประกาศตามหาในหมู่บ้านแล้ว ก่อนหน้านี้ยังมีการเข้าไปข่มขู่หรือโพสต์ ทำนองว่าไม่กลัวใคร เป็นพระนักเลง (โพสต์ถูกลบไปหมดแล้ว) และที่สำคัญพระสนั่น อย่างพยายามไปตามเบอร์โทรและข้อมูลของญาติพี่น้องทั้งฝั่งของตนเองและฝั่งของภรรยา คอยโทรข่มขู่และหาเรื่อง หากทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หรือเขาเดือดร้อนต้องออกจากความเป็นพระ จะถูกฆ่าตายให้หมด จึงเป็นที่มา ที่ต้องเดินทางเข้ามากรุงเทพเพื่อร้องกับสายไหมต้องรอด และขอให้สื่อช่วย เนื่องจากปัจจุบันตนเองเอาภรรยามาอยู่ด้วย เพราะเห็นแก่คนท้อง ทั้งที่ลูกในท้องไม่ใช่ลูกของตนเอง แต่ก็ให้อยู่ด้วยเพื่อความปลอดภัย

 

และจากข้อมูลล่าสุด หลังจากที่ตัวของพระสนั่น มีการมาประกาศตามหาผู้หญิงในหมู่บ้าน รวมทั้งถูกภรรยาของตนเองแจ้งความในข้อหาข่มขืน ทราบว่าล่าสุดน่าจะมีการลาสิกขาแบบเงียบๆ และไม่แน่ใจว่าหนีไปอยู่ที่ไหนแล้ว แต่ในช่วงที่ผ่านมาไม่เคยกลัวต่อกฎหมาย ยังพยายามโทรมาขู่จะเอาลูกในท้อง และมีการขู่จะเอาเรื่องครอบครัวของตนเอง จนทำให้ชีวิตของตนเองวุ่นวาย และกลัวเรื่องความปลอดภัย จึงต้องหนีเข้ากรุงเทพครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตามนายคริส บอกว่า ตนเองต้องการสื่อสารหรือฝากอะไรพระสนั่น แต่ต้องการให้ตำรวจเอาผิดกับคนแบบนี้ ที่มาทำกับคนที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา และมาทำกับภรรยาของตนเองที่มีทะเบียนสมรสอยู่แล้ว ต้องการให้ถูกจับและถูกดำเนินคดี , ขณะที่เรื่องของลูกในท้อง แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกของตนเองแต่ด้วยความสงสารนางสาวบ๋อมแบ๋มซึ่งเป็นภรรยา ก็ต้องให้เขาอยู่ด้วยจนกว่าจะคลอด จากนั้นก็ต้องดำเนินการเกี่ยวกับเด็กคนดังกล่าว ว่าใครจะเลี้ยงหรือส่งคืนให้กับพระสนั่นตามที่เขาขอหรือไม่ แต่โดยเบื้องต้นตนเองเตรียมที่จะมีการฟ้องชู้กับพระ ก่อนที่จะมีการเซ็นใบหย่า เพราะเนื่องจากมีการกระทำที่เกิดขึ้นระหว่างที่ตนเองยังมีทะเบียนสมรส

 

ภายหลังการให้สัมภาษณ์  นายคริสผู้เสียหาย ยังได้มีการส่งภาพที่มีการแคปเอาไว้ จากโซเชียลของพระสนั่น ก่อนที่จะถูกลบโดยพบว่า พระสนั่น มีการลงภาพเกี่ยวกับการวิดีโอคอลพูดคุยกับนางสาวบ๋อมแบ๋มภรรยาของผู้เสียหาย ซึ่งมีหลายเหตุการณ์และหลายอิริยาบถ  ตั้งแต่การวิดีโอคอลพูดคุยทั่วไปโดยฝ่ายหญิงจะนุ่งขาวห่มขาว ส่วนพระยังคงห่มจีวร โดยพระสนั่น ได้มีการแคปเอาภาพเหล่านั้นมาลงโซเชียล  , และ พระสนั่น ยังเคยมีการโพสต์ ทำนองว่า เปิดตัวภรรยาที่ตั้งท้อง ทั้งที่เจ้าตัวเป็นพระ

 

และ นายคริส ยังมีภาพตรวจอัลตร้าซาวด์ท้อง ซึ่งเป็นลูกในท้องของนางสาวบ๋อมแบ๋ม โดยเจ้าตัวได้มีการส่งเพิ่มเติมมายืนยันให้กับทีมข่าว ว่าในท้องมีผลอัลตราซาวด์ยืนยันชัดเจนว่าเป็นลูกที่ตั้งครรภ์อยู่

 

ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.บ๋อมแบ๋ม ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง ยอมรับว่าไม่รู้ว่าสามีเดินทางเข้า กทม. มาร้องเรียนเรื่องนี้กับสายไหมต้องรอด ตอนที่สามีออกจากบ้านตนไม่รู้ว่าออกไปไหน เพิ่งมารู้ตอนเป็นข่าวแต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองถูกขืนใจจนกระทั่งท้อง

 

ด้านพระสนั่นได้พูดคุยกับทีมข่าวผ่านโทรศัพท์ว่าตนไม่ได้ข่มขืน แต่ฝ่ายหญิงมาบอกรักตนก่อน หลังจากนั้นฝ่ายหญิงบล็อกเฟซบุ๊ก บล็อกไลน์ ทำให้ต้องไปขับรถเปิดไซเลนตามหา เพราะจะไปหาลูกหาเมีย ก่อนหน้านี้เคยปรึกษาฝ่ายหญิงบอกจะสึก แต่ฝ่ายหญิงบอกตนว่าอย่าเพิ่งสึก จนกระทั่งเรื่องแดง นอกจากนี้ยังบอกกับทีมข่าวอีกว่าพร้อมอยู่กินกับ น.ส.บ๋อมแบ๋มแบบสามี-ภรรยา

ผัวซ้ำเมียสายบุญ ถูกสงฆ์ขืนใจท้อง 8 เดือน พร้อมรับอยู่กินฉันผัวเมีย