กรณีเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.วันที่ 17 มีนาคม ศูนย์วิทยุ สภ.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีเหตุรถยนต์ตกข้างทาง ไฟลุกไหม้บริเวณริมถนนทางหลวงสาย 44 สุราษฎร์ธานี-กระบี่ (เซ้าเทิร์นซีบอร์ด) ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 110+400 ฝั่งเข้าเมือง หมู่ 4 ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี

 

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สภาพรถตกอยู่ริมขอบถนนเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ทั้งคันอย่างรวดเร็วไม่สามารถเข้าช่วยผู้ที่ติดอยู่ในรถได้ทัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งใช้น้ำฉีดสกัดใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงได้ปรากฏสภาพรถเสียหายทั้งคัน ภายในรถมีผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อนายวัชรินทร์ หรือเสี่ยติ่ง เป็นเจ้าของร้านทองในตลาดบ้านนาเดิม สภาพไหม้เกรียมทั้งตัว

 

วงจรปิดจับภาพรถต้องสงสัย ขับออกจากจุดเกิดเหตุ ก่อนรถคนตายระเบิด

วงจรปิด ชุดต่อมา กล้องตัวที่ 1 อยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 700 เมตร เวลา 00.23 ก่อนไฟไหม้ จับภาพรถคนตาย ขับชิดเลนขวา ลักษณะขับช้าๆ

 

คลิปที่ 2 เป็นจุดเกิดเหตุ จะเห็นเป็นประกายไฟของรถผู้ตายตอนที่ไฟไหม้

 

คลิปที่ 3 ,4,5 เวลา 01.01 วันที่ 17 มีนาคม 2567 จับภาพรถกระบะต้องสงสัยขับออกจากจุดเกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุให้ข้อมูลว่า มีรถกระบะต้องสงสัยขับออกช่วงเวลาประมาณ 01.01 น. ก่อนที่ไฟในรถของผู้เสียชีวิตจะค่อยค่อยติด และระเบิดในเวลา 01.06 น.

 

เพื่อนในวงกินข้าวกับผู้ตาย ยืนยันผู้ตายร่างกายแข็งแรง แต่มีสายปริศนาโทรหาหลายสาย

ด้านนางเข็ม (นามสมมติ) เพื่อนที่นั่งทานข้าวกับผู้เสียชีวิตก่อนเกิดเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 18:00 น. ของวันที่ 16 มีนาคม ผู้เสียชีวิตได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวกลับมาจากงานแต่งงาน พร้อมกับนำอาหารมาใส่จานกินที่ร้านของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็กินด้วยกันประมาณสี่ถึงห้าคน โดยมีตัวเอง สามีตัวเอง ผู้ตาย และชาวบ้านที่เวียนไปมาแถวนี้

 

โดยตอนที่กินข้าวด้วยกันก็กินด้วยกันปกติ ผู้ตายมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ร่างกายแข็งแรง ยังพูดคุยเฮฮาสนุกกับตัวเองอยู่เลยกระทั่งช่วงเวลาประมาณสองถึงสามทุ่ม ได้มีภรรยาของผู้เสียชีวิตโทรหาผู้เสียชีวิต แต่ตัวเองไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกัน หลังจากนั้นก็จะมีสายปริศนาโทรมาหาผู้เสียชีวิตอีกหลายสาย จนผู้เสียชีวิตพูดออกมาว่า “ทำไมวันนี้กินข้าวไม่สนุกเลย มีแต่คนโทรหา” จากนั้นเวลาประมาณห้าทุ่มเกือบเที่ยงคืน ผู้เสียชีวิตก็ได้ขับรถเก๋งออกไป โดยก่อนจะออกไปเขาก็บอกว่าเขารีบกลับบ้าน เนื่องจากพรุ่งนี้ลูกจะสอบ

 

ตัวเองขอยืนยันว่า ตอนนั่งกินข้าวกับผู้เสียชีวิต เขาไม่ได้พกยาประจำตัวมาทานแต่อย่างใด และตัวเองก็ไม่เห็นเค้าทานยาเลย อีกอย่าง ผู้เสียชีวิตก็ไม่มี อาการอ่อนล้า อ่อนแรง หรืออาการเพลียแต่อย่างใด เค้าแข็งแรงปกติ

 

ส่วนเรื่องแหวนเพชรของผู้เสียชีวิตนั้น ตัวเองก็ไม่ได้สังเกตว่าเขาได้สวมมาหรือไม่ แต่ยอมรับว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนที่จะสวมแหวนวงนี้อยู่ตลอดเวลา

 

ทีมข่าวช่องแปดได้กล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุมาซึ่งจากภาพตอนที่ผู้เสียชีวิตไปทานข้าวกับเพื่อน

 

คลิปที่ 1 เวลา 18.43 จับภาพคนตาย นั่งทานข้าวกับเพื่อน และมีการพูดคุยกัน ตามปกติ

 

คลิปที่ 2 เวลา 18.47 คนตาย นั่งที่กระท่อมคนเดียว

 

คลิปที่ 3 เวลา 23.14 คนตาย นั่งทานข้าวกับเพื่อนปกติ และมีการพูดคุยกันทั่วไป โดยสังเกตว่าตอนนั้นผู้เสียชีวิตก็คุยกับเพื่อนสนุกสนานไม่ได้มีอาการอ่อนล้า หรืออ่อนแรงแต่อย่างใด

 

คลิปที่ 4 เวลา 23.20 คนตาย ลุกเดินไปฉี่ ที่ข้างทาง

 

คลิปที่ 5 เวลา 23.55 (เวลาจริง 00.01 วันที่ 17 มีนาคม) คนตาย ขับรถเก๋งออกจากบ้านเพื่อน หลังจากกินข้าวเสร็จ เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน

 

ลูกชายคนตายติดใจ เชื่อพ่อถูกฆาตกรรม

ด้านนายเตอร์ (นามสมมติ) ลูกชายของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า สำหรับพ่อตัวเองเป็นคนร่างกายแข็งแรง ที่ผ่านมาเวลาตัวเองนั่งรถยนต์ไปกับพ่อ พ่อก็ไม่เคยมีอาการกำเริบ เหนื่อยล้า หรือจอดรถพักข้างทางฉุกเฉินแต่อย่างใด ส่วนใหญ่พ่อจะขับให้ถึงบ้าน หรือถึงจุดหมายถึงค่อยพัก

 

ตัวเองยอมรับว่าติดใจสาเหตุการตายของพ่อ และเชื่อว่าพ่อน่าจะถูกฆาตกรรมมากกว่าอุบัติเหตุ และตัวเองก็คาใจว่า ทำไมรถของพ่อตกคูแค่นั้น ทำไมรถถึงระเบิดมีไฟลุกไหม้ทั้งคัน ทั้งที่รถก็ไม่ใช่รถแก๊ส

 

ยอมรับว่าพ่อเป็นคนพูดจารุนแรง โผงผาง ถ้ามีเรื่องขัดใจก็จะหัวร้อน และมีปากเสียงกับคนนั้นๆ ที่ทำให้โมโห ส่วนเรื่องส่วนตัวของพ่อตัวเองก็ไม่รู้ว่าเขาทะเลาะกับใครบ้าง

 

ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ พ่อกับแม่เคยมีปากเสียงกัน โดยแม่ต้องการที่จะต่อเติมบ้านบ้านหลังร้านทองที่สร้างใหม่ แต่พ่อได้คัดค้านแม่ โดยพ่อบอกว่าบ้านที่มีอยู่ก็พื้นที่เพียงพอในการอยู่อาศัยแล้ว แต่ปัญหาที่พ่อแม่ทะเลาะกันรุนแรงนั้น ก็ไม่มี

พิรุธอื้อ!คดี"เสี่ยร้านทอง"ส่อจัดฉากฆ่า พยานเผยเห็นรถปริศนาออกจากจุดไฟไหม้