เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 17 มี.ค. 67 พ.ต.ท.สุวิทย์ ซุยจรูญ พนักงานสอบสวน สภ. ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถจักรยานยนต์ชนสุนัขก่อนหลัก ไปชนม้าหินอ่อนหน้าบ้านและเสาไฟฟ้า มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต บริเวณบ้านโป่งกระพร้อ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี

 

หลังจากได้รับแจ้ง จึงได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยหลายหน่วยงาน มีทั้งกู้ชีพ อบต. หนองโพรง อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู อาสาสมัครมูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอยู่ จำนวน 4 ราย เป็นเยาวชนอายุตั้งแต่ 12 - 15 ปี มีหญิง 1 คน ชาย 3 คน มีสาหัสเป็นเด็กหญิง อายุ 12 ปี ทางหน่วยกู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิตแต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้และเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ คือ เด็กหญิงฐิติกานต์ อายุ 12 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ ประกอบด้วย เด็กชายจักรพันธ์ อายุ 12 ปี นายธนกฤติ อายุ 15 ปี และนายธนกร อายุ 15 ปี มีแผลถลอกตามร่างกาย

ในที่เกิดเหตุพบมีดดาบ ยาว 70 เซนติเมตร มีด ยาว 50 เซนติเมตร และเหล็กแป๊บ ยาว 60 เซนติเมตร เป็นของกลุ่มเยาวชนที่ยอมรับว่าเป็นของตนเองที่พกติดตัวไว้ตลอด เพราะเกรงว่าจะเจอคู่อริ

 

และจากการสอบถามชาวบ้าน ในพื้นที่ใกล้เคียงต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มักจะเจอเยาวชน 4 คนนี้ ขับรถไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดทั้ง 4 คน ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน และชอบพกพาอาวุธอยู่ตลอดเวลา

 

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงให้หน่วยกู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ โดยมีนางสายฝน (ยายผู้เสียชีวิต) ทราบข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล พอทราบว่าหลาน

ได้เสียชีวิตแล้ว ถึงกับร้องไห้โฮอยู่ที่บริเวณหน้าห้องพยาบาล

 

จากการสอบถามผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน ทราบว่า ได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda Wave สีแดงดำ นายธนกฤติ (เป็นคนขับ) ผู้เสียชีวิตนั่งหน้า และผู้บาดเจ็บซ้อนท้ายอีก 2 คน รวม 4 คน มาจากเส้นหน้าวัดระเบาะไผ่ ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยบ้านโป่งกระพร้อ ได้ประมาณ 100 เมตร ได้มีวัยรุ่น 2 คน ชื่อเล่นว่า “นายดำ” กับ “นายเอฟ” ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาส่วนในมืออาวุธมีด ด้วยความตกใจจึงบิดคันเร่งเพื่อหนีไปได้ประมาณ 800 เมตร ได้มีสุนัขสีดำวิ่งตัดหน้าทำให้รถไปเฉี่ยวชนเข้าอย่างจัง ก่อนที่รถจะเสียหลักไปชนกับโต๊ะม้าหินอ่อนก่อนชนเสาไฟฟ้า จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

 

ล่าสุดทีมข่าวช่อง8 เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าร้านขายของชำ ที่บ้านโป่งกระพร้อ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งข้างหน้าร้านค้านั้นมีโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านพังเสียหายยับเยิน

 

ต่อมานางสายฝน อายุ 50 ปี เป็นยายของน้องมัดไหม ด.ญ.ฐิติกานต์ อายุ 12 ปี ที่นั่งมาหน้ารถจยย.และมาเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต เดินทางมาพร้อมกับญาติๆ และพระสงฆ์ จำนวน 1 รูป จากวัดน้อยนาดี เพื่อมาเชิญดวงวิญญาณยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีดอกไม้ธูปเทียน น้ำเปล่า 1 ขวด และข้าวผัดกระเพรา 1 มาเป็นเครื่องเซ่น โดยบรรยากาศช่วงเชิญดวงวิญญาณเป็นไปอย่างโศกเศร้า เพราะนางสายฝน ร้องไห้ตลอดช่วงทำพิธี และพยายามบอกกล่าวน้องมัดไหม หลานสาวที่เสียชีวิต ให้กลับบ้านไปด้วยกัน มาหาตนบ้าง และหากชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันเลย ไม่อยากเป็นยายหลานแบบนี้อีก

 

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสายฝน อายุ 50 ปี เป็นยายของน้องมัดไหม ผู้เสียชีวิต โดยนางสายฝนเปิดใจไปร้องไห้ไปกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า เด็กที่เป็นคนขี่รถจยย.และมาเกิดอุบัติเหตุจนหลานของตนเสียชีวิต บอกกับตนว่า พวกตน 4 คน ขี่และซ้อนท้ายรถจยย.มาคันเดียวกัน แล้วบังเอิญขับไปเจอกับอริที่ขี่รถจยย.กันมา 2 คน ซึ่งเด็กที่เป็นคนขับรถก็พยายามจะแซงรถของอริขึ้นไป ก่อนมาเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งน้องมัดไหม ปกติไม่เคยออกจากบ้านไปไหนมาไหนช่วงดึกเลย แต่ครั้งนี้คงโดนเพื่อนชวนมา เลยมากับเขาด้วย อีกทั้งก่อนเกิดเหตุตนก็บอกว่าถ้าเป็นกลางคืน ไม่ต้องออกไปไหนมาไหนแล้ว หลานตนก็พยักหน้า แต่ก็ยังออกไปจนเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ตนเสียใจทำอะไรไม่ถูกและยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลานจะไปเร็วแบบนี้

 

ถัดมาทีมข่าวช่อง 8 ได้หลักฐานเป็นภาพวงจรปิดขณะที่กลุ่มของเด็กที่เกิดอุบัติเหตุ มาพบกับรถของคู่อริ ก่อนจะรีบขับแซงและไปเกิดอุบัติเหตุในที่สุด

 

ภาพจากกล้องวจป. เวลา 22:03:16 จะเห็นรถจักรยานยนต์ของอริ คือนายดำเป็นผู้ขับขี่และมีนายเอฟนั่งซ้อนท้าย ก่อนที่จะมีรถจักรยานยนต์ของกลุ่มเด็กที่เกิดอุบัติเหตุของ นายธนกฤติ เป็นผู้ขับขี่ โดยมีด.ญ ฐิติกานต์ ผู้เสียชีวิต นั่งอยู่ด้านหน้าสุด ส่วนเด็กชายจักรพันธ์ และนายธนกร นั่งซ้อนท้าย พยายามแซงรถจยย.ของนายดำขึ้นไป

 

ภาพจากกล้องวจป. เวลา 22:03:18 น. จะเห็นรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ขับตามกันมาทันและเป็นจังหวะที่รถจักรยานยนต์ของนายธนกฤติ จะขับแซงขึ้นไป และจังหวะเดียวกันมีเสียงร้องขึ้นว่า “เฮ้ย!” ดังขึ้นมา

 

ภาพจากกล้องวจป.เวลา 23:21:14 จะเห็นรถจักรยานยนต์ นายธนกฤติ ได้ขับแซงรถจักรยานยนต์ของนายดำ ผู้เป็นอริ และขับแซงรถกระบะคันสีขาวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยมีรถจักรยานยนต์ของนายดำชลอต่อท้ายรถปิ๊กอัพ

 

ภาพจากกล้องวจป. เวลา 23:21:17 รถจักรยานยนต์ ของนายธนกฤติ จะขับขี่อย่างรวดเร็ว และไปเสียหลักชนสุนัขและล้มจนเห็นแสงไฟสว่างวาบ จึงเป็นเหตุให้ ด.ญ ฐิติกานต์ เสียชีวิตในที่เกิเหตุและคนที่เหลือได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกาย

 

หลังจากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้ข้อมูลมาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากเด็กกลุ่มนี้นั้นขับรถหนีอริ 2 คน ที่ขับรถจยย.มาด้วยกัน จนมาเสียหลักเกิดอุบัติเหตุและเกิดความสูญเสียตามมา อริ 2 คนนั้น ชื่อนายดำ และนายเอฟ ทำให้ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไล่สอบถามข้อมูลจากชาวบ้านในหมู่บ้านโป่งกระพร้อ จนในที่สุดทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพบกับ นายดำ หรือฉายา “ดำ เอซโซ่” เป็นเด็กต่างหมู่บ้าน โดยนายดำ เผยกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า เมื่อวานช่วง 22.00 น.- 23.00 น. ตนและนายเอฟ รุ่นน้อง ได้ขี่รถจยย.ไปร้านสะดวกซื้อ โดยตนเป็นคนขี่ และนายเอฟเป็นคนซ้อน เพื่อไปซื้อน้ำอัดลมมาดื่มกินกัน จากนั้นขณะออกจากร้านสะดวกซื้อ ตนก็เห็นกลุ่มของเด็กที่เกิดอุบัติเหตุขี่รถจยย.พยายามจะแซงตนไป และเมื่อตนและนายเอฟ น้องชายเห็นแล้ว น้องชายตนก็ตะโกนไปว่า “เฮ้ย” เพื่อทักทายไป เพราะนายเอฟ น้องชาย รู้จักกับกลุ่มของเด็กที่เกิดอุบัติเหตุมาก่อน ต่อมากลุ่มของเด็กที่เกิดอุบัติเหตุก็หันมามองหน้าท้าทายพวกตน และรีบขี่รถจยย. แซงหน้ารถจยย.ของตนตรงไปอย่างรวดเร็ว และแซงรถกระบะขึ้นไปอีกรอบหนึ่งด้วย

 

และในขณะที่กลุ่มของเด็กที่เกิดอุบัติเหตุ แซงรถกระบะขึ้นไป นายเอฟ น้องชายของตนที่ซ้อนท้ายมา ก็ได้พูดขึ้นมาว่า “เขาจะแซงรถกระบะขึ้นมาเลยเหรอ” จากนั้นไม่นานเมื่อกลุ่มเด็กที่เกิดอุบัติเหตุ ตัดหน้าแซงรถกระบะขึ้นไป ก็มีสุนัขมาตัดหน้ารถ ทำให้กลุ่มเด็กที่เกิดอุบัติเหตุชนกับสุนัขตัวนั้นอย่างจัง และเสียหลักพุ่งออกข้างทางไปชนกับโต๊ะม้าหินอ่อนดังสนั่น

 

ส่วนเรื่องที่กลุ่มของเด็กที่เกิดอุบัติเหตุ อ้างว่าตนและนายเอฟ น้องชาย พยายามขับรถไล่ตามและคว้ามีดหรืออาวุธขึ้นมาพยายามจะไล่ทำร้ายนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะตนและนายเอฟ น้องชาย ไม่เคยพกพาอาวุธไปไหนมาไหนเลย แต่ก็ยอมรับว่ากลุ่มของตน เคยไปมีเรื่องกับกลุ่มของเด็กที่เกิดอุบัติเหตุจริง เมื่อประมาณ 1-2 เดือนก่อน เพราะกลุ่มของเด็กที่เกิดอุบัติเหตุ เคยไปเอามีดไล่ฟันกลุ่มเพื่อนของตน ทำให้กลุ่มของตนไปตามเอาคืน แต่ก็มีผู้ใหญ่มาเห็นเสียก่อน จึงห้ามเอาไปทันและไม่ได้เกิดการชกต่อยหรือทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น

 

และสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ยอมรับว่าเสียใจ เพราะจริงๆในขณะที่เกิดอุบัติเหตุตนก็เห็น แต่ไม่กล้าลงไปช่วยเหลือ เนื่องจากตกใจและทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิตในชีวิต

"แก๊งฟันน้ำนม" ซิ่งรถหนีอริ เสียหลักพุ่งชนม้าหิน เด็ก 12 ดับสยอง