จากกรณี แพทย์หญิงท่านหนึ่ง ชื่อว่า ธารดาว อายุ 32 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่าถูกชายชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย และกล่าวหาว่าบุกรุก ไปนั่งในจุดบันไดลงชายหาดวิลล่าหรู นั้น ต่อมามีคลิปขณะเกิดเหตุ์ซึ่งถูกเผยแพร่ในโซเชียล โดยในคลิปจะเห็นชายชาวต่างชาติ คือ นายเดวิด ได้เดินตรงมาทางแพทย์สาวและเพื่อนที่กำลังนั่งอยู่ตรงบันไดลงชายหาด ก่อนที่เจ้าตัวจะสบถคําหยาบ f..k you ออกมา ก่อนจะเกิดเหตุคล้ายฝั่งเดวิดจะใช้เท้าซ้ายไปโดนหลังของอีกฝ่ายจนแพทย์หญิงและเพื่อนต้องรีบเดินออกไป




ล่าสุดวันนี้ 1 มี.ค. 2567 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รอง ผวจ.ภูเก็ต พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สวญ.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 นายสุทัศน์ นิยมไทย ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต และปกครองจังหวัดภูเก็ต ร่วมประชุมกรณีที่ชายชาวต่างชาติได้ทำร้ายแพทย์หญิง ในขณะที่กำลังนั่งอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นวิลล่าหรู และได้เชิญตัวนายเดวิด ภรรยา และทนายความมาชี้แจงและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้เข้าร่วมประชุมฟัง และยอมรับผิดสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น


นายเดวิด ได้กล่าวเป็นภาษาอังกฤษ โดยให้ทนายความเป็นล่ามแปล ซึ่งนายเดวิดได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายหมอ แต่ตอนเกิดเหตุคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวจีน ที่เคยบุกรุกข้ามาภายในวิลล่า จึงนำมือถือมาถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ส่งให้เจ้าของโครงการวิลล่า เพื่อรับทราบว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาจริง ๆ และยืนยันเป็นการสะดุดไม่ได้มีการเตะอย่างที่คุณหมอบอกไป แต่ถึงอย่างไรก็รู้สึกผิดและขอโทษกับการกระทำที่ทำลงไป ขอโทษคุณหมอ ขอโทษคนภูเก็ต ขอโทษคนไทยยินดีรับผิดทุกอย่าง




ด้านภรรยา เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุเคยมีนักท่องเที่ยวชาวจีน เข้ามาในวิลล่าที่เช่าอยู่ และสร้างความตกใจในขณะกำลังว่ายน้ำอยู่ในบริเวณวิลล่าดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นนายเดวิดไม่อยู่ จึงแจ้งไปยังเจ้าของโครงการวิลล่ารับทราบ กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้นายเดวิด คิดว่าเป็นกลุ่มเดิมที่เคยมาบุกรุกในวิลล่า จึงคว้าโทรศัพท์วิ่งออกไปพร้อมถ่ายคลิปไว้ แต่ได้สะดุดบันไดหกล้ม และได้ไปหาหมอตรวจแผลแล้วยืนยันว่า แผลที่เกิดขึ้นเกิดจากการสะดุดล้มในคืนเกิดเหตุดังกล่าว


จากนั้นภรรยาของนายเดวิด ได้กล่าวคำขอโทษ และเสียใจ เพราะขณะเกิดเหตุตอนกำลังหลับแล้ว นายเดวิด ตะโกนเรียก หลังจากตื่นขึ้นมาก็รู้สึกงัวเงียและพูดไปด้วยความตกใจ ไม่ได้มีเจตนาจะว่าดูถูกเหยียดหยามคุณหมอแต่อย่างใด และที่บอกว่ารู้จักกับตำรวจใหญ่เป็นเรื่องจริง แต่วันนั้นที่โทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเพื่อเข้ามาดูแล ส่วนลูกชายตนเป็นตำรวจจริงแต่เป็นยศแค่สิบตำรวจเอก ไม่ได้ยศใหญ่โตอะไร รู้สึกผิดและอยากขอโทษในการกระทำและคำพูดของตนในคืนนั้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าหากวันนั้นรู้ว่าคู่กรณีเป็นหมอ จะเชิญเข้าไปดื่มน้ำในบ้านแล้ว ส่วนเรื่องคดีบุกรุก ทนายความบอกเผยว่า ไม่สามารถดำเนินคดีได้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นคู่สามีภรรยาคู่ได้ไม่ได้เป็นเจ้าของ เป็นเพียงผู้เช่าเท่านั้น


ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่มายังบริเวณบันไดวิลล่าจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งจะอยู่ติดกับชายหาดหาดยามู จ.ภูเก็ต พบว่าบันไดมีทั้งหมดสี่ขั้น คุณหมอและเพื่อนจะนั่งขั้นที่สอง ฝั่งที่อยู่ติดกับชายหาด และหากสังเกตบริเวณขอบบันไดตรงขั้นที่สี่ ฝั่งเข้ามาทางวิลล่าของผู้ก่อเหตุ จะพบว่าขอบบันไดความสูงประมาณเจ็ดถึง 10 เซนติเมตร โดยที่จุดเกิดเหตุยังพบป้ายประกาศที่เจ้าหน้าที่มาติดประกาศคำสั่งการรื้อถอนตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว


นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้จำลองเหตุการณ์ ว่า หากทีมข่าวเป็นแพทย์หญิงกับเพื่อน แล้วนายเดวิดเดินมาตรงบันไดจุดนี้จะสามารถสะดุดล้มได้ที่บริเวณไหนบ้าง ซึ่งก็จะมีขอบบันได ความสูงขนาด 7-10 เซนติเมตร เพราะหากเดินมาในตอนกลางคืน อาจทำให้สายตามองไม่เห็นขอบบันไดดังกล่าวก็เป็นได้


นอกจากนี้ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้ย้อนกลับไปดูคลิปต้นเรื่องอีกที พบว่า วินาที 00.12 ในคลิปจังหวะที่ นายเดวิดก้าวเท้าซ้าย เจ้าตัวได้ก้าวข้ามขอบบันไดที่มีความสูง 7 ถึง 10 เมตร และดูเหมือนว่าในเงาเท้าซ้ายของนายเดวิดไม่ได้ไปสะดุดกับวัตถุอะไร ซึ่งก็ไม่สอดคล้องกับบาดแผลที่เกิดขึ้นบริเวณนิ้วนางข้างซ้าย บริเวณเท้าของนายเดวิด แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเดวิดอาจจะสะดุดล้มที่เท้าขวาจนเท้าซ้ายได้รับบาดเจ็บในภายหลังหรือไม่




ด้านนายเดวิด เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตัวเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ ตัวเองไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายผู้เสียหาย ที่ตัวเองมีอารมณ์โมโห แล้วพูดคำหยาบออกไปในตอนเกิดเหตุนั้น เนื่องจากตนเคยโกรธคนจีนที่เคยบุกรุกเข้ามาบริเวณสระน้ำที่ภรรยาของตัวเองทำกิจกรรมอยู่ตรงนั้น และภรรยาของตนก็อยู่คนเดียว


ตัวเองหวังว่าทุกคนจะสามารถเข้าใจได้ว่า เหตุที่เกิดขึ้นกับคุณหมอวันนั้น เพราะตัวเองต้องการปกป้องคนที่เรารัก และนั่นคือสาเหตุที่ตัวเองแสดงออกมากเกินไปเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของภรรยามาก ๆ ตัวเองอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่สร้างปัญหาที่ใหญ่โตให้กับชาวภูเก็ตและประเทศไทยเป็นอย่างมาก และขอยืนยันว่าตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บจากการประสบอุบัติเหตุลื่นล้มในคืนนั้นด้วย และขณะให้สัมภาษณ์นายเดวิดได้โชว์บาดแผลที่เท้า บริเวณนิ้วกลางด้านซ้าย ให้กับทีมข่าวดูเพื่อจะยืนยันว่าตัวเองประสบอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนั้นจริง


หลังจากนั้นนายเดวิดได้จำลองเหตุการณ์ตอนที่เกิดเหตุให้กับทีมข่าวดู โดยให้ทีมข่าวสองคนนั่งอยู่ที่บริเวณบันได แต่เป็นบันไดคนละจุดกับจุดเกิดเหตุ จากนั้นนายเดวิดก็ได้ทำท่าเดินและยกขามาในระดับเดียวกันกับวันที่สะดุดล้มให้กับผู้สื่อข่าวดู โดยเจ้าตัวบอกว่าไม่สามารถออกแรงเตะไปที่หลังทีมข่าวได้ เนื่องจากวันนั้นเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ ไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกาย




ด้านนางคนึงนิจ ภรรยาของนายเดวิด เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า วันนี้ตัวเองได้แถลงข่าวขอโทษคู่กรณีแล้วตัวเองก็รู้สึกสบายใจโล่งใจมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตัวเองก็กดดันเนื่องจากโดนโจมตีจากโซเชียลสารพัด ส่วนที่สามีตัวเองเกิดเหตุการณ์ตามในคลิป เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ขณะที่ตัวเองว่ายน้ำอยู่ในวิลล่าได้มีนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 5 คน บุกเข้าไปในวิลล่าตัวเองบริเวณข้างสระว่ายน้ำ ขณะที่ตัวเองกำลังว่ายน้ำอยู่และก็สวมชุดว่ายน้ำ ตัวเองจึงรีบมาไล่ชาวจีนดังกล่าวออกไปจากพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง และได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับสามีทราบ


ส่วนเหตุการณ์ของคุณหมอเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.50 น. ตอนแรกตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ เนื่องจากตัวเองนอนอยู่กระทั่งได้ยินเสียงสามีเอะอะโวยวายมาจากบริเวณชายหาด จึงรีบวิ่งออกไปดูตอนนั้นยอมรับว่าตัวเองก็โมโหเหมือนกันจึงได้พูดคำหยาบออกมา ตามที่เป็นข่าว ยอมรับว่า ตอนนั้นตัวเองมีการโทรศัพท์หาตำรวจนายหนึ่งจริง แต่ขอไม่เอ่ยถึงตำรวจนายดังกล่าวว่าเขาเป็นใคร เพราะไม่อยากให้เขามากระทบกับเรื่องนี้ ส่วนที่มีข่าวว่าตัวเองพูดกับคุณหมอทำนองว่า “ต่อให้เป็นอะไรไป ก็ไม่สามารถทำอะไรฉันได้ เพราะฉันรู้จักรองผู้การนั้น” ตัวเองขอยืนยันว่าตัวเองไม่ได้พูดคำนี้


และที่ตัวเองพูดคำหยาบทำนองไล่คุณหมอ ซึ่งตอนนั้นตัวเองไม่รู้ว่าเขาคือหมอ ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้เคยมีกลุ่มชาวจีนบุกรุกเข้ามาในบ้านของของตัวเอง ตัวเองจึงได้พูดคำหยาบออกไป ทั้งที่ก็มีป้ายติดไว้ตรงบันไดว่า เป็นพื้นที่ส่วนตัว




ทีมข่าวจึงสอบถามคุณทราย ถึงประเด็นในคลิปตอนเกิดเหตุ ว่าตกลงแล้วคือการเตะคุณหมอ หรือแค่สะดุดล้ม เธอก็ตอบว่า ตอนแรกตัวเองได้สอบถามสามี สามีก็บอกว่าเขาสะดุดล้ม ตัวเองก็เชื่อในสิ่งที่สามีพูด แล้วที่เท้าของเขาก็มีบาดแผลบริเวณนิ้วเท้าอีกด้วย บวกกับนิสัยของสามีไม่ได้เป็นคนอันธพาล แม้แต่ยุงก็ไม่กล้าตี ตัวเองจึงเชื่อว่าเขาไม่น่าจะเตะคุณหมอแน่นอน


ส่วนประเด็นเกี่ยวกับบันไดที่เกิดเหตุหน้าวิลล่าของตัวเอง มีการรุกพื้นที่สาธารณะนั้น นางคนึงนิจ ตอบทีมข่าวว่า สำหรับวิลล่าจุดเกิดเหตุนั้นไม่ใช่ของตัวเอง ตัวเองเช่าอาศัยอยู่ ส่วนบันไดตรงจุดเกิดเหตุ เจ้าของวิลล่าเขาก็มีการก่อสร้างมาตั้งแต่ก่อนที่ตัวเองจะเข้ามาอยู่แล้ว หากหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะมีการรื้อถอนบันไดดังกล่าวออกไป ก็ไม่ติดใจ เพราะว่าตัวเองไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ดังกล่าว ยืนยันว่าตัวเองไม่เคยต่อเติมบันไดให้บุกรุกพื้นที่ออกมาแต่มีมานานแล้ว




นอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับแชตจากนายเดวิด ผู้ก่อเหตุ โดยเจ้าตัวส่งแชตให้ทีมข่าวดูเพื่อจะยืนยันว่า วันที่ภรรยาเล่นน้ำในสระว่ายน้ำแล้วถูกนักท่องเที่ยวชาวจีนบุกรุกเข้าไปในวิลล่า นายเดวิดส่งข้อความไปสอบถามเจ้าของโครงการ เพื่อให้ดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าตัว โดยในแชต มีการพูดคุยว่า (ฝั่งเดวิด) “ตอนนี้เริ่มจริงจังแล้ว!!! ฉันเพิ่งจะกลับบ้าน ภรรยาของฉันอยู่คนเดียวในสระน้ำ มีคนจีนกลุ่มหนึ่งขึ้นมาที่สระน้ำ ตอนนี้ฉันต้องการการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงที่ด้านล่างของเส้นทาง! ไม่น่าต้องห่วงเมียที่บ้าน!!! ทางเดินไปชายหาดควรจะปิดไม่ให้แขกของโรงแรมหรือควรมีการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงบนชายหาด!!!”


ฝั่งเจ้าของโครงการตอบว่า “โอเค จะหารือเรื่องความปลอดภัย เราไม่สามารถปิดทางเดินได้ โรงแรมมีทางเข้าถูกกฎหมาย เช่นเดียวกับแหลมและชาวบ้านในท้องถิ่น” ฝั่งนายเดวิดก็ตอบไปว่า “ขอบคุณ” ฝั่งเจ้าของโครงการได้ตอบกลับมาว่า “จะแจ้งให้โรงแรมแจ้งให้แขกทราบให้ดีขึ้นด้วยว่าวิลล่าเป็นส่วนตัวและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม”




อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าด้านแพทย์หญิง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า วันนี้คู่กรณีได้มีการแถลงข่าวขอโทษซึ่งเธอมองว่า หากเป็นการขอโทษมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เธอก็ยินยอมและจะรับคำขอโทษนั้น แต่ในเมื่อกระทำผิดไปแล้วก็ควรให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย


และนอกจากนี้เธอมองว่าการทำร้ายร่างกายไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร ไม่ว่าจะเป็นอาชีพไหนหรือคนประเทศอะไร คนก่อเหตุก็ไม่ควรใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนรับไม่ได้ มองว่าไม่ได้ส่งผลต่อสภาพร่างกายเพียงอย่างเดียว ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจอีกด้วย

 

ฝรั่งไหว้สวย! อ้างล้มไม่ได้ตั้งใจเตะหมอ ยอมรับข่มขู่รู้จักบิ๊กตำรวจจริง