กรณีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความว่า “นุ้ยอยากจะร้องขอความเป็นธรรม จะไม่ขอเงียบอีกต่อไปเเล้ว อยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพระเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ใน จ.นครศรีธรรมราช หลอกล่อให้เข้าไปบวชโดยเอาปัญหาที่นุ้ยเครียดในตอนนั้นมาอ้าง เเละขอให้มีอะไรด้วย อ้างว่าช่วยรักษาให้หายจากการถูกของ ทุกครั้งที่นุ้ยขัดขืนหรือต่อต้านที่จะไม่มีอะไรด้วยจะถูกเรียกออกไปให้นั่งสมาธิบ้างชวนคุยบ้างเเล้วก็ด่า ด่าสาดเสียเทเสียทุกคำที่ด่าออกมารุนเเรงมากเเละบังคับไม่ให้สึกเเละทุกครั้งที่นุ้ยขอสึก พระรูปนี้มักจะด่าว่าบวชเเล้วไม่สำนึกข้าวชาวบ้านเอามาถวายตั้งเท่าใดกินเข้าไปเท่าใด คนที่นุ้ยสงสารที่สุดคือชาวบ้านที่เค้าไม่ได้รู้สิ่งที่พระนี่ทำลงไปอ้างว่าทำเพื่อศาสนาทั้งนั้นนุ้ยได้พยายามหนี 2 ครั้ง เคยที่ขอให้คนที่บ้านมาขอสึกให้ถึง 3 ครั้ง พระรูปนี่ก็เอาเหตุผลมาอ้างให้ยายนุ้ยกลัว สึกเเล้วจะตายบ้างล่ะ ยายบาปมั่งล่ะ ยายเลยไม่กล้าขอให้นุ้ยกลับบ้าน

 

ซึ่งตอนนั้นนุ้ยยังไม่กล้าบอกใครเรื่องที่นุ้ยโดนบังคับให้มีอะไรด้วย นุ้ยที่มีความเครียดเดิมอยู่เเล้ว นุ้ยยิ่งเจ็บปวดบั่นทอนจิตใจมาก เครียดค่ะ  กลัวด้วย เเละพระรูปนั้นมักจะอ้างตัวเองว่าบวชเพื่อนิพพาน ที่คุยกับนุ้ยน่ะ บวชเพื่อนิพพานว่าการมีอะไรด้วยคือการชำระกรรม เเละมักจะบอกกับญาติโยมว่าละจากทางโลกหมดเเล้ว บวชเพื่อนิพพานอย่างเดียว

  

ซึ่งขัดเเย้งกับการกระทำมาก เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5 เดือนที่เเล้ว เก็บมาเครียดตลอด เป็นเเผลในใจไปเเล้ว ทุกวันนี้เห็นข่าวที่เกี่ยวกับพระกระทบกับจิตใจนุ้ยมาก นุ้ยทนกับความเครียดนี่ไม่ไหวเเล้ว จะไม่ทนเเล้ว ทนมามากพอเเล้ว ตอนเเรกที่เรื่องนี้เกิดขึ้นนุ้ยไม่กล้าเเจ้งความเพราะกลัวญาติพี่น้องคนใหญ่ๆในพื้นที่ของพระรูปนี้เค้าจะไม่เชื่อ

 

เพราะเคยมีก่อนหน้านี่ที่มีเเม่ชีเกือบรุ่นราวคราวเดียวกับนุ้ย อยู่ 2 รูปกับพระ เเละเรื่องนี้พระรูปนี่เป็นคนบอกนุ้ยเองว่ามีอะไรด้วยกันจริง เเละยังชะล่าใจ เมื่อทำกับใครเรื่องเงียบ เลยทำเเบบนี้มาเรื่อยๆ เเต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปตรวจสอบความเป็นจริงข้างใน เเละจนถึงตอนนี้นุ้ยก็ยังไม่ได้เเจ้งความเพราะหลักฐานเอาผิดไม่เพียงพอ ถึงนุ้ยเป็นคนที่ถูกกระทำ นุ้ยต้องทนกับความอับอายในใจนี่ไปตลอดเลยหรอ ถ้านุ้ยคิดฆ่าตัวตายเพราะความเครียดนี้ ใครจะรับผิดชอบ เเละพระรูปนี้ยังทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเเละทำเเบบนี้กับผู้หญิงที่เข้าไปบวชหลายคนเเล้ว เเต่นุ้ยจะไม่ขออ้างชื่อ อยากให้พวกเค้าช่วยกันออกมาเเหลงด้วยตัวเค้าเอง เเละ นุ้ยจะไม่ยอมให้พระรูปนี้ทำเเบบนี้กับคนที่หันหน้าเข้าพึ่งศาสนาเหมือนกับนุ้ยอีก ขอให้นุ้ยเป็นเหยื่อคนสุดท้ายเเค่นี้

 

ใครที่โดนกระทำเเบบนี้ออกมาช่วยกันยืนยัน ไม่ต้องเก็บไว้ในใจอีก เพราะนุ้ยก็ได้ออกเปิดเผยความจริงเเล้ว

 

#ขอความเป็นธรรมให้กับผู้หญิงที่โดนความเลวกระทำเหมือนนุ้ยด้วยนะคะ เเละขอให้พระรูปนี่ออกมารับความจริงด้วย เเละคุณต้องได้รับสิ่งที่คุณทำ

 

ใครจะซ้ำเติมหรือจะว่าเรา ใครจะประณามเราว่าพรือเราไม่ว่า เพราะที่ผ่านมาก็เครียดมามากพอเเล้ว 

 

วันนี้นุ้ยได้รวบรวมความกล้าทั้งหมดได้ออกมาบอกความจริงให้กับทุกคนเเล้ว เเละขอบคุณกำลังใจคนข้างกายที่บอกให้นุ้ยสู้ กับปัญหากับความเครียดที่นุ้ยเก็บมันมาตลอด จนทำให้นุ้ยกล้าออกมาบอกกับทุกคน

 

วันนี้ ทีมข่าวช่องแปดเดินทางมาพูดคุยกับนางสาวทับทิม (นามสมมติ) แม่ของผู้เสียหาย ซึ่งระหว่างที่ทีมข่าวสัมภาษณ์แม่ของผู้เสียหายอยู่นั้น  พบว่า ได้มีชายคนหนึ่ง พาพระรูปดังกล่าวนั่งรถยนต์ออกมาจากวัด ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามพระเจ้าอาวาสที่ถูกกล่าวหา ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พระรูปดังกล่าวก็ไม่ตอบคำถาม  พร้อมกับมีท่าทางหลับตา คล้ายทำสมาธิ

  

นางสาวทับทิม แม่ของผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว ตัวเองและลูกสาวที่มาบวชที่วัดแห่งนี้ โดยบวชชีด้วยกัน แต่ตัวเองจะออกมาก่อนประมาณช่วงเดือนมีนาคม  ซึ่งก่อนที่ตัวเองจะสึก ตัวเองก็ชวนลูกสาวศึกด้วยกันแล้ว แต่พระรูปดังกล่าวเค้าไม่ให้สึก โดยไปบอกกับยายเด็กว่า ถ้าสึกไปลูกสาวอาจจะมีกรรมจนถึงขั้นเสียชีวิตก็ได้

 

ที่ผ่านมาลูกสาวพยายามจะหนีออกมาจากวัดดังกล่าวหลายครั้งแล้ว แต่ก็ถูกพระรูปดังกล่าวข่มขู่เอาไว้ตลอด อ้างว่า ไม่สำนึกข้าวที่ชาวบ้านหามาให้

 

กระทั่งออกพรรษา หรือเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ลูกสาวจึงยอมสึกออกมาได้

 

พอลูกสาวสึกออกมาเขาก็  ได้เล่าความจริงให้ตัวเองฟัง ว่าเขาถูกพระดังกล่าวคืนใจหลายครั้ง แล้วยังมี ผู้หญิงคนอื่นที่ถูกหักรายนี้ขืนใจ เหมือนกับลูกสาวเช่นกันอีกด้วย

 

ตอนที่ลูกสาวโพสต์ Facebook  จะฆ่าตัวตาย ตัวเองรู้สึกตกใจมาก ซึ่งตอนนี้ลูกสาวอาศัยอยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัด และตัวเองก็พยายามให้กำลังใจลูกสาว เพื่อให้เขาใจเย็นๆ ตัวเองยินดีที่จะต่อสู้ให้ลูกสาวถึงที่สุด

 

ล่าสุดเวลา 20.30 น. กำนันตำบลห้วยพริก ได้พาพระที่ถูกกล่าวหามาพูดคุยให้ข้อมูลกับเจ้าคณะตำบล ซึ่งเป็นพระที่ปกครองพระรูปดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 30 นาที  โดยหลังจากที่พูดคุยเสร็จ นายชาญณรงค์ กำนันตำบลห้วยพริก ก็ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ผู้เสียหายร้องเรียนแล้วก็มาเล่าเรื่องราวให้กับตัวเองฟังตัวเองก็ได้ดำเนินการโดยไปพาพระรูปดังกล่าว มาพูดคุยหารือกับ เจ้าคณะตำบล ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลกับพระที่ถูกกล่าวหา เขาก็ปฏิเสธเรื่องเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศหญิงคนดังกล่าว โดยเขาปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำการตามที่ผู้หญิงดังกล่าวอ้าง ซึ่งตอนนี้ทางฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาผิดเพราะถูกกล่าวหา เกี่ยวกับคดีล่วงละเมิดได้ และจากการสอบถามผู้เสียหายเขาก็บอกว่าเขาไม่มีหลักฐานคลิปวิดีโอ หรือคลิปเสียงแต่อย่างใด

 

แต่พระที่ถูกกล่าวหาจะมีความผิด ในประเด็นที่พระที่ ถูกกล่าวหา ปล่อยให้มีการบวชชีอยู่ในสำนักสงฆ์  ซึ่งตามกฎของสำนักสงฆ์ดังกล่าว จะไม่สามารถบวชชีได้ เพราะไม่ใช่วัด ซึ่งทางพระที่ถูกกล่าวหาเขาก็ บอกว่าหลังจากนี้เขาจะขอไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งอื่น

แฉเจ้าวัดลวงสาวบวชชีแก้กรรมขยี้กามคาผ้าเหลือง พระโต้ไม่ได้ทำพร้อมให้สอบ