จากกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการจัดแข่งขันการตบหน้า ในวันเสาร์ - วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่มีการนำคลิปออกสู่สายตาประชาชน จนกลายเป็นเรื่องที่นำมาถกเถียงกันถึงความเหมาะสม หรือสมควรนำมาจัดแข่งขันหรือไม่นั้น



วันนี้ (29 ม.ค. 2567) ทีมข่าวได้มาพูดคุยกับนายฉัตรชัย กันใจ ผู้จัดการแข่งขัน TFFL.SLAP FIGHT และกรรมการในครั้งนี้ด้วย ซึ่งได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า การจัดการแข่งขันครั้งที่ 2 แต่เป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยการสมัครใจ และเป็นการแจ้งข่าวสารผ่านกลุ่มเฉพาะเท่านั้น ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เพราะผู้สมัครเรียกร้องอยากให้มีจึงจัดขึ้น



การแข่งขันจะมีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ๆ เข้ามาแข่งขัน และก่อนการแข่งขันจะต้องมีการตรวจเช็กร่างกาย พูดคุยถึงกติกาอย่างชัดเจน และมีการเซ็นชื่อยินยอมการแข่งขันทุกประการ มันอาจดูเป็นความแปลกใหม่สำหรับคนไทยและมองว่ามันรุนแรง แต่จริง ๆ แล้วกีฬาแบบนี้มีมานานแล้วในต่างประเทศ โดยกติกานั้นจะต้องยืนชิดโต๊ะทั้งคู่ และจะตบสลับกัน 3 ครั้ง คนชนะจะได้แต้ม เพื่อแข่งต่อ และชิงเงินรางวัลสูงสุดถึงหลักแสน

กีฬาดังกล่าว มันคือสัญลักษณ์ของกีฬาต่อสู้ที่นิยมชมชอบเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้เป็นที่รู้จักกว้างขวาง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยจัดกีฬามวยข้างถนนจนเป็นที่ยอมรับมาแล้ว ก็อยากให้กีฬานี้สักวันหนึ่งจะได้รับการยอมรับเช่นกัน



สำหรับคำวิจารณ์ ตนก็ทราบแต่ไม่ได้เอามาใส่ใจ เพราะคนที่ชื่นชอบก็ยังมี การแข่งขันลักษณะนี้ เหมาะกับคนที่ชอบความรุนแรงซึ่งมีอยู่พอสมควร ในการแข่งที่ผ่านมามีการแข่งวันละ 10 คู่ โดยกติกาการแข่งนั้น ให้โยนเหรียญหัว-ก้อย และใครชนะก็เก็บแต้มเพื่อเอาไปแข่งรอบหน้าจนถึงปลายปี หาเพียง 1 คนในแต่ละรุ่น

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายนาอีม บินฮาร์ (อีมผู้พัน) ผู้แข่งขันที่มีคลิปเผยแพร่ออกมา (ฝั่งผู้ชนะ) เผยว่า ตนเป็นคนชอบความรุนแรงอยู่แล้ว และแข่งมวยข้างถนนเป็นปกติมานาน เมื่อทราบว่ามีการจัดการแข่งแบบนี้ ก็อยากลองเพราะถึงจะเป็นคนที่ชอบความรุนแรง แต่จะไปใช้ผิดที่ผิดทางมันก็ไม่ใช่



สำหรับคลิปที่ออกมา เหล่าแฟนคลับก็ดีใจที่ตนกลับมา ซึ่งครั้งนี้ตนจริงจัง ไม่ใช่มาตบเพื่อความสะใจแต่มาเพื่อต้องการชนะ ไม่ได้มีความโกรธแค้นกับอีกฝ่ายแน่นอน และถ้าดูจากคลิปอาจจะรุนแรง แต่มันก็มีกติกาของการแข่งที่ต้องให้แรงเหวี่ยงไปแต่ตัวห้ามขยับ มันจะมีเทคนิคแต่ที่ตนทำได้เพราะตนมีทักษะการต่อยมวยอยู่ และจุดที่ตบต้องเป็นตรงแก้มและกลางผ่ามือเท่านั้นที่จะไม่ผิดกติกา ซึ่งตอนแข่ง แรงตบของอีกฝ่ายก็เรียกว่าไม่ได้แรงมาก ไม่ได้มึน แต่ก็ชาเหมือนกัน พร้อมมีรอยแผลตรงแก้ม ไม่แน่ใจว่าเขาตบลักษณะไหน แต่ยังมีรอยแผลอยู่ตอนนี้

สุดท้ายที่อยากขอก็คือการแข่งขันลักษณะนี้ คือความแปลกใหม่ คนอาจจะมองว่ามันรุนแรง ซึ่งมันก็รุนแรงแต่มันถูกที่ถูกเวลา และมันเป็นการจัดการแข่งขันที่ถูกต้อง ไม่ใช่ไปใช้ความรุนแรงจุดอื่นหรือกับคนอื่นที่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้ทำความเดือนร้อนให้ใคร อยากขอให้ทุกคนมองว่า มันเป็นกีฬาชนิดหนึ่ง และยืนยันว่าครั้งหน้าจะไปลงแข่งอีกแน่นอน