วันที่ 26 ม.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งใน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้ขึ้นโพสต์ติดตามหาตัวพี่สาวที่หายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบตัว โดยผู้ที่หายตัวไปคือ น.ส.อรทัย อายุ 46 ปี ซึ่งทางบรรดาญาติพี่น้องต่างมั่นใจว่าการหายตัวไปของ น.ส.อรทัย ในครั้งนี้น่าจะมีเงือนงำบางอย่าง เพราะมีมูลเหตุหลายอย่างที่น่าสงสัย เนื่องจากตัว น.ส.อรทัย หายไปแต่ตัว เอกสารประจำตัวสำคัญต่าง ๆ ทั้งบัตรประจำตัวประชาชน เอทีเอ็ม สมุดธนาคาร เสื้อผ้า รองเท้า แม้กระทั่งนาฬิกาเรือนโปรดก็ยังอยู่ที่บ้านทั้งหมด



จากข้อมูลทราบว่า น.ส.อรทัย ได้จดทะเบียนสมรสอยู่กินกับสามี (คนที่ 1) ชาวสวิตเซอร์แลนด์ และอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาได้ประมาณ 2 ปีเศษแล้ว จากนั้นสามีเสียชีวิตเมื่อปี 2563 และได้ทิ้งทรัพย์สินมูลค่ากว่า 13 ล้านบาท เอาไว้ให้

ต่อมาปี 2564 หลังจากที่สามีเก่าเสียชีวิต น.ส.อรทัย ก็ได้พบรักกับสามี (คนที่ 2) นายโรแลน สามีคนปัจจุบัน และตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย ซึ่งฝ่ายชายก็ได้ลาออกจากงานกลับมาอยู่ด้วย พร้อมเปลี่ยนนามสกุลตามภรรยาด้วย



จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 8 ม.ค. 2567 เวลา 22.12.57 น. สามารถจับภาพเหตุการณ์หน้าบ้านของ น.ส.อรทัย โดยในภาพจะเห็นว่านายโรแลนได้เปิดประตูออกมาหยิบรองเท้าผ้าใบ ซึ่งจะสังเกตว่านายโรแลนนั้นได้สวมเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ แต่ก่อนหน้านั้นทางด้านนายโรแลนได้บอกกับญาติ ๆ ว่ากำลังจะเข้านอนแล้ว ซึ่งญาติก็ยืนยันว่านายโรแลนได้สวมกางเกงขาสั้นเตรียมจะเข้านอนแล้วจริง ๆ แต่ทำไมในวงจรปิดนายโรแลนถึงได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและออกมาเอารองเท้าผ้าใบ

โดยในเวลา 22.40.16 น. กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพขณะที่นายโรแลนได้ออกมาจากบ้านพร้อมกับหยิบอิฐบล็อกเข้าไป ซึ่งพฤติกรรมของนายโรแลนนั้นแปลก เนื่องจากนายโรแลนไม่ได้เดินออกมาทางประตู แต่เขากลับปีนออกมาทางด้านหน้าต่างแทน ซึ่งขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ก็ได้พยายามเดินตามหาอิฐบล็อกดังกล่าว ญาติได้ให้ข้อมูลว่า เดิมทีมีอิฐบล็อกตั้งอยู่หน้าบ้าน 3 ก้อน แต่ตอนที่ทีมข่าวไปสำรวจมีเหลือเพียงครึ่งก้อน

ต่อมาในเวลา 23.48.15 น. กล้องสามารถจับภาพนาทีที่นายโรแลนได้เอารถ จยย. ออกจากบ้าน แต่เส้นทางที่นายโรแลนขับออกไปนั้น เป็นเส้นทางที่อ้อมไปทางบริเวณด้านหลังบ้าน ซึ่งกล้องไม่สามารถส่องไปเห็นว่านายโรแลนได้ออกไปกับใคร



จากนั้นภาพจากกล้องวงจรปิดในเวลา 00.44 น. ของวันที่ 9 ม.ค. 2567 บริเวณปากซอยเข้าบ้านสามารถจับภาพชายปริศนาคนหนึ่ง ซึ่งญาติมั่นใจว่าเป็นนายโรแลนเพราะในภาพจะเห็นว่าเขากำลังเดินเท้าอยู่ตามทางถนน โดยเป็นเส้นทางที่จะกลับมายังบ้านพักของ น.ส.อรทัย (ผู้หาย)

ต่อมาเวลา 00.56.43 น. เป็นหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าชายชุดดำที่เห็นก่อนหน้านี้เป็นนายโรแลนจริง ๆ เนื่องจากชายชุดดำคนดังกล่าวได้เดินทางกลับมาที่บ้านของ น.ส.อรทัย และได้เดินเข้าไปยังบ้านพัก

จากนั้นช่วงเช้าเวลา 06.17.42 น. ของวันที่ 9 ม.ค. นายโรแลนได้มีการขนกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากบ้านใส่รถเก๋งสีดำ และในเวลา 06.22 น. นายโรแลนก็ได้เดินมาคุยกับผู้เป็นพ่อของ น.ส.อรทัย และก็ได้ขับรถออกจากไปในเวลา 06.24 น.



วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ นางสาวธิดารัตน์ อายุ 31 ปี น้องสาวของ น.ส.อรทัย เผยว่า ครั้งสุดท้ายที่ตนเจอพี่สาวคือวันที่ 8 ม.ค. 67 เวลาประมาณ 20.30 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งทานข้าวอยู่หน้าบ้านก็เห็นว่า น.ส.อรทัย พี่สาวนั้นเปิดประตูออกมาแต่พี่ก็ไม่ได้พูดอะไร เท่าที่เห็นตอนนั้นสภาพพี่สาวคือเหมือนคนเหม่อลอยและมีการร้องไห้ แต่จากนั้นพี่สาวก็ได้ปิดประตูกลับเข้าไปในบ้านทันที

จนกระทั่งเช้าวันต่อมาวันที่ 9 ม.ค. ตนก็เปิดบ้านมาขายของตามปกติ ซึ่งทุกเช้าพี่สาวจะมานั่งรอเพื่อช่วยตนขายของแต่ปรากฏว่าวันนั้นพี่ไม่ได้ออกมาช่วยตน ในตอนแรกตนก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งช่วงสาย ๆ ก็เห็นว่าแฟนชาวต่างชาติของพี่สาวกำลังจะขับรถออกจากบ้าน ตนจึงเข้าไปถามหาพี่สาว ตอนนั้นนายโรแลนสามีของพี่สาวก็ได้บอกว่า พี่สาวของตนไปเล่นไพ่ จากนั้นนายโรแลนก็ได้ขับรถยนต์ออกไปทันที

เบื้องต้นเท่าที่ทราบ นายโรแลนกับพี่สาวตนนั้นคบหากันมาได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งนายโรแลนคือสามีคนที่ 2 ของพี่สาว โดยทั้งคู่ไม่ได้มีงานมีการทำเป็นหลักแหล่ง แต่ทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะรักใคร่กันดี ซึ่งก็มีบ้างที่ทั้งคู่จะทะเลาะกัน โดยเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนพี่สาวได้เดินมาหาตนพร้อมกับเล่าว่า พี่สาวจับได้ว่านายโรแลนแอบไปมีชู้ ทั้งคู่จึงมีปากเสียงกันยกใหญ่ ทำให้นายโรแลนตบตีและทำร้ายพี่สาว

ต่อมาจุดที่ทำให้ตนรู้สึกว่ามันแปลก ๆ คือโทรศัพท์หาพี่สาวเท่าไรก็ไม่มีคนรับสาย ซ้ำยังปิดเครื่องอีก ซึ่งผิดกับลักษณะนิสัยของพี่สาวตน ตนจึงได้ชวนญาติออกไปค้นหา จนไปพบกับรถจักรยานยนต์ สีขาว ที่จอดอยู่บริเวณทุ่งนา นอกจากนี้ใกล้กันก็พบหมวกกันน็อกอยู่ในสภาพที่ถูกเผาจนไหม้เกรียม ซึ่งตนก็ได้ถามนายโรแลนว่าได้ขับไปหรือเปล่า ทางด้านนายโรแลนก็อ้างว่าไม่ได้ขับไป แต่เห็นว่า น.ส.อรทัย ขับไปนะ ซึ่งในฐานะที่ตนเป็นน้องสาว ตนไม่เชื่อว่าพี่สาวน้ำหนักเพียง 37 กิโลกรัม จะสามารถขับรถคันใหญ่ได้ เพราะ น.ส.อรทัย เคยพยายามจะขับรถคันดังกล่าวหลายครั้งแต่ก็เสียหลักล้มตลอด



ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 18 วัน ตนก็พยายามถามนายโรแลนตลอดว่าเจอ น.ส.อรทัย บ้างไหม แต่นายโรแลนก็ตอบเพียงว่า “ไม่รู้ ไม่รู้” ซึ่งตนมองว่ามันไม่ใช่ เพราะเขาอยู่ด้วยกันเพียงแค่สองคน หากอีกคนหนึ่งหายไปทำไมถึงจะไม่รู้เลย นอกจากนี้นายโรแลนก็ทำเพียงแค่เก็บตัวนอนอยู่ในบ้าน ไม่เคยออกไปช่วยตามหา น.ส.อรทัย ที่เป็นแฟนของเขาเลย

ในส่วนของความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ได้แจ้งความคืบหน้าอะไรกับทางครอบครัว ซึ่งก็กินเวลา 18 วันแล้ว ตอนนี้ครอบครัวก็รู้สึกร้อนใจ อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยเร่งหาตัว น.ส.อรทัย เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับนายโรแลน ซึ่งก็ยินดีให้ข้อมูล ผ่านทางลูกสาวของ น.ส.อรทัย ว่า ก่อนที่ภรรยาจะหายตัวไป ได้เกิดมีปากเสียงกันค่อนข้างรุนแรง เรื่องทริปที่จะเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่ป่วยเป็นมะเร็งที่พัทยา ซึ่งมีความเห็นไม่ตรงกัน จากนั้นตัวเองก็เข้าไปนอนในห้อง จากนั้นก็ไม่เห็นภรรยาอีก จึงเดินทางไปพัทยาเพียงลำพังและกลับมาก็ไม่เห็นภรรยากลับเข้าบ้านมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนความรู้สึกตอนนี้คิดถึงและเป็นห่วงภรรยา ยังมีความหวังว่าภรรยาจะกลับบ้านมาโดยเร็ว เมื่อไม่มีภรรยาแล้วตัวเองก็ไมรู้จะทำยังไงต่อไป เพราะตอนนี้ก็ฝากชีวิตเอาไว้ที่นี่แล้ว



ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ นายทอด อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ น.ส.อรทัย (คนหาย) โดยนายทอด เผยว่า ล่าสุดที่ตนเห็นลูกสาวคือช่วงเช้าของวันที่ 8 ม.ค. 2567 หลังจากนั้นลูกสาวได้หายหน้าหายตาไปเลย จนกระทั่งตอนที่ญาติได้ไปพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่บริเวณทุ่งนา ตนก็รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี กลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับลูกสาว ซึ่งตนก็พยายามถามหาลูกสาวจากนายโรแลนผู้เป็นลูกเขย แต่นายโรแลนก็ไม่ได้ตอบอะไร ทำเพียงแค่เดินเข้ามาจับไหล่ตนแล้วก็เดินออกไป

นายทอดยืนยันว่าตลอดเวลา 18 วันที่ผ่านมา นายโรแลนไม่เคยออกไปช่วยตามหา น.ส.อรทัย เลย เขาทำเพียงแค่กินนอนอยู่ภายในบ้านก็เท่านั้น ซึ่งตนก็ได้ไปแจ้งตำรวจให้ช่วยออกตามหาตัวลูกสาว จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติม แต่ตำรวจก็ได้ให้แนวทางโดยบอกว่า “ลองไปหาหมอดูสิ เพิ่งไสยศาสตร์ดูก็ไม่เสียหาย” ซึ่งตนก็เชื่อและลองไปหาหมอดูก็ได้บอกว่า น.ส.อรทัย จะกลับบ้าน ตนก็เชื่อว่าลูกจะกลับบ้าน จึงได้ออกมานั่งรอลูกสาวที่หน้าบ้านทุกวัน เป็นเวลากว่า 18 วันแล้ว ก็ยังไร้วี่แววที่ลูกสาวจะกลับมาหา



ล่าสุดเวลา 20.55 น. ได้มีโทรศัพท์สายปริศนาโทรเข้ามาหาญาติของ น.ส.อรทัย โดยปลายสายได้มีการอ้างว่า ตัวเองนั้นเป็นคนกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ลูกสาวของตนได้ถูกผีสิง โดยวิญญาณที่มาสิงบอกว่าเขาชื่อ อรทัย และได้ให้โทรศัพท์ติดต่อมาที่เบอร์นี้ จากนั้นคนดังกล่าวก็ได้กรีดร้องพร้อมกับบอกว่า “ช่วยพี่ด้วย ช่วยพี่ด้วย พี่หนาวมาก มันจับพี่ใส่ถุงดำ มันเอาพี่ไปโยนสระน้ำ มาเอาพี่ขึ้นไปหน่อย” ทำเอาญาติ ๆ นั้นตกใจพากันร้องไห้ด้วยความตกใจและเสียใจ

นอกจากนี้ทางปลายสายก็ได้มีการเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด โดยสามารถบอกรายละเอียดได้ทุกอย่างว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยมีการพูดถึงรถจักรยานยนต์สีขาว ซึ่งตรงกับรถที่จอดอยู่บริเวณทุ่งนาและเป็นรถที่นายโรแลนใช้อยู่ประจำทุกวัน พร้อมกับมีการพูดว่า “อิฐ อิฐบล็อก” จากนั้นปลายสายก็ได้ร้องไห้อย่างหนัก ซึ่งญาติ ๆ ก็พากันขวัญเสียและตกใจอย่างมาก พร้อมกับทำการประสานแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำการนัดงมหา น.ส.อรทัย ที่สระน้ำที่เป็นจุดพบรถจักรยานยนต์ด้วย โดยห่างจากบ้านประมาณ 1.4 กิโลเมตร ในพรุ่งนี้เช้าทันที

ส่อพิรุธ! สาวไทยรับ 13 ล้านหายตัว อึ้งผัวฝรั่งคว้าหินเข้าห้อง บุกค้นเจอรอยไหม้