เรียกได้ว่ายังเป็นประเด็นร้อนที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องราวของสาวสวย “เมรี คัมภีร์” ลูกสาวของนักร้องดัง “ปู-พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์” ที่ออกมาเปิดใจเรื่องราวชีวิตตนเองที่กำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว โดยที่เธอจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่จำเป็นต้องมีพ่อของลูก

ในคลิปเปิดใจเมรี เล่าว่า “จริง ๆ แล้วก่อนหน้าที่จะเลิกกัน 1-2 เดือน เราคุยกันมาตลอดว่าเมประจำเดือนไม่มา แต่เราไม่ได้คิดที่จะตรวจเพราะเราไม่คิดว่าเราจะต้องเลิกกัน เราก็ 30 กว่ากันแล้ว ถ้าจะมีก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ อยู่ด้วยกัน เลี้ยงด้วยกัน สู้ไปด้วยกัน แต่พอมาถึงวันที่มันเลิกกันจริง ๆ เมก็มานึกได้ว่าลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง เมก็เลยไปตรวจ ผลก็ออกมาตามนั้น แต่เมยังไม่ได้ไปอัลตร้าซาวด์ ก็เลยไม่แน่ใจว่าจะท้องหรือไม่ท้อง ก็บอกเขาก่อนแต่เขาในตอนนั้น เมเข้าใจนะว่ามันไม่แปลกที่เขาจะไม่เชื่อ เขาคงมองว่าเมจะใช้มุกนี้เหรอ เอาจริงดิ เมเลยได้ ถ้างั้นไปตรวจด้วยกันไหม เขาก็ไม่ไป สุดท้ายเมไปคนเดียว พอได้ผลออกมา เขาก็บล็อกเมหนีหายไปแล้ว”



แม้จะไม่ได้เอ่ยว่าผู้ชายคือใคร แต่หลายคนทราบดีว่าก่อนหน้านี้เมรีกำลังคบอยู่กับ “แอมมี่ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์” หรือ แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ (The Bottom Blues)

ต่อมาวันที่ 7 ม.ค. 2567 แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ ได้โพสต์ในไอจี พร้อมข้อความแชตที่คุยกับเมรี ถึงเรื่องมีการตั้งครรภ์และปัญหาที่เกิดขึ้นจนไปต่อกันไม่ได้ ซึ่ง แอมมี่ ได้ระบุข้อความว่า “ผมเลิกกับเมรีก่อนหน้าที่จะรู้เรื่องตั้งท้อง หรือก่อนที่เขาจะไปตรวจครรภ์ แรกเริ่มที่ทราบข่าวผมแสดงการรับผิดชอบ และขอคุยถึงการวางแผนการฝากครรภ์ทันทีไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ที่ผมขอคุยเรื่องนี้

ส่วนเหตุผลที่ผมขอเลิกก่อนหน้านี้ มี 3 เหตุผลหลัก 1. เรื่องการขู่ทำร้ายลูกสาวผม 2. เรื่องใส่ความผมกับค่ายต้นสังกัด 3. การแฉในรอบแรกที่เขายอมรับในภายหลังว่า เป็นคนสร้างข่าวเอง และรู้จักกับนักข่าว และเพจเจ้าของต้นเรื่อง ผมมีหลักฐานทั้งแชตทั้งหมด พยานบุคคล และ CCTV จะเปิดเผยทั้งหมดในวันพรุ่งนี้”



ขณะที่ เมรี ก็ได้ออกมาไลฟ์ผ่าน TikTok ตัวเอง เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเนื้อหาใจความสรุปได้ประมาณว่า “เรื่องที่เมขู่ทำร้ายลูกสาวเขาเมย์ไม่ได้ขู่ทำร้าย ตอนนั้นเมมองว่ามันเป็นความผิดร้ายแรงที่เมได้พูดไปตอนสติแตกกว่า “กูจะบอกลูกมึง ว่ามึงทำอะไรไว้บ้างแค่นี้” ไม่มีคำว่าทำร้าย แต่โอเค การที่เมพูดไปแบบนี้ มันอาจทำร้ายจิตใจลูกเขา ซึ่งนี่แหละเป็นเรื่องเดียวเลยที่เมรู้สึกว่าสมควรแล้วที่เขาไม่กลับมา แต่ตอนนั้นเมพูดไม่ได้คิดอะไร แต่ปากมันเก่ง

กรณีเรื่องที่เมถูกทำร้าย มันเริ่มจาก ตบ และก็ค่อย ๆ มาเรื่อย ๆ ทั้งกระชากผม ลากไปกับพื้น และก็ถีบ นั่งก็ถีบทุกอย่างแค่ไม่ได้ใช้อาวุธ และเรื่องพ่อ เมรู้ว่าพ่อเสียใจ เมรู้ว่าพ่อทั้งโกรธทั้งเสียใจ ไม่ได้โกรธแค่มัน โกรธเมด้วย จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับพ่อ เพราะพ่อยังไปทัวร์อยู่ แต่เมส่งข้อความหาเขาแล้ว ว่าเมย์ขอโทษเมรักเขาแค่ไหน และพ่อก็กำลังครุ่นคิดและสงบสติของเขาอยู่

นอกจากนี้ เมรี ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมทั้งแชตที่คุยกับแอมมี่ โดยระบุข้อความว่า “ตัวอย่างการลงแชตที่ถูกต้อง... [แชตข้อความวันที่ตั้งใจไปแจ้งเขาถึงบ้านว่าตรวจขึ้น 2 ขีด แล้วเขาไม่ยอมออกมา แล้วบอกจะเอาตำรวจมาไล่เม สุดท้ายเมกลับบ้านแล้วส่งข้อความตามนี้]



โดยในแชตนั้นแอมมี่ใช้คำว่า กู-มึง และในแชตเมรี ยังได้อธิบายเรื่องที่ข่มขู่ลูกกับจะเอาเข้าคุกว่า เป็นเพราะอารมณ์ ไม่ได้จะทำจริง ๆ ส่วนเรื่องต้นสังกัดก็เคลียร์ให้แล้ว นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า ตอนแรกก็ว่าจะคุยดี ๆ แต่ถ้าลูกเมเกิดมามีพ่อที่เกลียดเขาขนาดนี้ เมก็สงสารลูก ซึ่งแอมมี่ก็ตอบกลับไปว่า “ไม่ควรมีเด็กที่เกิดจากมึง”

ด้าน กานต์ วิภากร ภรรยา เสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดัง ก็ได้ออกมาโพสต์ถึงประเด็นนี้ด้วยว่า “โพสต์ที่ 2 นะคะ ในฐานะเมื่อก่อนนี้เป็น FC พี่ปูพงษ์สิทธิ์ และเสกโลโซได้นำเพลงสุดใจของพี่ปู มาร้องจีบเรา บนเวทีในผับแห่งต่าง ๆ ตอนนั้นเป็นแค่นักดนตรีประจำในผับ เราอายุ 19 พี่เสกอายุ 17 วันเวลาผ่านไปก็เข้าพวกกัน ทั้งหมดสนิทกันรักกันพาลูกไปเที่ยวบ้านพี่ปูวิ่งเล่นกันตอน ลูกเด็ก ๆ ไม่พูดยืดยาวเข้าเรื่องเลยค่ะ

1. ถึงพี่ปูพงษ์สิทธิ์คัมภีร์ กานต์ เสกเป็นห่วงและคิดถึงพี่เสมอ พี่ปูอาจไม่มีอะไรไม่เป็นอะไรเลย ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยอันนี้เราก็ไม่รู้หรอก แต่แค่เราพูดแค่มุมของเราแค่นั้นนะคะ เป็นกังวลและอยากไปหาพี่ปู หรือไปเยี่ยมแต่ไม่ไปเลยนี้แน่นอนค่ะ ได้แต่ส่งกำลังใจและข้อความเหล่านี้ไปหาพี่ ส่งได้แค่กำลังใจขอโทษนะคะ

“เดี๋ยวกานต์จะจัดการไอ้แอมมี่ The Bottom Blues ด้วยตัวเองคนเดียว ทางโซเชียลเนี่ยแล้วจะรู้ว่ามันเกินทน! แค่ตุ๊ดตัวหนึ่งสาบานเลยพูดเรื่องจริง! มึงรู้มั้ยมึงหยามพี่ปูพงษ์สิทธิ์ของกูอย่างเหลวแหลกไม่มีชิ้นดี ถึงเขาจะอภัยให้มึง หรือปล่อยวางหรือไม่สนใจอะไรก็แล้วแต่ แต่กูคนนี้ ไม่มีวันอภัยให้มึงในเรื่องนี้ เพราะพี่ชายของกู กูไม่เคยสนใจสุงสิงอะไรกับมึงมามานานมากไม่เคยคุยกันอะไรเลย เจอแป๊บ ๆ ครั้งสองครั้ง เห็นทักทายไม่มีต่อเนื่อง แต่มึงเข้าใจนะว่ามึงทำความวิบัติให้หัวอกของลูกผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อว่าพ่อเขาเสียใจขนาดไหน มึงยังไม่รู้หรอกเพราะมึงหน้าหม้อไม่หยุดลูกมึงอ่ะ ดูเอาเองแล้วกันมันยังอยู่แกรมมี่อยู่หรือเปล่า ค่ายไหนในแกรมมี่? บอกเตรียมตัวเลย ถ้ารักไอ้ตัวมากซึ่งคือทำเพลงเก็บรักแล้วก็กำแพงดังขนมไปแค่สองเพลงกลาง”

ล่าสุดเมรี ได้โพสต์ไอจีสตอรี่เป็นภาพใส่ชุดว่ายน้ำพร้อมเอามือจับที่ท้องและระบุข้อความว่า “ลุย”

ด้านนายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ หรือ ทนายชายพัฒน์ ทนายเมียหลวง ให้ข้อมูลว่า กรณีแบบนี้แม้จะเลิกรากันไปแต่ถ้าวันหนึ่งผู้หญิงคลอดบุตรออกมา ก็สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูได้ ถ้าผู้ชายปฏิเสธผู้หญิงก็มีสิทธิ์ในการฟ้องศาลขอให้ตรวจดีเอ็นเอ แต่หากผู้ชายปฏิเสธที่จะตรวจดีเอ็นเออีกศาลสามารถชี้ได้ เพราะเขาขายข้อสันนิษฐานตามกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1555

ส่วนประโยคที่ผู้ชายบอกว่า “ลูกไม่น่าจะมาเกิดกับผู้หญิงคนนี้” ส่วนตัวมองว่า ประโยคนี้ยังไม่ถึงขั้นเข้าข่ายหมิ่นประมาท เพราะยังไม่บอกว่าไม่ควรมาเกิดกับคนนี้เพราะอะไร ยังไง ไม่ดีตรงไหน ยังไม่ชัดเจนขนาดนั้น มันยังเป็นคำที่ค่อนข้างกำกวมอยู่

ล่าสุด ทีมข่าวได้พูดคุยกับผู้จัดการของแอมมี่ ซึ่งได้เผยว่า ตอนนี้แอมมี่ยังไม่น่าจะตื่น เพราะเมื่อคืนเครียดมาก และกินยานอนหลับไป และในวันนี้จะมีการประชุมกันในเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ส่วนในประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ฝ่ายหญิง ข่มขู่ลูกของแอมมี่ หรือประเด็นการพูดเรื่องใส่ร้ายกับทางค่าย คงต้องรอให้แอมมี่ออกมาพูดเองจะดีกว่า

 

ทนายเมียหลวงดึงสติแอมมี่ ทำเมรีท้องไม่รับส่อซวย เตือนแซะ "เด็กไม่ควรเกิด" งานเข้าแน่