หลังจาก เชฟปลื้ม ออกมาโพสต์และไลฟ์เปิดใจรับผิดนอกใจ แอนนี่ ทั้งที่ยังไม่เลิกกัน แล้วไปสานสัมพันธ์ เบียร์ เดอะวอยซ์ ยืนยัน แค่จูบไม่มีความสัมพันธ์เกินเลย และยืนยันว่าทำหน้าที่แฟนได้ดีที่สุดแล้ว ขอโทษทั้งแอนนี่ เบียร์ และสังคม






ด้าน แอนนี่ ได้มีความเคลื่อนไหวโดยการโพสต์ข้อความสั้น ๆ ว่า “ผิดหวังสุดๆ” พร้อมทั้งยังโพสต์ข้อความจากเนื้อเพลง สตรอง ของศิลปินวง MEAN ที่มีเนื้อหาว่า “บาดแผลที่ฝากเอาไว้ มันทำให้ได้เรียนรู้ Breaking up with you Made me strong” โดยมีชาวเน็ตเข้ามาส่งกำลังใจจำนวนมาก ขอให้เป็นบทเรียนชีวิต ขอให้เข้มแข็งและเจอคนที่ดี

ขณะที่ทาง เบียร์ เดอะวอยซ์ หลังเจอกระแสดราม่าตีกลับรุนแรง ล่าสุดเจ้าตัวประกาศจบศึก โดยการออกมาโพสต์ข้อความ เมื่อเวลา 02.54 น. ที่ผ่านมา ด้วยว่า “ขอโทษนะคะที่ทำให้ทุกคนไม่ได้นอนมาหลายวัน เบียร์ผิดเองในทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้น ขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขอเวลาเบียร์อยู่ทบทวนตัวเองและปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นกว่านี้ ขอโทษนะคะ ”



อีกทั้งยังมาคอมเมนต์เพิ่มเติมใต้โพสต์ดังกล่าวอีกว่า “เบียร์อาจไปทำร้ายใคร ก็ขอโทษจริง ๆ ค่ะ เบียร์เองก็โดนทำร้ายมาเช่นกันไม่ต่างจากใคร ถ้าใครจะซ้ำเติม เบียร์ขอไม่สนใจแล้วจริง ๆ เบียร์ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตให้มีความสุขในทุกๆวันนะคะ :)))”

ขณะที่มีคนเข้ามาคอมเมนต์ด้วยว่า “ถ้าพิมพ์แบบนี้ตั้งแต่วันแรกก็ไม่ยาวขนาดนี้ เขาด่าเบียร์ทั้งเฟซฯ แล้วกูดันเชื่อเบียร์ ก็สะดุ้งทั้งวัน” ทำให้เบียร์ต้องเข้ามาคอมเมนต์ตอบด้วยว่า “ขอโทษน้า”

ล่าสุด (6 ม.ค. 2567) คุณแพรจ๋า เดอะวอยซ์ ได้ออกมาพูดถึงกรณีให้กำลัง “เบียร์ เดอะวอยซ์” ว่าด้วยภาพลักษณ์ที่เซ็กซี่ และเมื่อทราบเรื่องก็เลยอยากโพสต์ให้กำลังใจ เมื่อยิ่งได้ส่งข้อความหาและการตอบกลับมาของน้องเขาก็ทำให้เชื่อได้ว่า น้องไม่ทำและบริสุทธิ์ใจในเรื่องที่เกิดขึ้น



ทั้งนี้ เมื่อผ่านมา 5 วันก็เพิ่งได้มีเวลากลับมาดูข้อความ และคอมเมนต์ต่าง ๆ ก็มีแต่กระแสเป็นลบ แต่ก็ยอมรับว่าเรื่องหลังจากวันแรกจนถึงวันนี้มันมาไกลมาก และยิ่งได้ฟังการไลฟ์สดของน้องและคุณปลื้ม หรือคลิปเสียงที่ออกมาก็ทำให้คิดได้ว่า กัลยาณมิตรเป็นสิ่งสำคัญ อยากให้ช่วยเตือนน้อง และขอเป็นกำลังใจให้คุณแอนนี่ผ่านเรื่องนี้ให้ได้นะคะ

ขณะที่ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ คุณอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ หรือ ทนายชายพัฒน์ ในเรื่องประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นของความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายไม่ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่ยังไม่มีการจดทะเบียนสมรสกันนั้น ในมุมของกฎหมายก็ไม่สามารถเรียกร้องหรือดำเนินการได้



ดังนั้น กรณีดังกล่าวก็ไม่สามารถดำเนินในเรื่องของคดีครอบครัวได้ และในเรื่องของการอัดเสียงหรือการไลฟ์สดที่มันมีออกมา มันมีผล ถ้าสมมุติว่าไลฟ์แล้วเกิดกระทบของบุคคลอื่น มันก็ต้องไปดูว่า 1. หมิ่นประมาทไหม 2. เป็นการละเมิดเป็นการขายข่าวทำให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหายอันเป็นคดีแพ่งไป

2 ประโยคที่ “เบียร์ เดอะวอยซ์” พูดนั้น “ต่อให้ไม่มีเบียร์อะ ผู้ชายเขาก็ไม่กลับไปเอา” คำนี้ค่อนข้างเป็นคำเยาะเย้ยถากถาง แต่ว่าเท่าที่ความคิดผมนะ น่าจะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่อาจจะไม่สุภาพไม่สมควรพูดออกมา แต่สำหรับประโยค “เป็นATM-เป็นที่นอน” ถ้าบริบทนี้ เป็นการเปิดเผยแก่บุคคลที่สามและมีจำนวนมาก

กระแสสังคมและคนทั่วไปก็เข้าใจว่ายังไง ถ้าคนทั่วไปเข้าใจว่าคุณแอนนี่เข้ามาเกาะผู้ชายอาจจะเข้าข่ายในเรื่องของหมิ่นประมาทได้เหมือนกัน ถ้าได้รับความเสียหายก็จะโดนเรื่องของละเมิดเป็นคดีอาญาและคดีแพ่ง

ส่วนของเรื่องการปล่อยคลิปเสียงระหว่างผู้จัดการกับน้องเบียร์ทุกคนมีสิทธิ์บันทึกได้ แต่เพียงถ้าปล่อยแล้วไปเพิ่มเติมข้อความหรือปล่อยแล้วเจตนาทำให้บุคคลอื่นเสียหาย เพิ่มเติมข้อความดัดแปลงทำในลักษณะที่เป็นการใส่ความบุคคลอื่นอาจจะผิดประมาท ถ้ามีหลักฐานชัดแบบนั้นอาจจะได้ แล้วก็ต้องมามองอีกทีหนึ่งว่า ถ้าเป็นการปล่อยและจูงใจให้เขารับความเสียหายอาจจะไม่ผิดประมาท แต่อาจจะผิดแค่ละเมิดเป็นคดีแพ่ง ทั้งนี้ก็ต้องไปดูเพิ่มเติมว่าเจตนาอะไรยังไง

ส่วนถ้าในกรณีนี้ ทางคุณแอนนี่และคุณปลื้มจดทะเบียนสมรส และออกมาเจอพฤติกรรมอย่างที่เป็นข่าวนั้น ก็สามารถดำเนินคดีเพราะเป็นพฤติกรรมที่เรียกได้ว่า มือที่สาม และสามารถเอาผิดได้ ดังนั้น อยากบอกว่าในทางกฎหมายยังไง ใบทะเบียนสมรสก็ยังมีผลต่อการใช้ชีวิตคู่หรือการเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ

ขณะที่ เมย์ เฟื่องอารมณ์ ภรรยาของ หนุ่ม กรรชัย ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความโยงถึงเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ระบุว่า "ไหว้ตรูทำไมกันเนี่ย !! #newyear2024 ไม่ดราม่ากันแล้วนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขในปีนี้กันนะคะ"

แพรจ๋า เดอะวอยซ์ คิดได้แล้วเชียร์ผิดฝ่าย ดึงสติ "เบียร์" จงหยุด-เจ้าตัวยอมยกธง