จากกรณีนายอนุชิต ยูทูบเบอร์แฟนคลับของ “ลุงพล” ออกมาวิจารณ์ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผ่านโซเชียลว่า เป็นายตำรวจไม่ดี บางช่วงลามไปถึงองค์กรด้วย ทำให้ต่อมาอดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จึงเดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.66 ให้ดำเนินคดีกับนายอนุชิตขั้นเด็ดขาด

หลังเกิดเรื่องขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดกันขึ้น มีรายงานนายอนุชิตยูทูบเบอร์เอฟซีลุงพลออกมาอ้างท่านเรวัชให้ตนเองอภัยแล้ว แต่ปรากฏเวลาต่อมาผู้พิทักษ์สันติราษฎร์รุ่นเก๋า ก็ออกมายืนยันว่าจะดำเนินคดีนายอนุชิตให้ถึงที่สุด และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีการแจ้งคามเอาผิดกับยูทูบเบอร์ด้วย

ล่าสุด พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกสร ก็ได้ไลฟ์สดอัปเดตความคืบหน้าโดยบอกว่าล่าสุดทางนายอนุชิตได้ลาบวชทำให้ตนเอง

“พระอาทิตย์ตกดินแล้วก็คุณอนุชิตที่ผมไปแจ้งความ ผมก็พูดผ่านไลฟ์ไปเมื่อช่วงเช้าว่าไปบวชซะเถอะไป ผมจะเป็นคนอโหสิ ให้ เขาก็ส่งเอสเอ็มเอส (SMS) มา เขากำลังเข้าพิธี กราบขอขมาลาโทษ ผมก็อนุโมทนาลาบุญกับอนุชิตด้วย”

“ผมอโหสิ ไม่มีอะไรคาใจ ลูกน้องที่ไปทำงานอยู่ก็จบภารกิจกลับได้แล้ว จะบวชกี่วันก็แล้วแต่ศรัทธาของอนุชิต ส่วนเรื่องคดีความก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ผมจะบอกพนักงานสอบสวนว่าน่าจะยังบวชอยู่”

“หลังสึกก็มาพบพนักงานสอบสวน แล้วมาพบพนักงานสอบสวนก็อย่าเพิ่งไปออกหมายจับเขา ผมเจอหน้าอนุชิตผมก็ต้องยกมือไหว้ ผมเป็นคนไหว้ผ้าเหลืองนะครับ ผมถือว่า ผมเป็นต้นเหตุที่ให้มีคนสืบทอดพระพุทธศาสนา ผมก็ได้บุญกุศลตรงนี้ด้วย”

“ก็ถือว่าจบกันไป ความคาใจก็จบกันไป ผมเป็นคนรับฟังเหตุผลอยู่แล้ว เรื่องที่ผ่านมาไม่ต้องไปพูดถึง จบ! จบนะครับ”

“ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไป ไปถึงชั้นศาล ผมก็จะไปแถลงให้ว่าผมไม่ติดใจเอาความ ไม่อย่างนั้นเนี่ยคุณอนุชิตน่าจะโดนโทษจำคุก ผมเป็นอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มีชื่อมีเสียงบ้างพอสมวคร แล้วความเสียหายในวงกว้างออกมาจะทำให้ศาลใช้ดุลพินิจว่าผมเสียหายมากหรือน้อย”

“อาจจะโดนโทษจำคุก ครอบครัวคุณก็เดือดร้อน คุณก็แยกกับเมียอยู่ ๆ แล้ว เลี้ยงดูลูกสาวก็กำลังโต ผมรู้หมดที่ซุกหัวนอน เมียอยู่ที่ไหน ลูกอยู่ทีไหน เมื่อคืนคุณอยู่ตรงจุดไหนอะไรยังไง แต่โทษคุณแค่โทษหมิ่นประมาท ไม่ถึงที่จะต้องพิฆาตเข่นฆ่าไม่อาสัญ แต่ก็ต้องการสั่งสอนให้หลาบจำไปชั่วชีวิต แต่ผมหลุดปากไปว่าไปบวชเสียไป ผมอโหสิให้ คนในพื้นที่จะรู้ว่าถ้าผมพูดแล้วท่านปฏิบัติแล้วไปบวชจริง ๆ ท่านเองท่านก็ได้กุศลด้วย

“คนเรามีบุญเก่าในอดีตชาติ เราถึงเกิดมาอาการครบ 32 แล้วบุญใหม่ที่กระทำมาท่านจึงเป็นยูทูบเบอร์ที่มีชื่อเสียงขึ้นมา มีเงินมีทองขึ้นมา คนเราเวลาขาดความยั้งคิดก็พูดอะไรไปไม่ได้คิด ไม่ได้ไตร่ตรอง แต่ถ้าในเมื่อคุณกราบขอขมาลาโทษ แม้จะเป็นการส่งเอสเอ็มเอสผ่านเข้ามา ผมถือว่าโอเคนะครับ ผมอโหสิกรรมให้คุณ ผมก็เป็นคนง่าย ๆ อย่างนี้นะครับ” พล.ต.ท.เรวัช ร่ายยาวผ่านการอัดคลิปชี้แจงเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาของวานนี้ (24 ธ.ค.66)

"ผู้การแต้ม เอาจริง! แจ้งความยูทูบเบอร์ปากแจ๋วพาดพิงเสียหาย ก่อนหนีบวช“

วันที่ 25 ธ.ค. เวลา 10.00 น. ที่สน.ดอนเมือง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ (ผู้การแต้ม) หรือมือปราบหูดำ เดินทางมาที่สน.ดอนเมืองเพื่อดำเนินคดีกับนายอนุชิต (สงวนนามสกุล) ยูทูบเบอร์ที่ตามติดชีวิตของลุงพล และเป็นแฟนคลับตัวยง ซึ่งนายอนุชิตได้ไปวิพากษ์วิจารณ์ผู้การแต้ม รวมถึงพล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษรด้วย หลังจากทั้งคู่ไปออกรายการ โหนกระแส เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. และมีการพูดถึงคดีของลุงพล หรือนายนายไชย์พล วิภา จำเลยที่ 1 ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่

ต่อมานายอนุชิตได้ถ่ายทอดสดในเพจยูทูบของตัวเองที่มีชื่อว่า “ชิตปากแป” โดยมีเนื้อหาพาดพิงไปถึงอาชีพของตำรวจ เป็นการดูหมิ่น และเหยียดหยามไปถึงองค์กรตำรวจ และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้ผู้อื่นดูหมิ่นเกลียดชังตน ทำให้ผู้การแต้ม และ พล.ต.ท.เรวัช ไม่ยอมและเดินหน้าเอาเรื่องไม่ถอย แม้ว่าจะขอโทษ ขอขมา หรือเอากระเช้ามาให้ ก็จะไม่รับยอมจะเดินหน้าจนถึงที่สุด

ผู้การแต้มเผยว่า การที่ตนไปออกรายการใดๆก็ตาม ตนไปให้ความรู้ ความคิดตามหลักการสืบสวนสอบสวน ไม่มีการพูดว่าใครเลวหรือใครชั่ว ดังนั้นคนที่มากล่าวหาต้องได้รับผล เพราะสิ่งที่ตนทำนั้นมีประโยชน์ ตนมองว่าสังคมเราบิดเบี้ยวเพราะคนพวกนี้ที่เอาข่าวไปวิจารณ์ให้คนอื่นเสียหาย และมองว่ายูทูบเบอร์คืออีแอบ ที่มาหากินกับทุกเรื่อง  หากจะมาขอโทษ ขอบอกว่าไม่ต้องเสียเวลามา ตนไม่รับคำขอโทษ ตนเป็นคนเฉียบขาด ไม่ได้พูดเล่น ดังนั้น ไม่ใช่ว่าด่าใครแล้วจะมาขอขมาก็จบ เพราะความเสียหายมันเกิดขึ้นแล้ว และถ้าจะอ้างว่าไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่พฤติกรรมและเจตนามันชัดเจนอยู่แล้ว

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. พล.ต.ท.เรวัช ก็ได้ไปแจ้งความเอาผิดนายอนุชิตด้วยเช่นกัน ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

ทั้งนี้มีรายงานว่านายอนุชิตได้เข้าอุปสมบทหลังมีข่าวถูกฟ้องร้องดำเนินคดี อย่างไรก็ตามการบวชในครั้งนี้ ผู้การแต้มเผยว่า การบวชไม่ได้ช่วยอะไร เป็นคนละเรื่องกับกฎหมาย บวชก็ดีตามจับง่าย จะกระทำผิดแล้วมาบวชไม่ได้แปลว่าทุกอย่างจะหาย ไม่อย่างนั้นหากไปฆ่าคนมาแล้วมาบวชก็จบไป