จากกรณีเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 02.00 น. มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน บุกเข้าไปภายในร้านจับเจ้าของร้านรุมกระทืบเตะต่อยหลายครั้ง แล้วลากตัวเจ้าของร้านเข้าไปในห้องนอนกระทืบต่อ พร้อมชักปืนขู่จะยิง

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพกล้องวงจรปิดเวลา 01.57 น. ขณะที่นายเคน และนายพีท เข้ามาที่ร้าน และคุยกับผู้เสียหาย จากนั้น เวลา 02.11 น. จะเห็นนายพีและนายโฟ้คเข้ามาแล้ว และผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน ได้ยืนรุมทำร้ายผู้เสียหายหน้าประตูบ้าน ก่อนจะลากผู้เสียหายเข้าไปห้องนอนกระทืบต่อ



จากนั้นนายพีกับนายเคนก็ได้ออกมาจากห้องนอนผู้เสียหายและเริ่มหาของมีค่าจะเอาไปด้วย และได้ออกมายืนคุยกันบริเวณภายในร้าน นอกบ้าน และทำร้ายผู้เสียหายอีกครั้ง จนผู้เสียหายยกมือไหว้ ต่อมาวันที่ 21 พ.ย. 2566 ตอนที่ผู้เสียหายออกไปแจ้งความ กลุ่มของผู้ก่อเหตุก็ได้กลับมาที่ร้านอีกครั้ง เพื่อจะเอาของที่ร้านไป

วันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุในพื้นที่ ซอย 9 หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าประตูบ้านของผู้เสียหาย และในห้องนอนของผู้เสียหายยังหลงเหลือคาบเลือดอยู่



ด้านนายยศกร อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย เล่าให้ทีมข่าวช่อง 8 ฟังว่า ตนเองเปิดร้านนี้ได้ประมาณหนึ่งถึงสองเดือน โดยนายพี อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุได้มานั่งทานที่ร้านของตนประมาณวันที่ 7 พ.ย. 2566 และได้นั่งคุยกันในวันนั้น เขาเสนอเงินให้ตน 1 แสนบาท เพื่อขอร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนของที่ร้าน และถามตนว่าสามารถให้หุ้นเขาได้เท่าไร ตนจึงบอกว่าให้ได้ 30% เขาจึงบอกให้ตนไปทำเอกสารมา

พอวันต่อมาเขาได้ให้ตนไปหาที่บ้านพร้อมเอกสาร ตนก็ได้ไป ที่บ้านเขาก็ดูมีเงิน พร้อมคำพูดคำจาเขาน่าเชื่อถือมาก และเขาบอกอยากมาช่วยตน ตนจึงได้ตกลงพร้อมเซ็นเอกสารทำสัญญาเป็นหุ้นส่วนกัน โดยตนจะยังมีสิทธิ์ในร้านทุกอย่างหมดคนเดียว และจะมีการปันผลให้กับนายพีทุกสิ้นเดือนหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว 30%



หลังจากนั้นทุกวันตนก็ได้มีการส่งสรุปรายการซื้อของเข้าร้าน รายรับจ่ายต่อวันให้เขาดูตลอด แต่พอวันที่ 20 พ.ย. 2566 ประมาณ 02.00 น. ได้มีลูกน้องของนายพี 2 คน คือนายเคน กับนายพีท เข้ามาหาตนที่ร้านแล้วบอกว่านายพีให้มาทวงเงินคืนจะไม่เป็นหุ้นส่วนแล้ว

โดยถ้าตามจริงแล้วมันจะไม่สามารถถอนหุ้นคืนได้ แต่ตนไม่อยากมีเรื่องจึงบอกว่าได้จะยอมให้ถอนทุนและนำเงินให้ แต่ตนขอทำเอกสารก่อน 1 วัน แต่ลูกน้องเขาบอกไม่ได้ แล้วได้ตามให้นายพี กับนายโฟ้คมา



พอนายพีกับนายโฟ้คมาถึงเขาก็ให้ลูกน้องกระทืบตนเลย แล้วลากตนเข้าห้องนอนไปกระทืบต่อ พร้อมกับชักปืนออกมาจะยิงตน แต่ตนร้องขอเขาไว้ว่าลูกยังเล็ก อย่ายิงตน เขาจึงเอาปืนตบเข้าที่หน้าตนแทน ก่อนจะให้นายเคนกับนายพีทอุ้มตนขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อพาไปบ้านแม่ตน พอไปถึงบ้านแม่ตนเขาก็เรียกแม่ตน แต่แม่ตนน่าจะหลับแล้ว จึงไม่ได้ออกมา เขาจึงพาตนกลับมาที่ร้านและกระทืบตนซ้ำอีกรอบ และบอกตนว่าให้เวลา 7 วัน หาเงินมาให้เขาไม่งั้นจะได้รู้ว่าเขาร้ายแค่ไหน

หลังจากนั้นตนจึงนอนหลับไป ตื่นมาอีกทีประมาณ 3 ทุ่ม ตนจึงได้เรียกรถไปโรงพยาบาลเอง ตรวจร่างกายและรอรับใบรับรองแพทย์ พอมาวันที่ 21 ประมาณ 1 ทุ่ม ตนจึงได้นำใบรับรองแพทย์ พร้อมกล้องวงจรปิดในร้านของตนไปแจ้งความกับตำรวจ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าขนถึงวันนี้ หลังจากเป็นข่าวไป ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ก็ได้มีการออกมาโพสต์ว่ากำลังดำเนินการอยู่



โดยหลังจากแจ้งความ ทางลูกน้องของนายพี ซึ่งก็คือนายเคนก็ได้มีการส่งข้อความหาตนทางเฟซบุ๊ก ว่าให้ตนเคลียร์เงินคืนให้ พร้อมข่มขู่ตนว่าจะทำให้เห็นว่าเขาร้ายกว่าที่คิด ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ไม่กล้าออกไปไหนเลย เพราะกลัวถูกทำร้ายอีก

ส่อพลิก แก๊งนักบอลแจง บุกตบเจ้าของคาเฟ่หนังคนละม้วน

ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยังบ้านของนายพี อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุ แต่ไม่พบตัว โดยเจอเป็นนางเมย์ ภรรยาของนายพีบอกกับทีมข่าวว่านายพีไปดูปลาอยู่ที่ต่างจังหวัดจะกลับมาวันพรุ่งนี้

พร้อมกับให้ข้อมูลทีมข่าวว่า จริง ๆ แล้วเป็นไปตามที่มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ โดยทางฝั่งของผู้เสียหายได้เดินทางมาที่บ้านของตน และมาขอเงินในปีสามีตนเพื่อที่จะไปลงทุนพร้อมกับคุกเข่าขอร้องเพื่อที่จะขอเงินจากสามีตน สามีตนสงสารจึงจะให้ไปแต่ว่าจะขอเป็นหุ้นส่วนด้วย โดยทางฝั่งผู้เสียหายได้ขอเงินจากสามีตนเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท แต่สามีตนได้ให้ไปเพียงแค่ 100,000 บาทและถ้าหากสิ้นเดือนธุรกิจได้ดีถึงจะให้เพิ่มอีก 100,000 บาท



แต่พอผ่านไปสักพักนายพีได้มีการโทรเช็คกับคนอื่นๆและพบว่าตัวผู้เสียหายมีนิสัยชอบโกงเงินคนอื่นไปทั่ว จึงมีความกังวลจึงได้เดินทางไปสอบถามกับทางฝั่งผู้เสียหายว่าการค้าขายเป็นอย่างไรบ้างเพราะนายพีสามีตน ไม่เห็นรายรับจากฝั่งผู้เสียหายเลย แต่ทางฝั่งของผู้เสียหายก็ได้บ่ายเบี่ยงพร้อมกับบอกนายพีว่า “อยากได้เงินก็ไปเจอที่ศาล ไปฟ้องเอา” นายพีสามีตนจึงบันดาลโทสะและกระทืบเขา

โดยก่อนหน้านี้ที่จะลงทุนยืนยันว่าสามีตนไม่ได้เป็นคนไปร้องขอจะลงทุนกับเขา แต่เป็นเค้าเองที่เดินทางนั่งรถมาหาสามีตนที่บ้านพร้อมคุกเข่าอ้อนวอนเพื่อที่จะขอเงิน สามีตนสงสารจึงได้ให้เงินไปพร้อมกับขอเป็นหุ้นส่วนแทนเพราะไม่อยากให้เขาฟรีฟรี

โดยก่อนหน้าที่เค้าจะมาหาที่บ้านก็รู้จักกันเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้น เพราะสามีตนไปซื้อกัญชาที่ร้านของผู้เสียหายและพูดคุยกันถูกคอ จนเขาได้ตามมาขอเงินที่บ้าน

ส่วนที่ว่ายกพวกไปรุมนั้น คนที่ที่ไปกับนายสามีตนก็เป็นคนที่ร่วมลงทุนในเงิน 100,000 บาท ทั้งนั้นโดยทั้งสี่คนได้รวมเงินกันเพื่อที่จะเอาไปให้ผู้เสียหาย โดยวันที่เกิดเรื่องที่ไปบ้านในปีนั้นไปกันประมาณสี่คน ซึ่งทุกคนพอได้ยินผู้เสียหายบอกว่าให้ไปฟ้องเอาจึงเกิดอารมณ์โมโหบันดาลโทสะทำร้าย

หนุ่มถูกหุ้นส่วนขนพวกกระทืบคาร้าน เจอแฉกลับปันผลช้า ปากดีท้าให้ขึ้นศาล