จากกรณีเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) ตำรวจชุดสืบสวนและตำรวจท้องที่เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุมีชายยิงปืนในหมู่บ้าน และไล่ยิงคนงานที่กำลังก่อสร้างสระว่ายน้ำของโครงการนิติบุคคล หลังจากที่มีการก่อเหตุยิงปืนได้เข้าไปหลบหนีอยู่ภายในบ้านและปิดเก็บตัวเงียบ จนเป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าทำการปิดล้อมเพื่อระงับเหตุ จนกระทั่งเมื่อเวลา 21.33 น. ของเมื่อวานนี้ หมอทหารรายดังกล่าวได้ตัดสินใจออกมามอบตัวกับนักข่าว และพูดระบายความในใจเกี่ยวกับความอัดใจ พร้อมกับมีการโจมตีกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั้น



วันนี้ (12 ธ.ค. 2566) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ย่านศรีนครินทร์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยพบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมโดยเฉพาะรอบสระว่ายน้ำที่เกิดเหตุและกองทราย ที่คนงานอ้างว่าถูกหมอทหารมีการใช้อาวุธปืนยิง แล้วคาดว่าหัวกระสุนปืนอาจฝังอยู่ที่กองทรายนั้น แต่ทั้งนี้แม้ว่าจะมีการตรวจสอบแล้วพบว่าการก่อเหตุมีการใช้อาวุธปืนปลอมหรือปืนเด็กเล่น (ปืนแก๊บ) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อเชื่อมโยงเกี่ยวกับวัตถุพยานที่ตรวจสอบได้จากบ้านของหมอทหาร แต่จากการตรวจสอบไม่พบวัตถุต้องสงสัย ไม่พบปลอกกระสุนปืน และไม่พบหัวกระสุนปืน



จากนั้นทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่หน้าบ้านของหมอทหาร ซึ่งพบว่าหลังจากที่มีการเชิญหมอทหารไปรับการรักษา ที่โรงพยาบาลต้นสังกัด บ้านหลังดังกล่าวยังคงปิดเงียบ มีเพียงรถเก๋งจอดอยู่ในโรงจอดของบ้าน ส่วนลูกสาวยังไม่ได้เดินทางกลับมาบ้านเพราะเนื่องจากหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไปอยู่อาศัยกับญาติบ้านข้างนอก

เปิดชนวนเดือด หมอทหารคลั่ง ปืนยิงกลางหมู่บ้าน

ขณะเดียวกันทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วานนี้ (11 ธ.ค.) โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจากภาพก่อนช่วงเวลา 16.30 น. จะเห็นรถเก๋งของหมอทหาร ขับผ่านสระว่ายน้ำที่เกิดเหตุที่อยู่อยู่ระหว่างการก่อสร้างต่อเติมของนิติบุคคล



จากนั้นรถเก๋งของหมอทหารจะขับย้อนกลับมา และมาจอดอยู่บริเวณที่ก่อสร้าง พร้อมกับมีการตะโกนด่าช่าง ทำนองว่า "วันหยุดทำไมไม่เกรงใจ หยุดทำได้ไหมมันเสียงดัง" พร้อมกับมีการท้าทายและระบายความในใจอื่น ๆ แต่จับใจความไม่ได้เพราะเนื่องจากมีการตะเบ็งเสียง

กล้องวงจรปิดจับภาพและเสียงได้ต่อ หลังจากที่รถของหมอทหารขับกลับเข้าไปภายใน จะได้ยินคล้ายเสียงปืนดัง 4 นัด ตามที่พยานซึ่งเป็นคนงานบอกว่ามีการยิงปืนก่อนในบ้าน 4 นัด โดยจะได้ยินเสียงไม่ชัดมากเพราะเนื่องจากเป็นการยิงภายในบ้าน แต่จะเห็นปฏิกิริยาของกลุ่มคนงานที่อยู่บริเวณสระ วิ่งโอละหม่าน ก่อนที่จะได้ยินเสียงหมอโวยวายตะโกนไม่พอใจและท้าทาย ซึ่งก็ยังจับใจความไม่ได้ว่ามีการมีการพูดสื่อสารว่าอะไร หลังจากที่มีการโวยวายเสร็จแล้วจะได้ยินเสียงดังชัดเจน 3 นัด เพราะเนื่องจากมีการออกมาบริเวณนอกบ้าน และตามที่คนงานบอกคือเล็งปืนมาที่กองทราย



สิ้นเสียงปืนได้ประมาณ 1 นาที จะเห็นทีมรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ได้เข้ามาดูที่เกิดเหตุ แต่ในตอนนั้นจะได้ยินเพียงแค่เสียงของหมอทหารโวยวาย ซึ่งภาพจะจับได้แค่ ทีมรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านมาดูที่เกิดเหตุ

จนกระทั่งช่วงค่ำวันเดียวกัน (11 ธ.ค.) จะเห็นว่ากล้องวงจรปิดจับภาพปฏิบัติการปิดล้อมของ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และรวมถึงชุดสืบสวน ตำรวจสมุทรปราการ โดยมีการเข้ามาปิดล้อม และเฝ้าสังเกตเหตุการณ์

และเวลาประมาณ 21.33 น. เป็นช่วงเวลาที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพ เห็นหมอทหาร เดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง ออกมายืนโวยวายอยู่ที่กลางซอย ก่อนที่จะเดินตรงปรี่เข้าไปหาผู้สื่อข่าวที่บริเวณสระว่ายน้ำ แล้วเข้าไปมอบตัว และแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมทั้งโวยวายว่าไม่ได้ยิงใครตายและไม่ได้ทำร้ายใคร ตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่คนที่ทำตัวไม่ดีคือตำรวจ ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพวินาทีที่เข้ามอบตัวต่อผู้สื่อข่าวเอาไว้ได้



และหลังจากเหตุการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ จนกระทั่งมีการตรวจค้นบ้านเพื่อหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเสร็จสิ้นแล้ว ได้มีการนำตัวหมอทหารขึ้นรถโรงพยาบาลต้นสังกัดไปทำการรักษา ก่อนที่จะเห็นว่านายตำรวจและทีมตำรวจที่เข้ามาปฏิบัติงานเริ่มทยอยถอนกำลังออกจากพื้นที่

ขณะเดียวกันทีมข่าวช่อง8 ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบริเวณสระว่ายน้ำที่เกิดเหตุ ก่อนเวลา 16.30 น. ที่จะได้ยินเสียงปืนชุดที่ 2 โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับความเคลื่อนไหวซึ่งเป็นรถเก๋งของหมอทหาร ขับมาจอดที่ข้างสระว่ายน้ำที่กำลังมีการก่อสร้าง ก่อนที่รถของหมอทหารจะมาถึง จะได้ยินเสียงคล้ายกับการเจียเหล็กหรือตัดวัตถุบางอย่างเสียงดัง

จากนั้นหมอทหารจอดรถและลงมาพร้อมกับรยิง ซึ่งจะได้ยินเสียงปืนดังรัว 7 นัด ก่อนจะมีการพูดว่า “มึงแน่จริงหรอไอ้สัตว์ มึงท้าทายกู” ก่อนที่หมอจะขึ้นรถขับกลับออกไป แล้วขับมาก่อเหตุอีกรอบ

เพื่อนบ้านไม่ทน ขายบ้านหนีหมอทหารคลั่ง

วันเดียวกันนี้ทีมข่าวจึงได้เข้าไปพูดคุยกับชาวบ้านในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้มีการสำรวจบริเวณโดยรอบบ้านของหมอทหารภายใน ซอย 15 ซึ่งก็พบว่าบริเวณรอบข้างโดยเฉพาะด้านข้าง และด้านหลัง มีบ้านเกือบ 7 หลัง มีการประกาศป้ายขาย และไม่มีคนอาศัยอยู่ ซึ่งจากข้อมูลนิติบุคคลทราบว่า ส่วนใหญ่มีการประกาศขายเนื่องจากก่อนหน้าถูกหมอทหารมีการเครื่องปาขวดและ โวยวายหาเรื่องจนกระทั่งต้องมีการย้ายออกและประกาศขาย



ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายวิชัย (นามสมมติ) อดีตเพื่อนบ้านของหมอทหาร ซึ่งก่อนหน้านี้เคยอยู่ใกล้กัน แต่ปัจจุบันได้มีการย้ายขยับไปอยู่อีกซอย เผยว่า ตนเองเข้าใจว่าตัวของหมอทหารอาจจะมีภาวะทางจิต เนื่องจากเข้าใจว่าป่วย แต่ก็มีเพื่อนบ้านหลายคนที่ไม่สามารถที่จะทนกับพฤติกรรมดังกล่าวดังกล่าวหรือรับกับสภาพได้จึงต้องมีการย้ายและประกาศขายหนีไปหมด แต่พฤติกรรมของหมอแม้ว่าจะมีการโวยวายและมีการเขวี้ยงปาขวดบ้าง เพื่อนบ้านบางส่วนก็พอทำใจและทนอยู่ได้โดยไม่มีการย้ายหนี แต่ก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะรุนแรงถึงขั้นมีการเอาอาวุธปืนซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอมในขณะนั้น ออกมาไล่ยิงคนงานจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บานปลาย

และหักย้อนกลับไป 2 ปีก่อน ยังพบว่ามีบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของหมอห่างกันออกไปประมาณ 3 หลัง เคยมีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทซึ่งเป็นคู่กรณีของหมอทหาร โดยตอนนั้นนั้นเจ้าตัวน่าจะเป็นช่วงต้น ๆ ที่เริ่มป่วย โดยไปมีปากเสียงวิวาทกันทางบ้านของหมอและบ้านของเพื่อนบ้าน

จนกระทั่งต่างฝ่ายต่างเอาปืนคนละกระบอกออกมาถึงขั้นจะยิงกัน แต่ก็โชคดีที่ความรุนแรงยังไม่เกิดเกิด เพราะมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุได้ก่อน แต่หลังจากนั้นเพื่อนบ้านก็ไม่ได้อยู่อาศัยที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว ได้มีการประกาศขายและย้ายออกไปอยู่ที่อื่น



ส่วนบ้านเรือนที่อยู่รอบข้างบางหลังที่มีการย้ายออกและประกาศขายนั้น ก็เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมของหมอหลายครั้ง ที่มีการเขี้ยงขวดลงมาจากชั้น 3 โดนรถหรือทรัพย์สินเสียหาย เพราะเนื่องจากเสียงดังหรือไปรบกวนเวลาพักผ่อน

และเมื่อ 1 ปี ที่ผ่านมา ตนเองก็พึ่งไปช่วยเหลือลูกสาววัย 17 ปีของหมอทหาร เพราะเนื่องจากอยู่บ้านไม่ได้ ถึงกับร้องไห้ วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือที่ป้อม รปภ. บริเวณด้านหน้าของหมู่บ้าน ทำนองว่ามีปากเสียงและอยู่กับพ่อไม่ได้ เนื่องจากพ่ออารมณ์ไม่ปกติ จึงทำให้ลูกสาวหวาดกลัวและวิ่งไปขอความช่วยเหลือ

ส่วนตัวตอนนั้นก็พยามหาช่องทางและช่วยเหลือเด็ก โดยติดต่อกับทางนิติบุคคลเพื่อให้เปิดห้องชั่วคราวของอาคารนิติให้เด็กพักอาศัย แต่ทางนิติบุคคลก็กังวลเรื่องของปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา กลัวว่าหากหมอทหารรู้จะมีเรื่องกับทางนิติ จึงไม่ได้มีการช่วยเหลือหรือเปิดห้องให้พัก ตนเองจึงได้มีการประสานญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อที่จะมารับเด็กออกไปอยู่ด้วยชั่วคราว จนกระทั่งเด็กติดต่อเพื่อนที่รู้จักกันให้มารับไปนอนด้วย และหลังจากที่อาการของหมอดีขึ้นลูกสาวก็กลับมาบ้านเหมือนเดิม

วีรกรรมหมอทหาร เคยหัวร้อนจับเด็กกดน้ำ

ขณะที่นางสาวดาวสกาย (นามสมมติ) เพื่อนบ้านอีกหลังที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านไม่ไกลจากบ้านของหมอทหาร เผยว่า ตนเองแม้ว่าจะมีบ้านอยู่ไม่ไกลจากบ้านของหมอทหาร แต่ก็เข้าใจในความป่วยของเจ้าตัว และพยามหลีกเลี่ยง ทุกครั้งที่เผชิญหน้าหรือแม้แต่ขับรถผ่านกันบนถนน ก็จะใช้วิธีการหลบหลีก เช่น เวลาที่เห็นหมอขับรถผ่านก็จะขับรถชิดซ้ายเพื่อให้รถหมอผ่านไปก่อน และเวลาที่เห็นหมอกำลังถอยออกจากบ้านก็จะหยุดรถให้ทางหมอทหาร ถ้าหากมีการใช้ทางร่วมกันในช่วงเวลาคับขันก็กลัวว่าจะเกิดปัญหา



ส่วนพฤติกรรมเรื่องของการโวยวาย หรือไม่พอใจ ยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติที่คนละแวกนี้ มักจะได้ยินเสียงโวยวายเป็นประจำ โดยเจ้าตัวจะมีอาการโวยวายตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่ เรื่องเล็กคือปัญหาเพื่อนบ้านมีการทุบผนังหรือต่อเติมเสียงดัง หรือแม้แต่เสียงนกที่มาร้องดังหน้าบ้านเจ้าตัวก็จะออกมาโวยวาย แต่สิ่งที่หนักสุดก็คือช่วงหลังที่มีการต่อเติมของโครงการนิติบุคคล ที่อาจมีการต่อเติมและสร้างสระว่ายน้ำจึงทำให้มีการใช้เครื่องจักรใหญ่ ที่อาจจะมีการเสียงดังบ้างบางครั้ง จึงอาจเป็นเหตุที่ทำให้เจ้าตัวไม่พอใจแล้วมีการก่อเหตุยิงเมื่อวานนี้



ย้อนกลับไปประมาณ 1 ปีเศษ เคยมีลูกบ้านคนหนึ่งพาลูกและเด็ก ๆ ไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำอันเก่าก่อนที่จะมีการปรับปรุง ซึ่งซึ่งตอนนั้นเข้าใจว่าเด็กอาจจะเล่นน้ำแล้วส่งเสียงดัง ไปรบกวนทางหมอทหาร ทำให้หมอทหารเกิดความไม่พอใจมาที่สระว่ายน้ำ แล้วมีการโวยวายกับเด็ก ก่อนที่จะจับเด็กกดน้ำ ซึ่งมีการกระทำที่ทำต่อหน้าผู้ปกครองและรวมถึงพยานคนอื่น จนกระทั่งมีการประชุมประจำปีของนิติบุคคล ผู้ปกครองรายดังกล่าวก็มาโวยวายในห้องประชุม แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข เพราะเข้าใจว่าตัวของหมอทหารตอนนั้นเริ่มมีอาการป่วย แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรได้ จนกระทั่งเกิดเหตุบานปลาย และตอนนี้ก็เข้าใจว่าผู้ปกครองและเด็กก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว เนื่องจากมีปัญหาจากเรื่องดังกล่าวรวมถึงเรื่องอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ที่เข้าใจว่ามีการก่อเหตุโดยการใช้อาวุธปืนยิงคนงานที่กำลังก่อสร้างสระว่ายน้ำ ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นอาวุธปืนจริง จนกระทั่งมีการตรวจสอบพบว่าเป็นปืนปลอม ส่วนตัวก็รู้สึกเบาใจมากขึ้นที่หมอทหารไม่ได้มีปืนจริงที่จะทำให้ใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างน้อยก็อุ่นใจ เล็กน้อย แต่ก็อยากให้เจ้าตัวรับการรักษาให้หาย หากหายดีแล้วก็พร้อมที่จะให้กลับมาอยู่ร่วมกันในหมู่บ้านตามปกติ

แห่ขายบ้านทิ้ง! ผวาหมอทหารคลั่ง ภาพชัดรัวปืน ลูกตกใจเคยวิ่งหาคนช่วย