จากกรณีแม่เด็กจาก จ.พระนครศรีอยุธยา วัย 19 ปี เข้ามาร้องเรียนกับทีมงานของกัน จอมพลัง ว่าลูกชายวัย 2 เดือน เสียชีวิต หลังจากฝากพี่เลี้ยงได้ 1 เดือน แม่สงสัยถูกพี่เลี้ยงทำร้าย เนื่องจากผลชันสูตร มีร่องรอยของการถูกกระแทกที่ศรีษะ กระโหลกแตกร้าว และมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย ปอดมีการอักเสบ



ฝากพี่เลี้ยง 4 ชั่วโมง เด็ก 2 เดือนตายปริศนา

นาง บี (นามสมมุติ ) แม่เด็กวัย 2 เดือน เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ตนเองพาน้องไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลอุทัย และฝากน้องไปฝากเลี้ยงตามที่เดิมที่สถานรับเลี้ยงเด็กแบบไปกลับประจำเหมือนเช่นทุกวัน และประมาณ 4 ชั่วโมงให้หลัง นางติ๋ม พี่เลี้ยงก็ได้โทรศัพท์มาแจ้งหาตนเองว่าน้องไม่หายใจแล้วและได้พาโรงพยาบาล



เมื่อตนเองรีบเดินทางไปดูก็พบว่า ลูกตนเองเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนที่จะถึงโรงพยาบาลแล้ว และได้ประสานส่งตัวไปในโรงพยาบาลในจังหวัดและได้พยายามปั้มหัวใจจนชีพจรกลับคืนมา และอยู่ใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจประมาณ 10 วัน ต่อมาน้องได้เสียชีวิตลง ยอมรับว่าตนเองรู้จักกับสถานที่รับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ซึ่งเปิดรับเลี้ยงมานานหลายปี ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะพาเด็กเด็กไปรับเลี้ยงที่เป็นประจำ

ยืนยันว่าตอนที่นำลูกไปส่งรับเลี้ยงที่นี่นั้นลูกก็ดูปกติดี แต่เพียงในวันที่เกิดเหตุส่งไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมงทางสถานรับเลี้ยงเด็กก็โทรมาบอกว่าน้องไม่หายใจแล้ว โดยที่ตนเองได้รับแจ้งในครั้งแรก สงสัยว่าลูกจะแพ้วัคซีนหรือไม่ แต่เมื่อตรวจสอบผลชันสูตรพลิกศพแล้วก็มีเลือดออกในสมองและกะโหลกร้าว ซึ่งจากการชันสูตรนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัคซีนที่ไปฉีดแต่อย่างใด



และทางด้านพี่เลี้ยงเด็กก็อ้างว่า น้องนอนกินน้ำอยู่และสำลักน้ำแล้วก็ไม่หายใจเลย พี่เลี้ยงไม่ได้ยอมรับว่าได้มีการลงมือกระทำก่อเหตุแต่อย่างใด ตอนนี้ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ประสานนำตัวผู้เกี่ยวข้องเข้าดำเนินคดีต่อไป

เปิดบ้านเลี้ยงเด็ก พิสูจน์หนูน้อย 2 เดือนดับปริศนา

ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่มายัง สภ.วังน้อย พบว่า แม่ของเด็กก็ได้เข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับ กัน จอมพลัง, เจ้าหน้าที่ พม. ของ จ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าตำรวจ สภ.วังน้อย หลังจากนั้นทั้งหมดก็รวมตัวกันเพื่อเดินไปยังพื้นที่บ้านรับเลี้ยงเด็ก ที่แม่เด็กร้องเรียนเข้ามา และเมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้พบกับป้าติ๋ม ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดูเด็กวัย 2 เดือน ก่อนเสียชีวิต จากนั้นป้าติ๋มก็ได้พาเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยในสถานรับเลี้ยงเด็ก ซึ่งสภาพของสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้เป็นบ้านชั้นชั้นครึ่ง มีสภาพบ้านที่ค่อนข้างทรุดโทรมพอสมควร



เบื้องต้น เจ้าหน้าจาก พม. ได้มาตรวจสอบเด็กคนอื่น ๆ ว่ามีบาดแผลหรือร่องรอยการทำร้ายหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีแต่อย่างใด และก็ได้พูดคุยกับยายติ๋มที่รับเลี้ยงเด็ก ยายติ๋มก็ยอมรับว่าไม่มีใบอนุญาต และก็ไม่เคยยื่นขอด้วย ส่วนการเลี้ยงนั้นก็เลี้ยงแบบชาวบ้านทั่วไป อีกทั้งกล้องวงจรก็ไม่มีเช่นกัน ซึ่งก็เป็นข้อเสียของสถานเลี้ยงเด็กว่าจริง ๆแล้วควรติดกล้องวงจรปิด เพราะว่าเพื่อป้องกันเด็กจากเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงป้องกันคนเลี้ยงได้ด้วย ว่าเวลาเกิดเหตุอะไรขึ้นก็จะสามารถเอามายืนยันได้



หลังจากนั้น ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับยายติ๋ม ผู้ต้องสงสัยที่แม่ของเด็กคาดว่าเป็นคนทำร้ายลูกตนจนเสียชีวิต โดยยายติ๋มยืนยันว่าตนเองไม่ใช่คนทำร้ายเด็กจนเสียชีวิต แต่ไม่ขอพูดถึงเหตุการณ์ว่าในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจไปหมดแล้ว



ถัดมา ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายหมี (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของยายติ๋ม สถานรับเลี้ยงเด็ก โดยนายหมีเผยว่า เดิมทียายติ๋มเปิดร้านตัดเย็บเสื้อผ้า แล้วก็เปลี่ยนมารับเลี้ยงเด็กเมื่อประมาณ 2-3 ที่แล้ว ซึ่งก็มีคนเอามาให้ยายติ๋มฝากเลี้ยงอยู่เรื่อยๆ และการได้ยินเสียงเด็กร้องเสียงเด็กโวยวายก็ได้ยินอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่เคยเห็นยายติ๋มทุบตีเด็ดแต่อย่างใด ส่วนนิสัยส่วนตัวของยายติ๋มเป็นนิสัยดี และถ้าจะให้พูดจริงๆตนนั้นไม่เชื่อเลยว่ายายติ๋มจะเป็นคนตีเด็กจนเสียชีวิต