จากกรณี นายปัญญา อายุ 48 ปี ร้องเรียนผ่านเพจสายไหมต้องรอด กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน มีการใส่ข้อมูลผิดพลาด ทำให้รายชื่อปรากฏเป็นผู้ต้องหาในคดีหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นคดีที่ผู้เสียหายเคยเป็นผู้เสียหายในคดีเอง ทำให้ถูกออกจากงานและมีปัญหาในการหางานใหม่ไม่ได้



สืบเนื่องจาก นายปัญญาเคยทำงานในบริษัทหนึ่ง โดยในช่วงนั้นมีนักศึกษาฝึกงานได้การขโมยหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ของบริษัท ทางบริษัทจึงให้นายปัญญา เป็นตัวแทนผู้เสียหาย เดินทางไปดำเนินคดีแจ้งความในพื้นที่ สภ.บางปะอิน เมื่อปี 2564 และในปี 2565 ตอนสมัครงานประวัติส่วนตัวของนายปัญญายังเป็นปกติ ค้นหาแล้วไม่เจอประวัติเสีย

จนกระทั่งมีการทำงานในที่ใหม่ และอยู่ในระหว่างการทดลองงานระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ขณะที่ทำงานจนใกล้ครบวาระกำหนดการทดลองงาน ทางบริษัทได้ดำเนินการเพื่อจะบรรจุ นายปัญญา ผู้เสียหายเข้าทำงานเป็นพนักงาน แต่ปรากฏว่าพอไปดูข้อมูลประวัติอาชญากรรม พบข้อมูลว่าชื่อนายปัญญา เป็นคนร้ายคดีลักทรัพย์ ตรวจสอบพบว่าเป็นเลขคดีเดียวกัน กับเมื่อตอนเคยไปแจ้งความไว้ ในฐานะผู้เสียหายเมื่อปี 2564



ผู้เสียหายเปิดใจ คาดหวังที่จะทำงานในบริษัทจนถึงเกษียณ แต่ก็ต้องมาเขียนใบลาออก ตอนนี้ลำบากมาก

นายปัญญา ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองมีความตั้งใจและคาดหวังที่จะทำงานในบริษัทดังกล่าวจนกระทั่งเกษียณ เนื่องจากมีการตกลงค่าตอบแทนในจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูง ซึ่งประเมินแล้วจะได้รายได้มากกว่า 360,000 บาทต่อปี

และการทำงานเพิ่มขึ้นในแต่ละปี จะช่วยให้มีการเพิ่มเงินเดือนขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตนเองมีการทดลองงานเป็นที่น่าพอใจของทางบริษัท แต่ก็ต้องมาเขียนใบลาออกเนื่องจากชื่อของตนเองยังปรากฏในคดีลักทรัพย์ ทำให้ทางบริษัทไม่สามารถรับตนเองเข้าทำงานได้



ตนเองเป็นเสาหลักของครอบครัว มีความจำเป็นต้องหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจ เพราะตนเองตั้งใจทำงานอย่างสุจริต ยอมรับตอนนี้ลำบากมาก ไม่รู้ว่าจะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายเงินค่าบ้านค่างวดรถและค่ากินอยู่ของคนในครอบครัว และตนเองอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ที่เกิดเรื่องมาก็ยังหาผู้รับผิดชอบเหตุการณ์นี้ไม่ได้เลย จึงอยากขอความช่วยเหลือจาก สตช. ช่วยเหลือเยียวยาเรื่องนี้ด้วย



เปิดใจคนคีย์ข้อมูลผิด รับทำพลาดเพราะคดีเยอะ

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้มาพบกับ ดต.กรภัทร วินทะไชย เจ้าหน้าที่ลงทะเบียนคดี ที่เป็นคนลงทะเบียนข้อมูลเลขบัตรประชาชนของคนแจ้งความ สลับกับของผู้ก่อเหตุกระทำความผิด โดย ดต.กรภัทร เปิดใจว่า ในวันที่ตนลงทะเบียนคดีของนายปัญญา มีคดีที่ต้องให้ลงทะเบียนอีกเยอะมาก ประกอบกับลงทะเบียนช่วงดึกด้วย จึงจากเกิดการผิดพลาดขึ้น ซึ่งระบบการลงทะเบียนนั้นตนจะพิมพ์ไว้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว แล้วจะเซฟข้อมูลที่พิมพ์เสร็จแล้ว มาลงไว้ในเครื่องที่มีระบบ CRIME ที่เป็นระบบปิด จากนั้นจึงก๊อปปี้ข้อมูลที่เซฟไว้ลงในเครื่อง มาใส่ในระบบ CRIME จึงน่าจะผิดพลาดในการสลับเลขบัตรประชาชนของผู้ต้องหากับผู้แจ้งความในตอนลงระบบ CRIME

ตำรวจทำซวยคีย์ข้อมูลผิดทำคนแจ้งจับโจรเป็นคนร้ายซะเอง ขอโทษก็อปแปะเลขผิด