จากกรณีโซเชียลมีการแชร์คลิป หนุ่มกระโดดลงไปช่วยเด็กกำลังจมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) เด็กชายอายุประมาณ 12 ปี ไปนั่งตกปลากับเพื่อน 2 คน เกิดพลัดตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา และลอยคอขอความช่วยเหลือ

ขณะนั้นมีพลเมืองดีชื่อ นายยิ้ม กระโดดลงไปช่วยเหลือเด็กชายที่กำลังจะจมน้ำ ท่ามกลางสายตาคนที่คอยลุ้นอยู่บนแพ ซึ่งหลังจากที่ช่วยขึ้นมาได้ปลอดภัยทั้งคู่

ล่าสุด ทีมข่าวของเรา ไปเจอกับพลเมืองดีคนในคลิปดังกล่าว คือนาย ศุภฤกษ์ พิมพ์ทนต์ อายุ 40 ปี เล่าให้กับทีมข่าวของเรา ฟังว่าเกิดเหตุ เมื่อช่วงบ่าย วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (เมื่อวานนี้) ซึ่งตอนนั้นตัวเองไปทำบุญกับแฟนที่วัดใกล้กับท่าน้ำดังกล่าวกำลังจะนั่งเรือข้ามฟากกลับไปอีกฝั่งหนึ่ง

จังหวะนั้นมีคนตะโกนบอกว่ามีเด็กจมน้ำ และเพื่อนของน้องที่จมน้ำบอกว่าช่วยเพื่อนผมด้วยครับ ตัวเองก็หันไปเห็นก็พบว่ามีเด็กลอยอยู่บนผิวน้ำ ท่าที เหมือนกำลังจะจม และด้วยสัญชาตญาณไม่ทันได้คิดอะไรมากรู้แค่ว่าตรงช่วยเด็กคนนั้นให้ได้ จึงถอดสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากร่างกายแล้วไปหยิบห่วงยางกระโจนลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไปช่วยเด็กคนดังกล่าวทันที

พอว่ายน้ำจากท่าเรือไปถึงที่น้องที่จมน้ำอยู่ ก็บอกน้องที่จมน้ำอยู่บอกว่าให้จับห่วงยางนะ แล้วบอกว่า อย่าล็อกคอผมนะ น้องก็น่าจะยังมีสติอยู่จึงทำตาม แล้วค่อยค่อยประคองมา ตอนนั้นก็พยามคิดว่าจะว่ายขึ้นฝั่งทางไหน เพราะถ้าว่ายกลับไปที่ฝั่งเหมือนน้ำแรง จังหวะนั้นคนบนแพเลยโยนเชือกมาให้ จึงสามารถว่ากลับมาขึ้นที่แพท่าเรือ

โดยส่วนตัวแล้วตัวเองว่ายน้ำเป็น แต่ไม่ได้ว่ายน้ำเก่งมาก พอมานึกย้อนกลับไปแล้วตัวเองก็งงเหมือนกันว่าร่างกายเหมือนมันสั่งการอัตโนมัติเลยบอกว่าต้องไปช่วยเด็กคนนั้น

ตอนนี้รู้สึกดีใจที่มีคนเข้ามาแห่ชื่นชมแล้วก็ยกย่องว่าตัวเองเป็นฮีโร่ เพราะโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกดีใจมากกว่าที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ทั้งน้องและตัวเอง เราอยากจะขอบคุณทุกคนมากที่ส่งกำลังใจมาชื่นชมเป็นพลังให้ทำดีแบบนี้ต่อไป

ด้าน นางสาว สิลาลัตน์ แม่ของเด็กชาย พีรพัฒน์ อายุ 13 ปี ที่จมน้ำ เปิดเผยกับทีมข่าวของเรา ผ่านทางวีดีโอคอล บอกว่า น้องดีใจมาก และสำนึกในบุญคุณของพี่พลเมืองดี ที่มาช่วย น้องพีรพัฒน์บอกกับแม่บอกว่ายังไม่ได้มีโอกาสขอบคุณพี่เขา อย่างเป็นทางการเลย

ตอนนี้น้องอยู่ระหว่างการสอบอยู่ หลังจากนี้ถ้าสอบเสร็จแล้วจะเข้าไปหาที่พลเมืองดีที่ช่วยชีวิต

ส่วนแม่ของน้องพีรพัฒน์บอกว่าตกใจมากเพราะน้องไม่ได้บอกว่าไปจมน้ำมา จนมาทราบจากข่าว ช่วงจังหวะที่ตกน้ำน้องบอกว่ากำลังข้ามไปซื้อเหยื่อปลอมฝั่งตรงกันข้ามจึงพลักตกไป ต่อไปนี้ก็คงจะไม่กล้าไปตกปลาอีกแล้วรู้สึกหวัดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น