ศรีสุวรรณ พร้อม เจ๋ง ดอกจิก บุก กสทช. จี้สอบเอกชน 5 ราย หลังพบพิรุธมโหฬาร โครงการอบรมไอที 5 ภาค งบสูงถึง 1,796 ล้าน ชี้เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายการฮั้วประมูล

วันที่ 29 กันยายน 2566 มีรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ได้เดินทางมาที่ สำนักงาน กสทช. ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพฯ เพื่อยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการ กสทช. ให้ตรวจสอบโครงการฝึกอบรม IT ชายขอบที่ กสทช. ประกาศให้เอกชน 5 ราย 5 ภูมิภาค ได้งานไปเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา มูลค่า 1,796.42 ล้านบาท ซึ่งพบว่ากระบวนการจัดทำ TOR การจัดประมูล จนถึงการดำเนินงานจริง ล้วนมีพิรุธอย่างมโหฬาร เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายการฮั้วประมูล มีการล็อกสเปก ไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่



ทั้งนี้ โครงการฯดังกล่าวถูกประชาชนจับผิดมาอย่างต่อเนื่อง เพราะถูกจับได้ว่ากลุ่มบริษัทที่รับช่วงงาน หรือ Sub งานต่อจากบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ เป็นกลุ่มที่ได้ยื่นเอกสารประมูลงานโครงการ หรือ มีการปรับแก้งานทีโออาร์ใหม่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบางกลุ่ม มีการจัดสรรแบ่งโซนกันอย่างลงตัวกับกลุ่มการเมือง โดยมีการกำหนดราคากลางค่าใช้จ่ายของผู้เข้าอบรมต่อวันสูง เพื่อหวังหักหัวคิว และมีการจัดโซน หรือ เลือกเป้าหมาย เลือกตำบล หมู่บ้าน หรือ ชุมชนอีกด้วย

นอกจากนั้น พบว่ามีการว่าจ้างช่วงงานต่อให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อลงพื้นที่ตามกลุ่มเป้าหมาย จัดหาคนมาทำการอบรม จัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครื่องใช้สำนักงานตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการอบรมทั้งหมดมาจัดทำการอบรม แต่มีข้อมูลอันเชื่อได้ว่ามีการหักหัวคิว หรือค่าใช้จ่ายจากชาวบ้านที่มาเข้ารับการอบรม บางพื้นที่ไม่ได้มีการนำชาวบ้านมาอบรมให้ครบตามจำนวนวัน ไม่ได้มีการทานอาหารจริง ไม่ได้มีการจ่ายค่าเดินทาง และค่าชดเชยเวลาสำหรับผู้เข้ารับการอบรมจริง กล่าวโดยสรุปคือมีการหักหัวคิวจากผู้ที่ไปเกณฑ์ชาวบ้านมาอบรม หรือมาเข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ได้ยอดตามเป้าหมายของบริษัทที่ปรึกษาเพื่อส่งงานให้กับ กสทช.หรือไม่



ที่สำคัญ พบว่ามีการจัดฮั้วกันทำราคากลางให้สูง ตัวอย่างเช่น ค่าอาหารกลางวันและอาหารว่างวันละ 900 บาท, ค่าเดินทางผู้เข้าร่วมอบรมวันละ 716 บาท, ค่าตอบประชาชนผู้เข้าร่วมอบรมเฉลี่ยวันละ 300 และ ค่าเช่า-Notebookวันละ 1,100 บาท ซึ่งหากรวมทั้งหมด 5 ภาค เฉพาะตรงส่วนนี้ คิดเป็นเงินเกือบ 1,300 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทอนใช่หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ที่แปลกประหลาดที่สุด คือ สถาบันการศึกษารัฐที่มีชื่อเสียง เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถูกตีตกหมดทุกราย แต่ทว่าผู้ชนะการประมูลกลับเป็นร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือ ขายซอฟต์แวร์ แต่ทว่าผู้ชนะประมูลก็ไปจ้างเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือ อาจารย์เจ้าหน้าที่จากสถาบันการศึกษาที่ถูกตีตกเข้ามาเป็นผู้ร่วมอบรมอีกทอดนึง(แต่หักหัวคิว)

เหตุดังกล่าวองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินและกลุ่มรวมใจรักชาติ จึงนำข้อมูลมาร้อง กสทช.ให้ตรวจสอบเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามคำร้องนี้โดยเร็ว หากล่าช้าองค์กรฯจะไปร้อง รมว.DES และ ป.ป.ช.ต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด