หญิงร้องโซเซียล เพื่อนบ้านนำรถจอดปิดทางเข้าออกบ้านพัก เป็นเวลา 7 ปี กระทบหนักปีนี้อาม่าป่วยติดเตียง หลานต้องพาอาม่าส่งรพ.บ่อย ส่งผลให้เข้าออกบ้านพักลำบาก

จากกรณีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง  โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะเจ้าของคลิปกำลังเดินออกจากประตูรั้วบ้านพัก  ซึ่งจะเห็นว่าหน้าประตูรั้วบ้านพักมีรถจอดตันประตูทางเข้าถึง 5 คัน  เป็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน  และรถเก๋งอีก 3 คัน  ซึ่งรถเก๋งที่คลุมผ้าจอดหน้าบ้านเป็นรถของผู้ร้องเรียนเพียงคันเดียว  นอกนั้นเป็นรถของเพื่อนบ้านทั้งหมด  ระบุข้อความในคลิปว่า “เตือนภัยอย่าซื้อบ้านหลังในสุด ตลอดเวลา 6 ปี  ปิดทางเข้าออก”

จากภาพจะเห็นว่ารถทุกคันจอดกีดขวางทางเข้าบ้านพัก  โดยเจ้าของบ้านไม่สามารถนำรถเข้าออกบ้านพักได้  ทำได้เพียงเดินเข้าออกเท่านั้น

เจ้าของบ้านพักทำได้แค่เข็นรถวีลแชร์ออกจากบ้านพัก  เพื่อไปรับแม่ที่ป่วยลงจากรถแท็กซี่กลับเข้าบ้าน  โดยรถแท็กซี่ไม่สามารถจอดรถหน้าบ้านพักได้  เพราะมีรถจอดกีดขวางในซอย  ซึ่งต้องพาแม่ที่ป่วยเข้าบ้านอย่างทุลักทุเล  บางวันมี รถคันใหญ่จอดกีดขวางทางเข้าออก  จนไม่สามารถเข็นรถวีลแชร์แม่ผ่านได้   จนเพื่อนบ้านต้องออกจากบ้านแล้วมาถอยรถที่จอดกีดขวางออกให้ 1 คัน  จึงทำให้เจ้าของบ้านสามารถพาแม่เข้าบ้านได้

วันนี้ทีมข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ  เป็นหมู่บ้านที่นางสาวไก่ทอง อายุ 29 ปี  ผู้ร้องเรียนอาศัยอยู่  โดยพักอาศัยซอย 5  ซึ่งเป็นหลังสุดท้ายของซอยเป็นซอยตัน  พักอาศัยกัน 3 คน  คือ  นางสาวไก่ทอง สามี  และอาม่า อายุ 81 ปีที่ป่วยติดเตียง มานานกว่า1 ปี

จากการลงพื้นที่วันนี้พบว่า  บริเวณหน้าบ้านพักผู้ร้องเรียนมีเพียงรถจักรยานยนต์สีดำของเพื่อนบ้านที่อยู่หลังติดกันจอดที่หน้าบ้านของเพื่อนบ้านเท่านั้น  ซึ่งมีรถเก๋งคลุมผ้าไว้จอดบริเวณซอยตัน  เป็นรถเก๋งของผู้ร้องเรียนเอง  ส่วนรถเก๋งของเพื่อนบ้านคันอื่นไม่ปรากฎมาจอดกีดขวางทางเข้าออกประตูบ้านของผู้ร้องเรียนตามที่เคยปรากฏในคลิปที่ลงไว้ก่อนหน้านี้

ทีมข่าวจำลองเหตุการณ์ตามในคลิป โดยใช้รถทีมข่าวช่อง 8  จอดบริเวณหน้าบ้านพักผู้ร้องเรียน แต่จอดฝั่งตรงข้าม   เพื่อจำลองเหตุการณ์ตามคลิปวงจรปิดที่ผู้ร้องเรียนลงในติ๊กต๊อกก่อนหน้านี้   จากนั้นนางสาวไก่ทองซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนก็ได้ออกมาชี้จุดรถเพื่อนบ้านที่จอดกีดขวางทางเข้าออกบ้านพัก   ซึ่งปกติแล้วรถเพื่อนบ้านจะจอดรถจุดที่รถช่อง 8 จอดหนึ่งคัน  และมีอีกคันจอดประกบข้างๆ   โดยความกว้างของถนนประมาณ 4.5 เมตร  หากจอดสองคันขวางทางเข้าออกจะเหลือช่องกลางระหว่างรถสองคันเพียงแค่ 1 เมตร 

ซึ่งนางสาวไก่ทองยังได้จำลองความกว้างตอนที่เธอต้องเข็นรถวีลแชร์ของอาม่าเข้าออกบ้านพัก  มีช่องทางเดินที่แคบมาก  และจากผลกระทบนี้ก็ยังส่งผลให้บ้านของเธอมีรถยนต์ 1 คัน  และรถกระบะ 1 คัน ทำให้ไม่สามารถนำรถกระบะมาจอดในบ้านพักได้  ต้องไปจอดที่ทำงานสามีที่พระราม 2 ส่วนรถเก๋งของตัวเองก็จอดบริเวณหน้าบ้านพักที่คลุมผ้าอยู่ตรงซอยตัน

ส่วนปัญหาที่จอดรถหน้าบ้านพักเป็นปัญหามานานประมาณ 7 ปีแล้ว  ด้วยความที่เป็นหมู่บ้านที่มีถนนในชุมชนมีถนนหน้ากว้างประมาณ 4.5 เมตร  ประกอบกับบ้านพักตนอยู่หลังสุดท้ายและเป็นซอยตัน  และก่อนถึงบ้านพักตนก็เป็นทางเลี้ยวซ้ายไปซอยอื่น ทำให้มีเพื่อนบ้านที่อยู่หลังติดบ้านตนนำรถมาจอด  จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้บ้านของตนซึ่งมีรถสองคันคือรถเก๋งจอดบริเวณหน้าบ้านพักและรถกระบะจอดอยู่บริเวณในบ้านพัก  รถกระบะเข้าออกอย่างลำบากมาตลอดประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประมาณ 4 ปีที่แล้ว ต้นเคยร้องเรียนดังกล่าวกับทางเทศกิจ  เจ้าหน้าที่ก็ได้มาเคลียร์ปัญหาให้  แก้ไขได้เพียงชั่วคราวก็กลับมาเป็นแบบเดิมอีก

ขณะที่ปีนี้อาม่าเพิ่งทรุดป่วยทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง  ประกอบกับเพื่อนบ้านก็จอดรถแบบเดิม  ทำให้ตอนหาทางแก้ไขไม่ออกจึงนำวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านพักและคลิปเหตุการณ์มาเผยแพร่เพื่อขอแนวทางแก้ไข  โดยให้มีการแก้ไขในเรื่องการจอดรถให้ครอบครัวของตนสามารถเข้าออกได้สะดวก  เพื่อที่จะพาอาม่าไปส่งที่โรงพยาบาลและกลับบ้านอย่างสะดวกเท่านั้น ทั้งนี้ตนก็ไม่ได้อยากมีปัญหากับเพื่อนบ้านแต่อยากให้เห็นใจกันเพราะที่บ้านมีคนป่วย

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางไทด์  อายุ 60 ปี  เพื่อนบ้านซึ่งจอดรถกีดขวางทางเข้าออกบ้านพักของผู้ร้องเรียน  ตามคลิปที่ปรากฏในเป็นรถเก๋งสีเทาที่จอดรถขวางก่อนเคลื่อนรถออกจากจุดจอดให้  หลังผู้ร้องเรียนพาอาม่ากลับเข้าบ้านพัก

นางไทด์บอกว่า เหตุการณ์ตามคลิปเกิดเมื่อประมาณ 3 วันที่แล้ว  ตนจอดบริเวณดังกล่าวเพียงแค่ 30 นาที  โดยกลับบ้านพักเพียงสักพักแล้วจะออกไปรับหลานที่โรงเรียน  แต่ปรากฏว่าทางคนร้องเรียนพาอาม่ากลับเข้าบ้านพักซึ่งตอนนั้นไม่ได้บีบแตรรถบอกตน  ตนทราบจากมองกระจกที่บริเวณชั้นสองของบ้านพัก  จึงออกจากบ้านพักและถอยรถออกให้เพื่อให้รถผู้ร้องเรียนสามารถเข้าบ้านพักได้ 

ยืนยันที่ผ่านมาจอดไม่นาน ไม่ได้จอดหลายชั่วโมง  ส่วนสาเหตุที่ไม่จอดหน้าบ้านพักเพราะบริเวณหน้าบ้านพักของตนเป็นทางเลี้ยวซ้ายเพื่อจะทะลุไปอีกซอยหนึ่ง  จึงเกรงว่าถ้าจอดหน้าบ้านพักต้นเพียงแค่ชั่วคราวก็อาจทำให้รถที่ผ่านเส้นทางนี้ไม่สามารถเคลื่อนได้อย่างสะดวก  จึงไปจอดที่บริเวณดังกล่าว

เผยที่ผ่านมาไม่เคยทะเลาะกับครอบครัวผู้ร้องเรียนเรื่องปัญหาจอดรถ  มีเพียงเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านพักติดกับหลังผู้ร้องเรียนที่เคยมีปากเสียงกันเรื่องที่จอดรถเท่านั้น  แต่พอตนทราบว่าผู้ร้องเรียนนำภาพวงจรปิดไปลงในโซเชียล  ตนก็ไม่ได้จอดรถกีดขวางทางเข้าออกบ้านพักผู้ร้องเรียนอีกเพราะไม่อยากมีปัญหา  เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน  ซึ่งตนก็เห็นใจที่อาม่าป่วยติดเตียง  และไม่ได้ตั้งใจอยากให้เกิดปัญหาดังกล่าว