ตำรวจทางหลวง จับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว อึ้ง! พบคนขับมีอายุเพียง 16 ปี อ้างขโมยรถพ่อมารับจ๊อบ ขนแรงงานพม่า แลกค่าจ้าง 1.5 หมื่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก1.บก.ทล.อยุธยา เฝ้าติดตามดูตามเส้นทางต้องสงสัย หลังสืบทราบว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จนกระทั้ง เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 17.40 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง ทล.347 บางปะหัน – ปทุมธานี กระทั่งขับมาถึงบริเวณ กม.22 – 23 ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

พบรถยนต์ SUV ยี่ห้อ ISUZU MU-X สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ขค 9310 พิษณุโลก ต้องสงสัยลักษณะมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ จนผิดสังเกต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสัญญาณไฟกะพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่เมื่อรถคันดังกล่าวพบเห็นรถยนต์ตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับติดตามมา และได้เห็นสัญญาณไฟรวมถึงเสียงคำสั่งเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดรถ จึงได้ขับหลบหนีด้วยการเพิ่มความเร็ว แต่หนีไม่รอดเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้รถปิดหน้าและข้าง พร้อมสั่งให้หยุด และตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว

ตรวจสอบถึงกับอึ้ง พบเยาวชนชายวัย 16 ปี เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว ภายในเบาะที่นั่งด้านหลังยังพบแรงงานต่างด้าวชายหญิง สัญชาติพม่า รวม 14 ราย นั่งโดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าวแน่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้ง ตรวจสอบแล้วไม่พบหนังสือเดินทางหรือข้อมูลการอนุญาตเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจากเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองแต่อย่างใด

จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่าได้ลักลอบข้ามเรือมาทางแม่น้ำเมย เพื่อเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย เมื่อเข้า อ.แม่สอด จ.ตาก จะมีคนพาออกมาขึ้นรถเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายเงินให้กับนายหน้าชาวพม่า นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 30,000 บาท

ทั้งนี้นายซือ (นามสมมุติ) วัย 16 ปี ชาว ต.เชียงของ อ.วังเจ้า จ.ตาก ให้การยอมรับสารภาพว่าทำครั้งนี้เป็นครั้งแรกโดยได้รับค่าจ้างแบบเหมาในราคา 15,000 บาท โดยวันนี้มีคนโทรศัพท์เข้ามาหาว่าอยากได้เงินไหม จะให้ไปส่งแรงงานต่างด้าวคนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตนเองจึงตัดสินใจขโมยรถยนต์ของพ่อขับมาจาก จ.ตาก โดยการตีรถเปล่า วิ่งมาตาม GPS ที่มีคนส่งให้ เพื่อมารับแรงงานต่างด้าวในจังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นได้ขับนำทั้งหมดมาส่งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ตนเองยังไม่ทราบว่าจะไปส่งบริเวณใดจนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม

เบื้องต้น ได้ทำการบันทึกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาคนขับ ในข้อกล่าวหา รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือด้วยประการใด ๆ พ้นจากการจับกุมขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ (ไม่มีใบขับขี่) ส่วนแรงงานต่างด้าวถูกแจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป