จากกรณี  มีชาวบ้านมารวมตัวชุมนุมกันที่วัดแห่งหนึ่ง  ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ทุ่งโพธิ  อ.นาดี  จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 พ.ค.66   เกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัด  ที่มีพฤติกรรมชอบมั่วกาม-เสพเมถุนเด็กหนุ่ม  ซึ่งชาวบ้านมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย  ชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยก็ขอให้พระรูปนี้  ลาออกจากตำแหน่งทุกตำแหน่งเจ้าอาวาสและตำแหน่งเจ้าคณะตำบล  และอยู่เป็นเพียงพระลูกวัด   ชาวบ้านอีกกลุ่มก็ขอให้อยู่ต่อการพูดคุยนัดเคลียร์กันก็ยังไม่จบยังหาผู้ตัดสินไม่ได้   จึงจะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้นำคลิปที่เด็กถ่ายไว้ระหว่างที่เพื่อนเข้าไปทำอะไรกับเจ้าอาวาส และยอมรับว่า  เป็นเรื่องจริง  และเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 4- 5  เดือนก่อน แล้วนั้น

 

วันนี้ 30  พ.ค.66  ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่  ตรวจสอบที่วัดดังกล่าว  พบพระลูกวัดทำความสะอาดบริเวณวัดแต่ไม่พบเจ้าอาวาส  เนื่องจากเจ้าอาวาสได้ออกไปจากวัดไปเก็นเงินฌาปณกิจศพยังไม่กลับมา  จึงได้พูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่ในวัด  แต่ชาวบ้านก็ปฏิเสธที่จะให้ข่าวเรื่องนี้  ทราบเพียงว่าปกติเด็ก ๆที่มาหาเจ้าอาวาสแล้วจะได้เงินเด็ก ๆ ใช้ทำให้เด็กชอบมาหาเป็นประจำ  ต่อมา ก็มีขบวนการที่จะแบล็กเมล์เจ้าอาวาสรูปนี้  จึงนำคลิปมาเปิดเผยดังกล่าว  ส่วนเจ้าอาวาสก็ได้สำนึกว่าเคยทำผิดวินัย  จึงเข้าไปชำระบาปทำพิธีสังฆาทิเสสที่ป่าช้า  เป็นเวลา  15  วัน  และได้เดินทางกลับออกมาแล้ว

 

ส่วนบรรยากาศทั่วไปคงเงียบเหงา  มีเพียงพระลูกวัดและชาวบ้านที่เห็นใจเจ้าอาวาสอยู่เท่านั้น  ส่วนพระรูปอื่นไม่ได้ออกมาให้เห็นแต่อย่างใด  และในวัดมีสื่อมวลชนที่ติดตามรอทำข่าวจากเจ้าอาวาส  เพื่อต้องการสัมภาษณ์กับทางเจ้าอาวาสตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเย็นก็ยังไม่พบตัวเจ้าอาวาสแต่อย่างใด

 

พระอุดม  ศรีมังคะโล พระลูกวัด  กล่าวว่า ในเรื่องที่เกิดขึ้นทางเจ้าอาวาสก็ยอมสละให้ 2  ตำแหน่ง คือ ตำแห่งเจ้าอาวาสและตำแหน่งเจ้าคณะตำบลและขออยู่ที่วัดในช่วงเข้าพรรษา  และจะทำตัวให้ดีขึ้น  ในเรื่องนี้บางคนก็ยอมบางคนก็ไม่ยอม  ตอนนี้ถือว่าจบแล้วเพราะออกจากตำแหน่งแล้ว  เขากำลังหาเจ้าอาวาสองค์ใหม่มารักษาการ  เรื่องที่เกิดมาจากปัญหาอีกฝ่ายจะให้เขียนหนังสือยอมลาออกจากตำแหน่ง  เจ้าอาวาสก็ยังไม่ได้เขียนเพราะเห็นว่าค่ำแล้ว

 

ต่อมา  ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดทับไทรธรรมาราม หมู่ที่ 1 ต.เก่งดินสอ อ.นาดี  ซึ่งเป็นวัดเจ้าคณะอำเภอนาดี  เพื่อเข้าพบกับพระครูศรีธรรมวิสุทธิ (สนาม) อาริโย  ท่านได้ให้สัมภาษณ์ว่า อาตมาไปก็เจอฝั่งที่ร้องนั่งอยู่ก่อนแล้ว  จะให้ผมไปในฐานะอะไรให้ไปในฐานะเจ้าพนักงานเพื่อไปรับข้อมูล จากเรื่องที่เกิดขึ้น  อาตมาก็ไป  ฟังเขาคุยกันแล้วจับประเด็นได้หลักๆ คนที่ร้องมาเขาเสนอว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาสจะออกจากวัด  อาตมาก็ไม่มีความเห็น  ต้องฟังความอีกข้าง  อาตมาก็รับฟัง  ได้ใจความว่า  ต้องการให้ออกจากวัดไปเลย   แล้วถามพระหรือยัง  ก็ให้พระไปประชุมกันประมาณ  16  รูป  โยมที่ร้อง  เสนอให้ลาออกทั้งสองตำแหน่ง ทั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธาราม และเจ้าคณะตำบลทุ่งโพธิ์  อีก  1  ตำแหน่ง  ท่านก็นั่งคิดอยู่นาน  แล้วท่านก็บอกว่า  ได้ แต่ขออยู่วัดนี้

 

พอได้ข้อสรุป  คณะสงฆ์ต้องการให้อยู่ที่วัดนี้ พอได้ข้อความอาตมาก็รีบสรุป เพื่อให้เรื่องมันจบอาตมาก็ยังห้ามนักข่าวไม่ให้เข้าไปรับฟังและไม่ให้ถ่ายรูป  ทางฝ่ายร้องก็บอกว่าถ้าอยากให้เรื่องจบก็ก็โอเคตื่นเช้ามาเรื่องกลับตาลปัตร ตามหลักฐานมันก็อาบัติสังฆาทิเสส  เขาบอกว่าเขายุติแล้ว  คือลบคลิป แต่มันออกไปได้อย่างไร อาตมาคิดว่าตอนลบคลิปโทรศัพท์มันก็กู้คืนได้  แล้วมันออกไปได้อย่างไร  อาตมาก็ไม่เข้าใจถ้าคู่กรณีเขาฟ้อง  เป็นคดีอาญา หลวงพ่อต้องสึกไปสู่คดี  ส่วนทางสงฆ์ยังไม่ได้เอาเข้าระบบ แนะนำนิดหนึ่งว่าอย่าเพิ่งเชื่อ  สงฆ์นี่ทำงานเต็มที่อยู่แล้วอาตมาก็พยายามติดต่อผู้บังคับบัญชาว่า  เกิดเรื่องอย่างนี้ต้องทำอย่างไร  ท่านก็แนะนำมาทั้งหมด  ตอนนี้อาตมาก็รอลายเซนที่เป็นตัวหนังสือของการลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล  เมื่อมีเรื่องเราก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เมื่อมีเรื่องก็ต้องมีส่วนได้ส่วนเสีย  ส่วนเสียมากที่สุดวิงวอนให้ญาติโยมตระหนักถึงพระพุทธศาสนา เพื่อให้จบเร็วที่สุด