ชูวิทย์โพสต์ เจ้าหน้าที่ตั้งแถวต้อนรับ ตำรวจยกกระเป๋าให้ทนายตั้มที่สนามบิน ด้านทนายตั้มตอบทันควัน ตำรวจรู้จักช่วยถือกระเป๋า จวกไม่แมน ไปดูดคลิปลูกความมาลง

จากกรณีช่วงเย็นวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์คลิปวีดีโอเป็นภาพของหญิงสาวกับ “ทนายตั้ม” ซึ่งทั้งสองอยู่ในสนามบิน โดยมีภาพเจ้าหน้าที่ภายสนามบินยืนไหว้ต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นก็เป็นภาพตำรวจท่องเที่ยว เข้าไปช่วยเหลือลากกระเป๋าเดินทางไปยังจุดตรวจ และสุดท้าย ทนายตั้มเข้ามาเซลฟี่โบกมือและสวมกอด

นายชูวิทย์ โพสต์ข้อความบรรยายคลิปนี้ว่า ทนายตั้มผู้ยิ่งใหญ่ ใหญ่ไม่ใหญ่วัดกันที่สนามบิน อย่างผมเป็นประชาชนคนเดินดิน จะเดินทางไปไหนก็ต้องเข้าแถวหน้าเคาน์เตอร์ จะโหลดกระเป๋าก็ต้องแบกเองตามระเบียบ ไม่มีใครมารอต้อนรับ ไม่มีตำรวจมาช่วยยกกระเป๋า แต่อย่างทนายตั้ม ที่ผมบอกว่าเป็นเด็กในคาถาของ “เทพ จ.” ถึงกับจัดตำรวจไปรับไปส่งอย่างที่เห็นในคลิปที่เอามาโชว์ จะได้เลิกปฎิเสธว่า “ทนายตั้ม” เป็นเด็ก เพราะถึงเป็นเด็ก แต่ก็เป็นเด็กของผู้ใหญ่ จึงใหญ่ไปด้วย คลิปนี้ยืนยันให้เห็นว่าทนายตั้มเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ตำรวจต้องมาต้อนรับ หิ้วกระเป๋า อำนวยความสะดวกถึงประตูเครื่องบินทั้งขาเข้าขาออก เห็นแบบนี้ชาวบ้านอย่างเราก็ได้แต่อิจฉา ใครๆ ก็อยากสบายไม่ต้องรอต่อแถว

อยากทราบอย่างเดียว ทนายตั้มมีอะไรดีถึงต้องมีตำรวจมาช่วยแบกกระเป๋า เจ้าหน้าที่เข้าแถวต้อนรับ? ทนายตั้มเป็นทนายประชาชนไม่ใช่หรือ? ว่าความคงไม่รวย แต่เป็น “หน้าเสื่อ” ใครนี่สิ รวยเร็ว รวยกว่า มากบารมี ถึงขนาดต้องจัดตำรวจมาต้อนรับ เมืองไทยก็อย่างนี้ล่ะครับ เส้นไม่ใหญ่จริงทำไม่ได้หรอกครับ ทนายตั้มเขาเส้นก๋วยจั๊บครับ ขอบคุณคลิปจาก ออยศรีและผองเผือก


หลังจากคลิปและข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่า “ทนายตั้ม” ได้ใช้เฟซบุ๊กตอบโต้ว่า "สวัสดีครับพี่ชูวิทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ขอบคุณที่ตามติดชีวิตผมนะครับ แต่ถึงขั้นไปดูดคลิปลูกความผม ที่กำลังเดินทางกลับต่างประเทศ แล้วอัดคลิปมาลง เพราะมีความสุข โดยไม่สนความจริงว่า ตำรวจที่มาช่วยยกของก็คือเดินสวนกันแล้วเขาจำหน้าได้ก็เลยมาทักทาย เห็นพี่ลูกความกระเป๋าหนัก ก็เลยช่วยถือ ตามประสาคนมี Service Mind ที่ดี ไม่พอใจผม เกลียดผม โจมตีผม ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ เข้าใจได้ คนมีประเด็นกัน แต่ถึงขั้นไปดูดคลิปคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาลงเพจ คนติดตามเป็นล้าน ผมว่ามันไม่แมน หรือนี่คือสิ่งที่สุดยอดมหาโจรเขาทำกัน?"

นอกจากนี้ ทนายตั้ม ยังได้โพสต์คลิปแฉกลับ เป็นคลิปที่ดูเหมือนกับนายชูวิทย์เจรจากับบิ๊กทหาร เพื่อจะฝากลูกชายไปเป็นทหาร

จากนั้น นายชูวิทย์ ก็ได้โต้กลับว่าเป็นคลิปเก่า 10 ปีมาแล้ว สมัยถูกคุมตัวไปปฏิวัติ ซึ่งเคยมีการนำเสนอข่าวไปแล้ว โดยระบุว่า "โถ.. หนูตั้ม เอาคลิปเก่าขนาด 10 ปีก่อนมาแฉ สื่อเขารู้เอาไปลงกันทั่วแล้ว คลิปนี้ออกมาตั้งแต่ผมเล่นงานไอ้ซัวใหม่ๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นความลับ เพราะถ่ายมาตั้งแต่ปฏิวัติแรกๆ ตอนถูกเรียกไปปรับทัศนคติ ใครจะรู้ว่าคนเข้ามาเป็นผู้ใหญ่ที่ผมรักเคารพ แล้วที่ฝากลูกผมก็ได้เป็นได้แค่ทหารเกณฑ์ สู้รบกับมดในค่าย นึกว่ามีไม้เด็ดกว่านี้ อุตสาห์รอ เห็นหายหัวไปนาน

หากจะแฉผมเอาที่สะใจกว่านี้หน่อยเถอะ ถึงจะเหมาะกับมหาโจรอย่างผม คลิปก็มาจาก “เปา” เด็กที่เอามาเลี้ยงแล้วทรยศ กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ยักยอกเงินไป แล้วไปเป็นลูกน้องไอ้ซัว คิดจะแฉต้องเอาที่เป็นประโยชน์กับประชาชน อย่าง “ทนายประชาชน” เอาตำรวจมาเป็น “เบ๊รับใช้” อันนี้สังคมรับไม่ได้ นี่ขนาดทนายธรรมดาเด็กๆ เพียงแต่เป็นเด็กในคาถาของ “เทพ จ.” เรื่องนี้มันใหญ่ เพราะเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปปล่อยให้ตำรวจคอยแบกกระเป๋า ยกมือไหว้นอบน้อมแค่ทนายคนเดียว ประชาชนคนเดินดินไม่ได้รับอำนวยความสะดวกแบบนี้จากตำรวจหรอกครับ อย่าได้ไปหวัง หากจะแฉกันแบบเด็กๆ ก็บอกกันเสียก่อน รอมานาน แฉได้แค่นี้ กลับไปขายข้าวแกงข้างโรงพักกระทุ่มแบนดีกว่า"

ต่อมา ได้มีตำรวจท่องเที่ยวอธิบายถึงคลิปเหตุการณ์ในสนามบิน ระบุว่า "การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ทุกครั้งที่ทนายคนดังกล่าวเดินทางมา หรือผู้มีอำนาจคนใหญ่คนโต ตำรวจท่องเที่ยวชั้นผู้น้อยมักจะโดนนายสั่ง ให้ไปบริการดุจราชา ตั้งแต่แรกเข้าสนามบิน"

"เมื่อทนายคนดังกล่าวมาถึงสนามบิน ตำรวจท่องเที่ยวจะต้องเอารถขับไปจอดให้ โดยใช้ที่จอดรถของตำรวจท่องเที่ยวในการจอดรถส่วนตัว จอดฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อนำรถไปจอดเสร็จ ก็จะมีตำรวจอีกทีม ที่จะต้องบริการยกกระเป๋า ไปเคาน์เตอร์เพื่อเช็กอิน จากนั้นจะส่งต่อให้ตำรวจ ตม. ในการประสานเดินทางเข้าเกตแบบ Fast track"

ขณะที่ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกตำรวจท่องเที่ยว ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคลิปดังกล่าวเป็นภาพเก่าที่เกิดขึ้นไม่เกิน 2 ปี ทั้งนี้ไม่ขอปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตำรวจท่องเที่ยวไปอำนวยความสะดวกให้จริง แต่โดยปกติแล้วภารกิจของตำรวจท่องเที่ยวในท่าอากาศยานนั้น นอกจากดูแลความปลอดภัยแล้วยังต้องคอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติในการเดินทางขึ้นเครื่องบิน

เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายครั้งที่นักท่องเที่ยวเกือบจะตกเครื่อง ก็มักจะไปขอความช่วยเหลือและขอคำแนะนำกับตำรวจท่องเที่ยว โดยตำรวจท่องเที่ยวก็จะช่วยยกกระเป๋าสัมภาระไปบริเวณจุดเช็กอินขึ้นเครื่องเพื่อให้ทันเวลา ซึ่งมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ

พล.ต.ต. อภิชาติกล่าวต่ออีกว่า สำหรับกรณีของษิทรานั้น อาจเป็นไปได้ว่าด้วยเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ตำรวจจึงเข้าไปสอบถามให้ความช่วยเหลือในการขนกระเป๋าสัมภาระ ทั้งนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นการอำนวยความสะดวกตามคำสั่งของบุคคลใดหรือไม่ หรือเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวตามปกติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจน