"ผอ.รร." แจงดราม่ากล้อนผม ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้ง รู้ว่าเด็กหลายคนไม่มีเงินบ้านอยู่ห่างไกล ยันเด็กหลายคนเข้าใจ

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก "นักเรียนเลว" ได้โพสต์ข้อความว่า "ครูทิ้งหนังสือ ลุกขึ้นจับกรรไกร ไล่กล้อนผมเด็กเกือบทั้งโรงเรียน ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้กรรไกรเดินไล่กล้อนผมเด็กกว่าร้อยรายจนแหว่งเละไม่เป็นทรงในระหว่างกำลังเข้าแถวตอนเช้า พบสภาพเศษผมปลิวว่อนทั่วโรงเรียน หลังจากนั้นครูก็ได้เรียกนักเรียนทั้งหมดที่ถูกกล้อนผมแหว่งให้มารวมตัวกัน และเปลี่ยนโรงเรียนให้เป็นร้านตัดผม จับนักเรียนทุกคนมาแก้ทรงผมให้กลายเป็นทรงเกรียนขาวสามด้าน แม้กฎทรงผมของโรงเรียนจะไม่ได้บังคับให้ต้องตัดทรงผมเกรียนก็ตาม"

 

"มีรายงานว่าที่ผ่านมาโรงเรียนแห่งนี้ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน กฎทรงผมของโรงเรียนก็ไม่ได้เคร่งครัดให้นักเรียนต้องปฏิบัติตาม แต่เมื่อมี ผอ. คนใหม่ย้ายเข้ามา ครูรายดังกล่าวได้ไปขออนุญาตจาก ผอ. เพื่อจะกล้อนผมนักเรียนที่ไม่ตัดผมให้ถูกระเบียบ ซึ่ง ผอ. ได้อนุญาตให้ครูกล้อนผมนักเรียนได้ จึงเกิดเหตุการณ์ขึ้น"

 

ซึ่งเรื่องดังกล่าวสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์ ล่าสุด (8 ก.พ.66) นายมานะ มะสิน ผอ.โรงเรียนบึงสามพันวิทยาคม เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา หลังจากทำกิจกรรมหน้าเสาธงเสร็จแล้ว ได้มีการตรวจทรงผมและการแต่งกายของนักเรียน และได้มีนักเรียนหลายคนที่ผมยาวผิดระเบียบของโรงเรียน ทำให้นายเสถียรพงษ์ อติจรรยานุรักษ์ ครูชำนาญการพิเศษ ได้ใช้กรรไกตัดผมนักเรียนชายที่ผิดระเบียบ ทั้งนี้เพื่อเป็นสัญลักษณ์เพื่อให้ไปรอเข้าคิวตัดผม ที่ทางโรงเรียนได้จัดหาช่างตัดผมรวมทั้งครูประมาณ 4-5 คน มาทำการตัดผมให้กับนักเรียนชายฟรีเพื่อให้ถูกระเบียบ เนื่องจากผมนักเรียนยาวจริงๆ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้เป็นนโยบายของทางโรงเรียน เพราะรู้ว่าเด็กหลายคนไม่มีเงิน และบ้านอยู่ห่างไกล ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่ก็เข้าใจ แต่อาจจะมีบางส่วนที่ไม่เข้าใจ ส่วนภาพที่ปรากฏในสื่อโซเชียลนั้นเป็นแค่บางส่วนเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด จึงทำให้กลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมา