แพทย์เผย เด็ก 1 ขวบตกท่อส่งน้ำบ่อบาดาล ไม่มีบาดแผล-บาดเจ็บ-กระดูกหัก เฝ้าดูอาการปอดบวม 1-2 วัน ด้านแม่ยอมรับตกใจมาก พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงาน ไม่คิดว่าจะมีคนช่วยเยอะขนาดนี้

วันที่ 7 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี เด็กหญิงวัยอายุ 1 ปี 7 เดือนชาวเมียนมา พลัดตกลงไปในท่อส่งน้ำบ่อบาดาล ติดค้างอยู่ภายในหลุมที่มีความลึก 15 เมตรโดยเหตุเกิดผ่านไปเกือบ 20 ชม. แล้ว โดยเหตุเกิดกลางไร่มันสำปะหลัง เขตอำเภอพบพระ จังหวัดตาก

ก่อนที่เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันนี้ (7 ก.พ.66) ทางทีมกู้ภัยจะสามารถช่วยเหลือน้องขึ้นมาได้ และนำตัวส่งโรงพยาบาลพบพระในทันที

ทางด้านแพทย์ที่โรงพยาบาลพบพระ ได้เปิดเผยว่า น้องมีอาการขาดน้ำเล็กน้อย ส่วนอาการบาดเจ็บอื่น ๆ นั้น หลังจากตรวจเช็กร่างกายเรียบร้อยแล้ว ไม่พบว่าได้รับบาดเจ็บเลย ในขณะเดียวกันไม่พบบาดแผลตามร่างกาย ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามดูอาการ อย่างไรก็ตามได้มีการเอ็กซเรย์ตามร่างกายแล้ว ทั้งปอด ขา และสะโพก ไม่พบว่ามีการหักของกระดูก ทั้งนี้ยังให้น้องงดน้ำและอาหารอยู่ เนื่องจากเกรงว่าจะสำลักดินหรือฝุ่นเข้าไปเยอะ พร้อมกับเฝ้าระวังอาการปอดบวม 1-2 วันแรก ที่อาจมีอาการปอดบวมได้ ส่วนประเด็นเรื่องของการงดน้ำและอาหารนั้นจะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่นั้น เนื่องจากน้องไม่ได้ทานอะไรเลยกว่า 18 ชั่วโมง ทางด้านแพทย์ระบุว่า ในส่วนนี้ทางกุมารแพทย์จะให้ผ่านทางน้ำอยู่แล้ว และจะทำให้อาการขาดน้ำและเกลือแร่ดีขึ้นตามลำดับต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงพยาบาลพบพระ อำเภอพบพระจังหวัดตาก และได้พูดคุยกับ นางรง ตานเท อายุ 20 ปี ผู้เป็นแม่ของน้องตาซา เด็ก 1 ขวบ 7 เดือนที่พลัดตกท่อส่งน้ำบ่อบาดาล ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "ตอนที่ลูกสาวหายตัวไปนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณบ่ายสามโมง ตนเองรู้สึกตกใจมากเมื่อมีคนเข้ามาบอกว่าลูกสาวหายตัวไปจึงออกตามหาและมาทราบอีกทีว่าลูกสาวตกอยู่ในหลุมลึกแห่งนี้"

ภายหลังจากที่รู้ว่าลูกสาวตกลงไปในหลุมลึกแห่งนี้จึงได้ประสานไปยังผู้นำชุมชน จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ตนเองรู้สึกดีใจที่มีคนมาช่วยมากมายขนาดนี้และอยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร คุณหมอพยาบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของตนเองในครั้งนี้