แม่โวย! อ้างโรงพยาบาลมั่ว แจ้งไลน์กลุ่ม อสม. ลูกสาว ม.4 ท้อง พบชื่อเหมือนกัน แต่คนละนามสกุล เลยแจ้งผิดคน ทำเอาเด็กอาย ไม่กล้าออกจากบ้าน กลายเป็นตราบาป จี้ให้รับผิดชอบ

วันที่ 23 ม.ค.66 สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (22 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางจารุวรรณ ไกรลำ อายุ 50 ปี ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ว่าลูกสาวของตนเองชื่อนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ศึกษาอยู่ชั้น ม.4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านไร่ ได้รับความเสียหายอับอายจากการที่มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในอำเภอบ้านไร่ ได้ส่งรายชื่อมาในไลน์กลุ่ม อสม. ที่มี อสม. คอยดูแลเรื่องสุขภาพชาวบ้านที่ตำบลบ้านไร่ พร้อมมีสมาชิก อสม. ที่อยู่ในไลน์กลุ่มประมาณ 219 คน โดยวันที่ 12- 13 ม.ค.66 ได้มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดังกล่าวที่ตัวผู้เป็นแม่เองได้อ้างว่าชื่อ นก ส่งไลน์เข้ามาในกลุ่ม อสม. ตำบลบ้านไร่ และแจ้งชื่อลูกสาวมา โดยมีทั้งชื่อและนามสกุล และบ้านเลขที่ชัดเจน ว่าลูกสาวของตนเองนั้นได้ตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นั้น ไม่เป็นความจริง ทั้ง ๆ ที่ลูกสาวของตนเองนั้นเป็นเด็กวัยเรียน และไม่เคยไปฝากครรภ์หรือฝากท้องที่โรงพยาบาลดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งลูกสาวบอกว่าไม่ใช่ตนเองอย่างแน่นอน ตนเองจึงพาลูกสาวไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลดังกล่าวอีกครั้ง ในวันที่ 15 ม.ค.66 เวลา ประมาณ 18.00 น. โดยผลตรวจก็ออกมาว่าลูกสาวไม่ได้ตั้งท้องแต่อย่างใด

ต่อมาตนเองก็มาทราบข่าวจากญาติที่เป็น อสม. อยู่ที่ตำบลบ้านไร่ ได้แจ้งว่าทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดังกล่าวที่ได้แจ้งชื่อลูกสาวของตนเองมานั้น เป็นความเข้าใจผิดของทางเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงมาว่า แจ้งชื่อผิด เป็นชื่อเดียวกัน แต่คนละนามสกุล จึงขอแก้ไขเข้ามาในไลน์กลุ่ม อสม. ตำบลบ้านไร่อีกครั้ง ว่าขอแก้ข่าว เป็นเรื่องเข้าใจผิด พร้อมกับทางโรงพยาบาลดังกล่าวได้เชิญคุณแม่และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดังกล่าวมาพูดคุย พร้อมชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางแม่ของเด็กได้อ้างว่าทางโรงพยาบาลดังกล่าวได้เสนอค่าเยียวยามาให้กับทางตัวแม่เองด้วยเงินประมาณ 10,000 บาท แต่ด้านแม่ของน้องผู้เสียหายไม่พอใจอย่างมาก เห็นตนเองเป็นแค่ชาวบ้าน จะมาให้เงิน 10,000 บาท แล้วก็จบ ส่วนตัวอยากจะได้รับความยุติธรรมให้มากที่สุด รวมทั้งกับความเสียหาย และความอับอาย รวมไปถึงสุขภาพจิตของลูกสาวที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้ลูกสาวไม่กล้าออกจากบ้าน แถมเพื่อนที่โรงเรียนก็ถามไถ่จนเป็นที่อับอาย ลูกสาวไม่กล้าจะออกไปไหน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบให้ถึงที่สุดกับตนเองและลูกสาวบ้าง ขณะนี้ลูกสาวยังอยู่ในวัยเรียนชั้น ม.4 ไหนจะชาวบ้านที่ยังไม่เข้าใจ มันตีตราบาปให้กับลูกสาวในครั้งนี้มาก ไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่ทำผิดก็แค่ขอโทษ แต่ความเสียหายมันเอากลับคืนมาไม่ได้