สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง หยุดเหตุรุนแรง ในสังคมไทย ชี้คนไทยอยากเห็นปฏิรูปงานตำรวจ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผล สำรวจ เรื่อง หยุดเหตุรุนแรงในสังคมไทย กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่าน กระบวนการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อน

จากผู้ถามผู้ตอบและเครื่องมือวัด จำนวน 1,125 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 7 – 8 ตุลาคม พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา โดยมี ค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 3 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

 

ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.0 สลดใจ หดหู่ใจ กับข่าวเหตุรุนแรงและการสูญเสียในจังหวัด หนองบัวลำภูในขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.5 กลัว จะมีการลอกเลียนแบบเกิดซ้ำ ที่น่าพิจารณาคือ ความต้องการของประชาชน ด้าน งานตำรวจ หยุดเหตุรุนแรงในสังคมไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.3 ต้องการให้ปฏิรูปงานตำรวจ จะช่วยหยุดเหตุรุนแรงและดีต่อสังคมไทยแท้จริง ยั่งยืน รองลงมา คือ ต้องการให้ บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด คุมอาวุธปืน การตั้งด่าน ป้องกันเหตุ ร้อยละ 54.6 และต้องการให้มี ตำรวจชุมชน เกิดขึ้นในระบบงานตำรวจ ที่มากกว่า ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ กำกับคุณภาพงานตำรวจ โดยตำรวจอำเภอ จังหวัดภาคและระดับประเทศ ร้อยละ 51.5

 

นอกจากนี้ เกินครึ่งหรือร้อยละ 52.0 ต้องการให้ ควบคุม ความรุนแรงใน เกม และ ภาพยนตร์ หนังซีรี่ส์ ต่าง ๆ ที่รุนแรง ป้องกันเลียนแบบ

ร้อยละ 51.7 ต้องการให้หยุดใช้กระแส ใช้หน้าสื่อมวลชนหาผลประโยชน์ทางการเมือง

ธุรกิจ สร้างความขัดแย้ง เกลียดชังกันในหมู่ประชาชน

 

และร้อยละ 47.7 ต้องการให้คุม ใช้สื่อ โซเชียลมีเดียเผยแพร่ ภาพความรุนแรง ด้วยกฎหมายและ จรรยาบรรณ ในสถานการณ์สะเทือนใจ ฉุกเฉิน

 

ที่น่าสนใจคือ เกินครึ่ง หรือร้อยละ 51.3 ต้องการให้หยุด คุกคาม บูลลี่ ผู้อื่นสร้างความเกลียดแค้นฝังใจ ต้นตอขยายผลความรุนแรง ในชุมชน

 

ร้อยละ 50.9 ต้องการให้หน่วยงานรัฐออกเยี่ยมเยียน มีระบบเกาะติด เน้นป้องกัน และ

ระงับเหตุ สถานที่ เปราะบาง เช่น โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงพยาบาล วัด ที่ดูแลรักษาความปลอดภัยของตนเองไม่ได้

 

และร้อยละ 43.1 ต้องการให้ร่วมแรง ร่วมใจ สวดมนต์ ภาวนาจิต เป็นกำลังใจ ดูแลเยียวยาจิตใจของประชาชนจังหวัดหนองบัวลำภูให้มีพลัง ใช้ชีวิตปกติสุขโดยเร็ว

 

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.3 ต้องการให้ จัดระเบียบสังคม จัดระเบียบความปลอดภัยของประชาชนด้วยเทคโนโลยี และการทำงานที่ทันสมัย ตอบสนองความต้องการของประชาชน ระงับเหตุได้รวดเร็วที่สุด และ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.2 ต้องการให้ปฏิรูปงานตำรวจ มากกว่า ทำสงคราม ยาเสพติด เพราะทำสงครามยาเสพติดแก้ปัญหาไม่ยั่งยืน ยาเสพติดกลับมาแพร่ระบาดเหมือนเดิมอีก

 

ในขณะที่ ร้อยละ 40.8 ต้องการให้ทำสงครามยาเสพติด มากกว่า และร้อยละ 2.0 ระบุอื่น ๆ ตามลำดับ