เขื่อนเจ้าพระยาเข้าขั้นวิกฤต เพิ่มอัตราการระบายทะลุ 2,956 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้น 30 เซนติเมตร ใน 24 ชั่วโมง ชาวบ้านเริ่มเครียดสะสมหลังอยู่กับน้ำท่วม 1 สัปดาห์

วันที่ 8 ต.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ภาคกลาง พบว่า น้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำฝนจากทางตอนบนประเทศ วัดได้อัตรา 3,088 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ล่าสุดวัดได้ +17.62 เมตร ระดับน้ำยกตัวขึ้น 30 เซนติเมตร ใน 24 ชั่วโมง และเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนริมตลิ่งใน 3 อำเภอเหนือเขื่อนเจ้าพระยาคือ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ และ อำเภอมโนรมย์

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ได้ปรับเพิ่มอัตราการระบายไปที่ 2,956 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาสมดุลของน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน และเพื่อชะลอน้ำเหนือไว้ในลำน้ำเหนือเขื่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งจากการระบายน้ำในเกณฑ์ดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกระดับขึ้นกว่า 30 เซนติเมตร ใน 24 ชั่วโมง เมื่อเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา วัดได้ +16.96 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางเอ่อล้นสูงกว่าตลิ่ง 49 เซนติเมตร ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เขื่อนเจ้าพระยามีการปรับระดับการแจ้งเตือนจากธงเหลืองในสถานการณ์เฝ้าระวังขึ้นเป็นธงแดงซึ่งเป็นสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต

โดยคาดการณ์ว่าระดับน้ำพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะสูงขึ้นได้อีก 15-20 เซนติเมตร ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ส่วนพื้นที่เหนือเขื่อนใน อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ และอำเภอมโนรมย์ ระดับน้ำจะเอ่อล้นขยายวงกว้างมากขึ้น และความสูงของระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นจากเดิม

ซึ่งจากที่ชาวบ้านในพื้นริมน้ำเจ้าพระยา ที่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมมากว่า 1 สัปดาห์ ทำให้พบว่ามีประชาชนจำนวนมากที่เริ่มมีความเครียดสะสม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงใย เพราะเป็นผลเสียต่อสุขภาพจิตของชาวบ้าน และหากปล่อยไว้อาจจะเป็นปัญหาลุกลาม ถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าได้ ซึ่งมีรายงานว่าทางราชการเองก็ได้เตรียมทีมที่ปรึกษาทางสุขภาพจิตไว้ลงพื้นที่ เพื่อเยี่ยมประชาชนให้คำปรึกษาและเยียวยาสภาพจิตใจแล้ว หรือหากรายใดต้องการคำปรึกษาเร่งด่วนสามารถแจ้งได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน

โดยเขื่อนเจ้าพระยามีแผนปรับการระบายน้ำขึ้นไปในเกณฑ์ 2,900-3,000 ลูกบาศก์เมตร ในช่วงตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. เป็นต้นไป เพื่อพร่องน้ำในพื้นที่เหนือเขื่อนที่กำลังเต็มความจุลำน้ำ และลดผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งเหนือเขื่อน แต่จะกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งจะมีระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นได้อีก