แพทย์ รพ.บางบัวทอง เผยผลการรักษา "น้องพีพี" ยืนยัน เด็กเสียชีวิตผิดธรรมชาติ ไม่ได้ตายจากโรคทั่วไป ด้านทนายรณณรงค์ จะนำเวชระเบียนยื่นต่อตํารวจภูธรภาค 1 เหตุเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง ด้าน น้องเจ้าขา อาการดีขึ้น-ตอบสนอง ได้

 

วันที่ 7 ก.ย. 65 ความคืบหน้าคดี "น้องเจ้าขา" เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่ถูกแม่แท้ ๆ และพ่อเลี้ยงทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ต่อมาตำรวจจะจับตัวแม่และพ่อเลี้ยงไว้ได้ ขณะเดียวกันพ่อแท้ ๆ และย่าของเด็กยังคาใจประเด็นเรื่องการเสียชีวิตของ "น้องพีพี" เด็กชายวัย 2 ขวบ ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดวันนี้ (7 ก.ย.65) นางอนันต์ มาเจริญศรี อายุ 64 ปี ย่าของน้องเจ้าขาและน้องพีพี พร้อมกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางมาที่โรงพยาบาลบางบัวทอง เพื่อมาติดตามและขอรับเวชระเบียนการรักษาของน้องพีพี ที่โรงพยาบาลบางบัวทองเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา และเสียชีวิตในวันดังกล่าว โดยทางครอบครัวต้องการทราบรายละเอียดและประวัติการรักษาของน้องพีพีตั้งแต่เริ่มเข้ามารักษาก่อนเสียชีวิต

ด้านนางอนันต์ผู้เป็นย่า ได้นำหนังสือมอบอำนาจของพ่อน้องพีพีตามกฎหมาย มามอบให้กับผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางบัวทอง เพื่อรับเวชระเบียนตามขั้นตอน

ด้านนายแพทย์ประพุทธ ลีลาพฤทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางบัวทอง ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดการรักษา ตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุ ในวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยบอกว่า ในคืนวันดังกล่าวแพทย์เวรได้รายงานว่า ญาติของผู้ป่วยได้พาเด็กมารักษาที่โรงพยาบาลในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตอนนั้นญาติที่มาคือแม่และพ่อเลี้ยง 2 ราย โดยพ่อเลี้ยงเป็นคนอุ้มเด็กเข้าไปภายในห้องฉุกเฉิน โดยแพทย์เวรพยายามทำการรักษาและเรียกเด็กที่อยู่ในอาการหมดสติ แต่ปรากฏว่าเด็กไม่รู้สึกตัวแล้วและไม่มีชีพจรแล้ว ประกอบกับรูม่านตาขยายตัว 5 มิลลิเมตร และร่างกายไม่ตอบสนอง เบื้องต้นคาดว่าเด็กน่าจะหมดลมหายใจมานานพอสมควร จึงทำการปั๊มหัวใจและฉีดยากระตุ้นหัวใจ ก่อนดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอนประมาณ 30 นาที แต่สุดท้ายเด็กไม่มีการตอบสนอง แพทย์เวรจึงได้แจ้งแม่ของเด็กว่า เด็กเสียชีวิตแล้ว

ขณะนั้นทางแพทย์ก็ได้ตรวจร่างกายของเด็กด้วย พบว่ามีรอยฟกช้ำที่ลำตัวหลายแห่ง อาทิ หลัง ต้นคอ ท้ายทอย ท้อง แขนและขา ที่สำคัญท้องของเด็กที่มีขนาดใหญ่มากกว่าปกติ จึงประเมินและสันนิษฐานในตอนนั้นได้ว่า "เด็กเสียชีวิตผิดธรรมชาติ ไม่ได้ตายจากโรคทั่วไป" จากนั้นจึงได้รีบแจ้งให้ทางตำรวจ สภ.บางบัวทอง และประสานแพทย์นิติเวชเพื่อทำการชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอน

ต่อมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและแพทย์นิติเวชมาถึงและได้พูดคุยกับทางญาติที่อยู่หน้าห้อง ก่อนนำเด็กไปผ่าพิสูจน์ โดยจากที่แพทย์เวรสังเกตุเห็นแม่เด็กตอนที่อยู่โรงพยาบาล เห็นว่าแม่เด็กอยู่ในอาการร้องไห้เสียใจ ส่วนพ่อเลี้ยงมีอาการลุกลี้ลุกลน

ขณะที่ประเด็นแม่และพ่อเลี้ยงอ้างว่าเด็กมีอาการเลือดออกในช่องท้อง มีโรคประจำตัว และเมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล แพทย์รักษาไม่ดีนั้น ทางโรงพยาบาล ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่ทางแม่และพ่อเลี้ยงสร้างเรื่องไปเอง และการที่เลือดออกในช่องท้อง ทางโรงพยาบาลไม่สามารถที่จะผ่าได้ในขณะนั้น ประกอบกับที่ผ่านมาเด็กไม่มีประวัติการรักษาและไม่มีโรคประจำตัว

ส่วนอาการน้องเจ้าขา ตอนนี้แพทย์ยังให้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเด็ก และยังต้องดูอาการวันต่อวัน แต่เบื้องต้นวันนี้อาการดีขึ้น และสามารถตอบสนอง รวมถึงเบิกตาได้กว้างขึ้นแล้ว

ด้านทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับเวชระเบียนของน้องพีพีจากโรงพยาบาลบางบัวทองแล้ว หลังจากนี้จะนำไปยื่นต่อที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อให้ชุดสืบสวนมือดี ลงมาสืบสวนสอบสวนคดีของน้องพีพี เพราะเชื่อว่าเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง