ตั้งคณะกรรมการสอบกรณีครูสั่งลงโทษนักเรียน ให้ลุกนั่ง 200 ครั้ง หลังโดดเรียน จนต้นขาอักเสบ ติดเชื้อ ต้องผ่าตัด ชี้การลงโทษดังกล่าวไม่อยู่ในระเบียบสถานศึกษา ถือเป็นการทำผิดวินัย ต้องตรวจสอบถึงเจตนา ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

 

วันที่ 30 ส.ค. 65 ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ กรณีครูสั่งลงโทษเด็กนักเรียนด้วยการทำท่าลุกนั่ง 200 ครั้ง แล้ว ชี้การลงโทษด้วยการทำท่าลุกนั่งไม่อยู่ในระเบียบสถานศึกษา ถือเป็นการทำผิดวินัย แต่ต้องตรวจสอบถึงเจตนา ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

หลังจากที่ได้เกิดกรณีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชาย อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังในอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ออกมาร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ลูกชายถูกคุณครูผู้สอน ซึ่งเป็นคุณครูผู้หญิงสั่งลงโทษด้วยการทำท่าลุกนั่งจำนวน 200 ครั้ง ส่งผลให้ลูกชายได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง อีกทั้งเมื่อตรวจอย่างละเอียดยังพบว่าเป็นฝีที่ข้อพับต้นขาซ้าย ต้องทำการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง และต้องพักฟื้นนานเกือบ 2 เดือน ทำให้ลูกชายต้องหยุดเรียนและพ่อแม่ต้องหยุดงานมาคอยดูแลลูกจนขาดรายได้ จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคุณครูผู้สั่งลงโทษลูกชาย พร้อมเรียกร้องเงินค่าเยียวยาจากทางฝั่งคุณครูจำนวน 250,000 บาท แต่หลังจากเข้าแจ้งความแล้ว เวลาผ่านมาเกือบเดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า

ล่าสุด ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบกับนายอนันต์ศักดิ์ ภูผลพัน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว โดยนายอนันต์ศักดิ์ กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ผ่านการรายงานของผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเรื่องเรียบร้อยแล้ว รวมถึงได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้วเช่นกัน ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้ทำการตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบสวนและรายงานเข้ามาเรียบร้อยแล้ว โดยพบว่า การสั่งลงโทษดังกล่าว ครูเป็นผู้สั่งจริง เพื่อลงโทษเด็กนักเรียนที่โดดเรียน แต่การลงโทษด้วยการสั่งทำท่าลุกนั่งนั้น ถือเป็นการลงโทษที่ไม่อยู่ในระเบียบของสถานศึกษา จึงถือเป็นการทำผิดวินัยของครูผู้สั่งลงโทษ ซึ่งจะมีการเอาผิดทางวินัยกับครูผู้สั่งลงโทษต่อไป ทั้งนี้หลังเกิดเรื่องทางครูผู้สั่งลงโทษก็ได้มีการเดินทางไปพบและขอโทษกับทางครอบครัวของเด็ก รวมถึงแสดงความรับผิดชอบด้วยการพาเด็กไปหาหมอและรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดด้วย

ยืนยันว่าเรื่องนี้ ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน แต่ในส่วนของเงินค่าเยียวยาที่ทางครอบครัวของเด็กนักเรียนเรียกร้องมานั้น เป็นเรื่องที่ทางครอบครัวของเด็กและทางครูผู้สั่งลงโทษต้องเจรจากันเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ทางครอบครัวของเด็กเรียกร้องเงินเยียวยาเป็นค่ารักษาและค่าขาดรายได้ของผู้ปกครอง จำนวน 250,000 บาท ก่อนจะมีการนัดพูดคุยเจรจากันหลายครั้ง จนทางผู้ปกครองยอมลดจำนวนเงินลงมาเหลือ 120,000 บาท แต่ทางครูผู้สั่งลงโทษก็ยังไม่มีเงินพอจะจ่าย จึงขอเยียวยาเบื้องต้น จำนวน 30,000 บาท แต่ทางผู้ปกครองยังไม่ขอรับ ซึ่งก็จะต้องมีการนัดเจรจาเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันต่อไป โดยในวันนี้ (30 ส.ค. 65) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจะได้ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจกับทางเด็กและครอบครัวของเด็กที่ถูกสั่งลงโทษด้วยตนเองอีกครั้ง