คดีหวย 30 ล้าน ภาค 2 "ลุงจรูญ" ไล่เช็กบิล "ครูปรีชา-ทนาย" ฐานฟ้องเท็จ ทนายตั้มเผยคลิปเสียงมัดตัวแน่น คาดปิดฉากได้ในปีนี้ ด้านครูปรีชาเครียด ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ พบแยกทางกันเดินกับทนายวรยุทธที่เป็นจำเลยร่วมในคดี

 

วันที่ 23 ส.ค. 65 ความคืบหน้า "คดีหวย 30 ล้าน" ซึ่งก่อนหน้านี้นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์และรับของโจร รวมถึงคดีอื่น ๆ รวมกว่า 10 คดี และมีการต่อสู้ในชั้นศาลกันมานานกว่า 5 ปี จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องลุงจรูญ ทำให้คดีอื่น ๆ ที่ครูปรีชาฟ้องลุงจรูญค้างเอาไว้ก็ถูกยกฟ้องตามไปด้วยนั้น

ล่าสุด คดีหวย 30 ล้าน ภาค 2 ได้เริ่มเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง โดยในวันนี้ (23 ส.ค. 65) เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการนัดสืบพยานโจทก์ในคดีที่ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล เป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชา ใคร่ครวญและทนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความของครูปรีชา ในความผิดฐานร่วมกันฟ้องเท็จ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา

โดยลุงจรูญพร้อมด้วยภรรยา ลูกสาว ทนายตั้ม และทนายอาคม ได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดกาญจนบุรีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไร้ความกังวล โดยทนายตั้มได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ในคดีที่ลุงจรูญฟ้องครูปรีชาและทนายวรยุทธ ในความผิดฐานร่วมกันฟ้องเท็จ ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องและสืบพยานโจทก์ปากแรกคือลุงจรูญไปเรียบร้อยแล้ว โดยในวันนี้ตนเองจะขึ้นให้การเป็นพยานปากที่สอง ส่วนปากที่สามจะเป็นพิธีกรรายการช่องดังช่องหนึ่ง หลังจากนั้นน่าจะเป็นการสืบพยานจำเลย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งในการที่ลุงจรูญฟ้องครูปรีชาและทนายวรยุทธในครั้งนี้ ได้นำเอาคลิปเสียงที่ครูปรีชาได้คุยกับภรรยาและมีใจความสำคัญว่า ครูปรีชาไม่ได้ไปตลาดเรดซิตี้ เพื่อซื้อลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัล ในวันที่ 31 ต.ค. 60 ตามที่กล่าวอ้าง แต่ทั้งที่รู้ว่าไม่ได้ซื้อจริงก็ยังไปแจ้งความดำเนินคดีกับลุงจรูญ ซึ่งถือเป็นการฟ้องเท็จอย่างชัดเจน เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดกับครูปรีชาและทนายได้แน่นอน

ทั้งนี้หลังให้สัมภาษณ์เสร็จ ลุงจรูญพร้อมด้วยทีมทนายความและครอบครัวได้เดินขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดีทันที

ขณะที่ในเวลา 09.00 น. นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความของครูปรีชา เดินทางมาศาลตามลำพัง โดยมีสีหน้าเคร่งเครียดและนำกระเป๋าเอกสารใบใหญ่มาด้วย ก่อนจะรีบเดินขึ้นห้องพิจารณาคดีโดยไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน ก่อนที่ในเวลาไล่เลี่ยกัน ครูปรีชาจะเดินมาจากอีกด้านของประตูศาลพร้อมกับทนายความคนใหม่ ซึ่งจะสังเกตได้ชัดเจนว่า ครูปรีชามีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดและปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชนเช่นกัน เมื่อสื่อมวลชนถามว่าเลิกใช้บริการทนายวรยุทธแล้วหรือ ครูปรีชาก็ตอบมาเพียงสั้น ๆ ว่ามีทนายหลายชุด ก่อนจะรีบเดินขึ้นห้องพิจารณาคดีไปทันที

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า การเดินทางมาศาลของครูปรีชาและทนายวรยุทธในครั้งนี้ แตกต่างจากทุกครั้งก่อนหน้านี้ที่ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพร้อมกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ในครั้งนี้ทั้งคู่กลับแยกกันเดินมาจากคนละด้านของประตูศาลและทั้งคู่ยังมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดด้วย