นายก สวท. เผย อธิบดีกรมทางหลวงสั่งรื้อถอนคาน 4 ตัว ออกทั้งหมด พร้อมเปิดเส้นทางด่วน สร้างความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนที่สัญจรบนถนนพระราม 2

 

วันที่ 2 ส.ค. 65 ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วย นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับนายประลองยุทธ์ กสิวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณสะพานกลับรถ ถนนพระราม 2 โดยได้มีการเข้าตรวจสอบสภาพบนสะพานอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดไปวิเคราะห์และสรุปแนวทางที่ชัดเจนในการดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมสะพานกลับรถแห่งนี้

ด้าน ดร.ธเนศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบวันนี้ (2 ส.ค. 65) ทำให้เห็นสภาพชำรุดที่ยังคงค้างอยู่ จากคานที่ยังอยู่ด้านบนกับเหล็กที่ยังค้างอยู่ ซึ่งเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นว่าสภาพที่เห็นนั้นน่าจะเกิดจากอะไรได้บ้าง อีกทั้งยังเป็นการตรวจสอบเพื่อประเมินความปลอดภัยและความเสี่ยงว่ามีมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากพี่น้องประชาชนจะต้องสัญจรผ่านบริเวณพื้นที่ดังกล่าว

สำหรับการซ่อมสะพานแห่งนี้เป็นลักษณะของการที่มีพื้นวางอยู่บนคานหลักและยังมีคานซอยเป็นตัวยึด ซึ่งหากจะรื้อออกก็จะต้องเริ่มรื้อจากพาราเพ็ทหรือแผงกั้นขอบทางที่ใช้กันรถตกออกก่อน จากนั้นจึงรื้อพื้นและทำใหม่ แต่จากการวิเคราะห์สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สาเหตุที่อาจเป็นไปได้นั้น น่าจะมาจากการรื้อพื้นก่อน เลยทำให้ตัวคานยึดที่เคยถูกทับด้วยพื้นไว้นั้น อยู่ในสภาพอิสระ แต่คานตัวริมยังมีพาราเพ็ทยื่นออกไป จึงทำให้เกิดการบิดคาน เนื่องจากคานตัวยึดรองนั้นรับน้ำหนักไม่ไหวจึงร่วงลงมา ด้านอธิบดีกรมทางหลวงจึงได้มีคำสั่งให้ถอดคานทั้ง 4 ตัว ที่เหลือออกทั้งหมด เพื่อเปิดเส้นทางการสัญจรให้แก่พี่น้องประชาชนและไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดการร่วงลงมาอีก

ขณะที่สภาพการจราจรบนถนนพระราม 2 วันนี้ (2 ส.ค. 65) เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้มีการเปิดช่องทางพิเศษ (Reverse lane) สำหรับรถขาเข้ากรุงเทพฯ โดยใช้ช่องจราจรฝั่งขาออกกรุงเทพฯ 1 ช่องจราจร  ซึ่งได้เปิดให้แต่เฉพาะรถยนต์ไม่เกิน 4 ล้อ เบี่ยงออกขวาตรง กม.ที่ 36 วิ่งในช่องทางพิเศษ ก่อนเข้าสู่ช่องทางปกติช่วง กม.ที่ 32 หรือก่อนขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ส่วนรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ให้แยกไปฝั่งซ้ายออกช่องคู่ขนานตามปกติ ซึ่งทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น ทั้งนี้นายประลองยุทธ์ กสิวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร กล่าวว่า การเปิดช่องทางพิเศษนี้จะมีไปจนกว่าการจราจรฝั่งขาเข้าที่ติดขัดจะเบาบางลงและจะปิดตามเดิม โดยจะเลือกเปิดช่องทางพิเศษเฉพาะช่วงเวลาที่การจราจรหนาแน่นเท่านั้น ส่วนการยกคานเก่าที่เหลือออกตามคำสั่งของอธิบดีกรมทางหลวง เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน ในช่วงที่รอการก่อสร้างคานใหม่มาแทนนั้น จะเริ่มดำเนินการทันทีในวันนี้ (2 ส.ค. 65) หลังจากที่นำเครื่องจักรมาพร้อมในบริเวณดังกล่าวแล้ว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในคืนนี้ จากนั้นจึงจะเปิดช่องทางด่วนขาเข้ากรุงเทพฯ ให้ประชาชนใช้ได้ตามปกติ