“อนุทิน” เร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด จ.ระนอง ตั้งเป้าฉีดให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรทั้งจังหวัด ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจและประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปกติ  

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจเยี่ยมติดตามการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลระนองได้รับรายงานว่าสามารถฉีดได้เกือบครึ่งของจำนวนเป้าหมายแล้ว พร้อมให้กำลังใจทีมงานสาธารณสุขขอให้เพิ่มประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายโดยเร็วที่สุด คาดว่าภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้จะฉีดวัคซีนได้ครบ ซึ่งการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมรวดเร็วเป็นสิ่งที่ดี ประชาชนจะได้สัญจรไปมาได้อย่างปลอดภัย เพราะระนองเป็นจังหวัดท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวและคนเดินทางมาทำงาน ต้องทำให้จังหวัดนี้ปลอดภัย เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้และประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ 

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้กระจายวัคซีนไปทุกจังหวัดทุกสัปดาห์ จัดส่งทั้งแอสตร้าเซเนก้าและซิโนแวค เมื่อกรมควบคุมโรคได้รับวัคซีนแล้วจะใช้เวลา 2 – 3 วัน กระจายให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เช่น วันนี้ระนองได้วัคซีนเพิ่มอีก 20,000 โดส เนื่องจากเปลี่ยนแผนการฉีดวัคซีน ให้ฉีดชิโนแวคเข็มแรกและเข็มที่ 2เป็นแอสตร้าเซเนก้า ทำให้มีภูมิคุ้นกันโรคเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นชาวระนองจะมีภูมิเพิ่มมากขึ้นและสามารถป้องกันการติดเชื้อได้เพิ่มมากขึ้น หากครบ 2 เข็มแล้วติดเชื้อจะไม่มีอาการหนัก ลดอัตราการเสียชีวิต

“สถานการณ์วัคซีนประเทศไทยเป็นไปตามแผนที่กรมควบคุมโรคได้วางไว้ ความสามารถในการฉีดวัคซีนของประเทศไทยอยู่ที่เดือนละประมาณ 10 ล้านโดส เราเริ่มฉีดวัคซีน 7 มิถุนายน 2564 จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม คาดว่าจะฉีดได้ตามเป้าหมายที่กรมควบคุมโรคคาดการณ์ไว้ ตัววัคซีนจะเริ่มเข้ามาทุกอาทิตย์ บางเดือน 10 ล้านโดส บางเดือน 12 ล้านโดส  ”นายอนุทินกล่าว 

ทั้งนี้ จังหวัดระนองมีประชากรรวมแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด 220,000 คน เป้าหมายการฉีดวัคซีนร้อยละ 70 ของประชากรทั้งจังหวัด คือ 159,955 คน มีหน่วยให้บริการฉีดวัคซีนทั้งหมด 6 แห่ง ขณะนี้ มีประชาชนได้รับวัคซีนแล้ว 79,051 โดส คิดเป็นร้อยละ 49