เทศบาลประจวบฯ มติเลือก จ.ชุมพร เป็นสถานที่ทิ้งขยะเเห่งใหม่ เสียค่าใช้จ่ายตันละ 750 บาท สูงขึ้น 3 เท่า จากเดิมเสีย 250 บาท

 

กรณีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประสบปัญหาไม่มีที่ทิ้งขยะ  ไม่สามารถนำขยะไปบำบัดที่ อ.เขาย้อย  จ.เพชรบุรี  ได้   ทำให้ต้องหาที่พักขยะชั่วคราว  เพื่อนำขยะในตัวเมืองตามจุดทิ้งต่าง ๆ ไปยังบ่อพักที่ดินเช่าเอกชนขนาด 1 ไร่ ที่ดอนชุกกะรุม  พื้นที่ทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติคลองนางรม

นายกมล  แก้วเทศ  นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์  เปิดเผยว่า  ปัญหาที่เทศบาลประสบหลังจากจังหวัดเพชรบุรีห้ามรถขยะเข้ามาทิ้งในพื้นที่่  จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการหาที่พักชั่วคราว  เพื่อเก็บขยะในตัวเมืองทุกถนนทุกเส้นทางให้หมดเพื่อความสะอาดของบ้านเมือง  โดยนำไปทิ้งในที่ดินเอกชน  ดอนชุกกะรุม  เป็นพื้นที่ห่างไกลชุมชน  โดยการขอเช่าพื้นที่ 1 ไร่  ขุดบ่อลึก 1.5  เมตร  รองพื้นด้วยพลาสติกหนา  ล้อมรอบด้วยแสลน  โรยปูนขาวที่ขยะ และราดน้ำอีเอ็มเพื่อลดกลิ่น   และในช่วงที่มีฝนตกได้ให้รถดูดส้วมสูบน้ำที่พื้นพลาสติกนำไปทิ้งยังบ่อบำบัดน้ำเสีย

ทั้งนี้ หลังจากการประชุมสภาสมัยวิสามัญ สท. มีมติให้ฝ่ายบริหารทำกิจการนอกเขต  โดยนำขยะไปบำบัดใน จ.ชุมพร  ขณะนี้ได้ส่งเอกสารไปยังปลายทางแล้ว   รอผลตอบรับในการประชุมสภาคาดว่าเป็นสัปดาห์หน้า

สำหรับค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะมีราคาสูงขึ้นจากเดิม 3 เท่า  ตกตันละ  750  บาท ซึ่งทาง จ.ชุมพร เป็นผู้กำหนด  ขณะที่ก่อนหน้านี้  ที่บ่อบำบัด อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี  กำหนดค่ากำจัดขยะตันละ  250  บาท   ทำให้เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์มีค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะรวมค่าขนส่งแล้ว เดือนละ  1.5   ล้านบาท  ซึ่งมีระยะทางจากประจวบคีรีขันธ์ไปชุมพรประมาณ   180  กิโลเมตร  ขณะที่ปัจจุบันมีปริมาณขยะวันละ  20 - 25   ตัน  จากช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่วันละ  45  ตัน