สาธารณสุข จ.ขอนแก่น เผย คลัสเตอร์เรือนจำกลางขอนแก่นระบาดหนัก ยอดติดเชื้อพุ่งกว่า 929 คน เร่งปรับแผนควบคุมใหม่ ระดมรถเอกซเรย์ ตรวจปอดนักโทษทั้งหมดทันที

 

สาธารณสุขจ.ขอนแก่น เผย คลัสเตอร์เรือนจำกลางขอนแก่น โควิด-19 แพร่ระบาดหนัก พบนักโทษติดเชื้อสะสมกว่า 929 คน จากการตรวจ 1,620 คน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 3 พันคน สั่งปรับแผนใหม่ ระดมตรวจปอดนักโทษที่เหลือ หากพบมีฝ้าและติดเชื้อจ่ายยารักษาทันที พร้อมสั่งห้ามเคลื่อนย้ายนักโทษทั้งหมดทั้งชายและหญิง และปรับแผนในการควบคุมโรคใหม่ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน 

ประกอบด้วยส่วนที่ 1 ให้ทำการ บับเบิล แอนด์ ซีล ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้แก่เจ้าหน้าที่เรือนจำทั้งหมด 135 คน ที่จะต้องมีการสลับเวรยาม คือ อยู่เวร 7 วัน พัก 2 วัน และอยู่เวรต่ออีก 7 วัน เป็น 2 ผลัด หลังจากนั้นจะให้มีการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรของเรือนจำ และในส่วนของผู้ต้องขังที่ป่วย 929 คน โดยจะเน้น กลุ่มผู้สูงอายุ และ 7กลุ่มโรคเรื้อรังก่อน  

สำหรับผู้ต้องขังหญิงจากการคัดกรองพบว่าผลเป็นบวก 5 คน จะไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายใดๆ และจะใช้หอพักเรือนจำเป็นที่รักษา และนักโทษที่เหลือจะไม่มีการ Swab เพิ่ม แต่จะทำการเอกซเรย์ปอด หากเอกซเรย์แล้วปอดมีฝ้าจึงจะทำการ Swab ซ้ำ หากผลเป็นบวกจะทำการรักษาต่อไป แต่หากผลเป็นลบ จะแยกกักตัวเนื่องจากมีความเสี่ยง และวางแผนที่จะใช้หอเรือนนอนในการแยกกลุ่มเป็นที่พักรักษา 

ส่วนที่ 2 จะขอสนับสนุนยาต้านไวรัสเพิ่ม และการสนับสนุนรถเอกซเรย์ ในการช่วยตรวจ และเชื่อมต่อระบบบริการของโรงพยาบาลขอนแก่น ในเบื้องต้นจะใช้กรณีศึกษาของเรือนจำ ในการจัดทำเป็นโมเดล เพื่อให้เรือนจำสามารถ ดูแลผู้ป่วยในทุกระดับได้ ยกเว้นผู้ป่วยสีแดง เนื่องจากถ้าหากให้ผู้ต้องขังออกมาจะมีประเด็นเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ที่ต้องมีการกักตัว 

นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า คลัสเตอร์เรือนจำ ถือเป็นสิ่งที่ท้าทาย  โดยขณะนี้ยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่ามีการรับเชื้อมาจากไหน เพราะจากการวัดระดับค่าแล็บได้ค่าประมาณ 38 ซึ่งหมายความว่ามีการติดเชื้อมาเป็นเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ เมื่อมีการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าไม่ได้สัมผัสอะไร และจากผลการตรวจเชื้อจากผู้คุมผลเป็นลบทั้งหมด ในระบบของเรือนจำผู้ต้องขังรายใหม่นั้นได้มีการกักตัว 21 - 28 วัน ซึ่งอาจจะมีบางคนที่กักตัวครบแต่ไม่ได้ตรวจซ้ำ จึงได้เสนอทางออกว่าให้มีการ Swab ผู้ต้องขังรายใหม่ทุกคนก่อน