โฆษก ศบศ. เผย ประยุทธ์พอใจนำร่องเปิดประเทศ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์-สมุยพลัสโมเดล รุกต่อ พังงา กระบี่ เริ่ม 1 ส.ค.นี้ พร้อมหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดึงต่างชาติเข้าประเทศ

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ศบศ.ครั้งที่ 3/2564 ผ่านระบบ VDO Conference โดย พล.อ.ประยุทธ์ เน้นย้ำถึงความสำเร็จของโครงการ Phuket Sandbox พร้อมชื่มชมการทำงานร่วมกันของภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้ พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1–21 ก.ค.รวม 9,358 คน ขณะที่ยอดการจองห้องพักตามมาตรฐาน SHA+ สะสมระหว่างเดือน ก.ค.ถึง ก.ย. อยู่ที่ 244,703 คน คิดเป็นอัตราการเข้าพักร้อยละ 10.12 สร้างรายรับการท่องเที่ยว 534.31 ล้านบาท โดยที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ในการร่วมมือควบคุมการระบาดอย่างเคร่งครัด

นายธนกร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังเห็นชอบมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วม Phuket Sandbox เดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น (7+7) โดยนักท่องเที่ยวพำนักภายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเวลา 7 วัน และสามารถเดินทางท่องเที่ยวและต้องพำนักในพื้นที่อื่น ๆ อีกเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า) จังหวัดกระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล) และจังหวัดพังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) เริ่มดำเนินการวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานเอกชนและภาคประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจของคนในพื้นที่ร่วมกัน และพิจารณาจัดเตรียมแผนการดำเนินการบนระเบียบหลักเกณฑ์และมาตรฐานเดียวกับการดำเนินการของ Phuket Sandbox เพื่อมุ่งเน้นความปลอดภัยและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่

"นายกฯ ยังมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำรายละเอียดแผนการเชื่อมโยงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางระหว่างจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่นำร่องอื่น เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม ศบค.พิจารณา และให้พิจารณาจัดทำแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม ศบศ.พิจารณาต่อไป" นายธนกร กล่าว

โฆษก ศบค.เผยอีกว่า ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ตามข้อเสนอของทีมปฏิบัติการเชิงรุกทาบทาม ทั้งบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศ โดยการปรับข้อจำกัดต่าง ๆ และอำนวยความสะดวก เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว ประกอบด้วย

  1. กลุ่มประชากรโลกที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy global citizen)
  2. ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy pensioner)
  3. กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand professional)
  4. กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (High-skilled professional)

โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาข้อเสนอในรายละเอียดต่อไป