ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ต.เกาะหลัก จ.ประจวบฯ ปลอมตัวเป็นคนเลี้ยงวัว ซุ่มจับเมียนมาลอบข้ามแดน ตั้งใจไปทำงานโรงงานชำแหละไก่ จ.สมุทรปราการ

 


นายประจักษ์ สนสนิท ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ชรบ. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ร่วมกันซุ่มจับกุมชาวเมียนมาลักลอบข้ามแดน โดยนายประจักษ์ กล่าวว่า ก่อนจับกุมได้ปลอมเป็นคนเลี้ยงวัว ใกล้ช่องทางธรรมชาติ ต่อมาพบชาวเมียนมาเดินลงมาจากภูเขา จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ ชรบ. แสดงตัวจับกุมได้ทั้งหมด 11 คน ส่วนคนนำทางวิ่งหลบหนีกลับไปฝั่งเมียนมา ตนเองพยายามจับกุมเมื่อจวนตัว แต่คนนำพาได้ใช้มีดง้าวที่พกติดตัวออกมาข่มขู่ หากจับกุมจะใช้มีดฟัน จึงใช้อาวุธปืนยิงขู่กระทั่งยอมมอบตัว

ด้าน พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากนั้นร่วมสอบปากคำชาวพม่าลักลอบหนีเข้าเมือง 11 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 2 คน อายุระหว่าง 20-40 ปี พร้อมคนนำทางชายอายุ 56 ปี ที่บริเวณจุดตรวจบ้านมะขามโพรง หมู่ 9 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่องทางธรรมชาติหุบตาหลี เส้นทางไปด่านสิงขร

สอบสวนทราบว่า ชาวเมียนมา 11 คน เดินทางมาจากเมาะลำไย โดยจ่ายค่านายหน้าหัวละ 10,000 บาท จากนั้นพักรอที่บ้านพักใกล้หอนาฬิกา หมู่บ้านมูด่อง ตรงข้ามด่านสิงขร มีนายมะระยี อายุ 28 ปี เป็นผู้ดูแล เมื่อได้รับใบสั่งจากนายทุนฝั่งไทย จึงให้คนนำทางพาเดินข้ามสันแดนเข้าไทย มีค่าใช้จ่ายหัวละ 500 บาท จากนั้นโทรศัพท์ติดต่อให้นายหน้าฝั่งไทยนำรถมารับ เพื่อเดินทางไปโรงงานชำแหละไก่ที่ จ.สมุทรปราการ แต่จากการตั้งด่านตรวจเข้มงวด ทำให้คนขับรถไม่สามารถเดินทางไปรับชาวเมียนมาที่จุดนัดหมายได้

นายแวมิ อายุ 56 ปี ชาวเมียนมา คนนำทางสารภาพว่า รับจ้างจากนายหน้าชาวเมียนมาที่หมู่บ้านมูด่อง ให้มาส่งแรงงานเถื่อนตามที่นัดหมาย ทำมาแล้ว 5 ครั้ง เคยถูกจับ 3 ครั้ง และก่อนจะนำแรงงานเถื่อนเข้าไทย ต้องมีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่เมียนมาอีกหัวละ 500 บาท