ตำรวจภูธรสืบภาค 4 เข้าตรวจค้นบ้านลุงพล ในฐานะผู้ต้องหา พร้อมยึดโทรศัพท์ 2 เครื่อง เตรียมสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการสัปดาห์หน้า ด้านลุงพลยืนยันความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้ความร่วมมือ อยากให้เรื่องนี้จบ

 

วันนี้ (20 ก.ย. 2564) ตำรวจภูธรสืบภาค 4 นำโดย พลตำรวจตรี ณัฐนนท์ ประชุม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้นำกำลังตำรวจ พร้อมหมายศาล เข้าตรวจค้นบ้านลุงพลครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ศาล จ.มุกดาหาร ได้ออกหมายจับลุงพล ทั้งหมด 3 ข้อหา คือ พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย, กระทำการใด ๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ต่อมาวันที่ 2 มิ.ย.2564 ตำรวจได้ทำการเข้าจับกุมที่บ้าน ปรากฏว่าลุงพลไม่อยู่บ้าน ทำให้ตำรวจไม่สามารถเข้าตรวจค้นได้ จึงเข้าตรวจอีกครั้งในเช้าวันนี้ พร้อมยึดโทรศัพท์เครื่องเก่าที่มีการใช้ตั้งแต่วันที่น้องชมพู่หายตัวไป และอีกเครื่องซึ่งเป็นเบอร์ใหม่

ด้านลุงพล ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้ความร่วมมือ อยากให้เรื่องนี้จับสักที ตลอดระยะเวลาปีกว่าที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งที่ไม่ได้ทำ ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ยอมรับว่าตอนนี้ตัวเองตกอยู่ในสถานะของผู้ต้องหา ซึ่งต้องรายงานตัวอยู่ตลอดเวลา ก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจที่มาทำไมไม่มีตำรวจในพื้นที่เลย ซึ่งจริง ๆ ควรจะมีตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบมาร่วมตรวจด้วยหรือไม่
ลุงพลย้ำอีกว่า ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลอะไร ไม่ได้คิดอะไร คิดอย่างเดียวอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เพราะตัวเองก็เจอเรื่องแบบนี้มาเป็นปีกว่าแล้ว ก็อยากให้มันจบสักที จะได้ทำมาหากินบ้าง เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระกับตัวเองมาก เพราะเรื่องไม่ได้เกิดที่ตัวเองแต่กลายเป็นว่าต้องมารับทุกอย่าง พร้อมทิ้งท้ายว่า ถ้าหากตำรวจมีการสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการก็พร้อมที่จะดำเนินการตามขั้นตอน แต่ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าตำรวจจะมีการสรุปสำนวนในลักษณะไหน ซึ่งตัวเองก็จะต้องหาข้อมูลไปหักล้างต่อไป