ศบค. ชี้ประชาชนจำเป็นเดินทางข้ามจังหวัดต้องกรอกแบบพร้อมผ่านเว็บไซต์ "หยุดเชื้อเพื่อชาติ" แจงยังไม่ห้าม ปชช.ออกจากบ้านนอกเวลาเคอร์ฟิว ใช้คำว่า "ให้" เป็นการขอความร่วมมือ เผยสื่อมวลชนทำงานนอกสถานที่ได้ แต่ต้องยึดมาตรการ DMHTT

 

พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. ระบุถึงกรณีผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดแล้วจำเป็นต้องเดินทางเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อฉีดวัคซีน ว่า โดยปกติแล้วการฉีดวัคซีน จะฉีดในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เว้นแต่ได้รับนัดให้มาฉีดวัคซีน หากมีใบนัดหรือหลักฐาน ก็ขอให้แสดงหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งถือเป็นข้อยกเว้นตามข้อกำหนด โดยกรณีการเดินทาง ขณะนี้ ศบค.มีความห่วงใยไม่อยากให้ประชาชนจากพื้นที่ที่มีความเข้มต่ำกว่า เดินทางเข้ามายังพื้นที่ที่มีความเข้มข้นสูงกว่า เนื่องจากจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ส่วนหลักฐานในการเดินทางจะมีข้อกำหนดอยู่ 2 กรณี คือ หากมีหลักฐานเป็นเอกสารก็สามารถยื่นแสดงได้ แต่หากไม่มีเอกสารแสดงขอให้เข้าไปในเว็บไซต์ "หยุดเชื้อเพื่อชาติ" ซึ่งจะเปิดดำเนินการในช่วงเย็นของวันนี้ โดยอยู่ระหว่างการปรับปรุงทดสอบเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ พร้อมกับย้ำว่าหากประชาชนมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางขอให้เข้าไปดูที่เว็บไซต์ "หยุดเชื้อเพื่อชาติ" เพื่อกรอกแบบฟอร์ม รับคิวอาร์โค้ดแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ และจะต้องตอบข้อซักถามจากเจ้าหน้าที่ด่านเพิ่มเติม ซึ่งอาจไม่สะดวก แต่จะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ เนื่องจากมีมาตรการคัดกรองเพื่อจำกัดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัด

ส่วนมาตรการที่ออกมา นอกเวลาเคอร์ฟิว (04.01- 20.59 น.) เป็นในลักษณะของความร่วมมือหรือเป็นคำสั่งห้าม พลเอกณัฐพล อธิบายว่า ช่วงเวลาเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 21:00 น. ถึง 04:00 น. ของวันรุ่งขึ้นเป็นการบังคับสั่งห้าม ส่วนช่วงนอกเวลาเคอร์ฟิวยังจำเป็นต้องเว้นในบางกิจการหรือกิจกรรม ฉะนั้นในช่วงนี้จำเป็นต้องใช้คำว่า "ให้" ไปก่อน โดยขอให้งดหรือหลีกเลี่ยง หากมาตรการนี้ต้องเข้มข้นต่อไปคงจำเป็นต้องใช้คำว่า"ห้าม" และเมื่อใช้คำว่า"ห้าม" จะมีบางกิจกรรมหรือกิจการที่ได้รับการยกเว้นน้อยกว่านี้มาก

ขณะที่ข้อกำหนดการเปิดสถานพยาบาล รวมถึงโรงพยาบาลสัตว์ด้วยหรือไม่ พลเอกณัฐพล ระบุว่า รวมด้วย เนื่องจากเป็นในแง่มนุษยธรรม ถือว่าเป็นกิจการด้านสาธารณสุข ซึ่งในปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่มีสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในความดูแล และคนมีความผูกพันกับสัตว์เมื่อสัตว์ป่วยไม่สบาย ก็ถือว่ามีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล

ทั้งนี้ พลเอกณัฐพล ยังระบุอีกว่า มาตรการที่มีการบังคับใช้ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 นี้ ในพื้นที่สีแดงเข้ม การขอความร่วมมือภาคเอกชนในการทำงานที่บ้านหรือ work from home นั้นเป็นการออกมาตรการขอความร่วมมือกับภาคเอกชน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดทางนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.ได้ชี้แจงไปในช่วงกลางวันที่ผ่านมา (12.30น.)

ขณะที่การประเมินสถานการณ์ และการปรับแผนรองรับ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดนั้นไม่ลดลง พลเอกณัฐพล ระบุว่า ศบค. และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดได้เตรียมการทุกสถานการณ์ไว้แล้ว หากเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะทำอย่างไร หรือหากสถานการณ์ไม่ดีไปกว่านี้จะทำอย่างไร และสำหรับโมเดลอู่ฮั่นนั้น เป็นข้อพิจารณาจากกระทรวงสาธารณสุข โดยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้มีการพูดถึง และเมื่อถึงเวลานั้นแล้วคงต้องฟังกระทรวงสาธารณสุขว่า จะมีการประเมินอย่างไร จำเป็นต้องใช้อู่ฮั่นโมเดลหรือไม่

ส่วนจะมีการฟูลล็อกดาวน์หรือไม่ พลเอกณัฐพล ระบุว่า ไม่ได้มองที่ตัวเลขใดตัวเลขหนึ่ง แต่ต้องมองหลายปัจจัย ทั้งจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อ จำนวนสถานพยาบาลที่มีอยู่ และปัจจัยอื่น ๆ ในแง่เศรษฐกิจด้วย ซึ่งต้องมองในทุกมิติ ไม่ใช่มองด้านใดด้านหนึ่ง

ขณะที่ การทำงานของสื่อมวลชน พลเอกณัฐพล ระบุว่า ถือว่ามีความจำเป็น ก็ยังคงสามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ได้ แต่เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับประชาชน ขอให้สื่อมวลชนได้ยึดมาตรการป้องกันโรค ตามมาตรการ DMHTT เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค ส่วนการทำหน้าที่ของอาสาสมัครต่าง ๆ ถือเป็นการทำงานบริการด้านสาธารณสุข ซึ่งได้รับข้อยกเว้นตามข้อกำหนด สามารถทำงานได้