ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การชุมนุมล่าสุด หลังการเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อย้ำถึง 3 ข้อเรียกร้อง คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข, ปรับลดงบสถาบัน และกองทัพ เพื่อนำมาช่วยเหลือในสถานการณ์โควิด และเรียกร้องให้เปลี่ยนวัคซีนโควิดเป็นชนิด mRNA

เมื่อเวลา 16.30 น.มวลชนเคลื่อนขบวนถึง ถนนพิษณุโลก หน้ามหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร หลังเปลี่ยนเส้นทางมาตามถนนนครสวรรค์ แล้วเลี้ยวซ้ายแยกนางเลิ้ง เพื่อไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่ตำรวจปิดกั้นเส้นทางแยกพาณิชยการ พร้อมเตรียมรถน้ำแรงดันสูงพักคอยไว้ 2 คัน

เวลา 16.45 น. ตำรวจเริ่มฉีดน้ำบริเวณแยกพาณิชยการ สลับกับการใช้น้ำผสมแก๊สน้ำตา

เวลา 16.49 น. ขบวนรถ 6 ล้อของกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าประชิดแนวที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศ พร้อมยกตัวพ่วงท้ายของรถขึ้นเป็นแนวกั้นน้ำ หลังเจ้าหน้าที่ยังคงฉีดน้ำใส่ฝั่งผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง

เวลา 17.02 น. ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม เพื่อสลายการชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมถอยร่นมาตั้งหลักที่สี่แยกนางเลิ้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสูดดมแก๊สน้ำตาหลายคน มวลชนช่วยกันปฐมพยาบาลในเบื้องต้น

เวลา 17.16 น. บริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศ มีการจุดไฟเกิดขึ้นบริเวณกลุ่มผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ใช้รถน้ำฉีดดับเพลิงไว้ได้ ทำผู้ชุมนุมแตกกระเจิงออกไป ระหว่างนั้นมีการขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ และมีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง

เวลา 17.20 น. ผู้ชุมนุมพยายามนำรถบรรทุกเข้าไปในพื้นที่ ตำรวจใช้เครื่องยิงแก๊สน้ำตา เพื่อหยุดมวลชนจนมีการถอยร่นไปอีกครั้ง

เวลา 17.30 น.แกนนำผู้ชุมนุมประกาศให้มวลชนนำรถออกไปบริเวณแยกยมราช เพื่อตั้งขบวนกันอีกครั้ง และสั่งให้มวลชนถอยไปตั้งหลักในพื้นที่บริเวณปั๊มน้ำมันถนนหลานหลวง