ตำรวจยัน ยังไม่ออกหมายจับ "แม่น้ำหนึ่ง" ชี้คดีพญานาค ท้องถิ่นเป็นผู้เสียหาย ส่วนคดีพนันยังอยู่ระหว่างการสืบสวน

 

พ.ต.อ.ภูไท เชาว์สูงเนิน ผกก.สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดเผยกับ ทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 ถึงความคืบหน้า กรณีเมื่อวันที่ 13 ก.ค.2564 นาง นาฎยาน์ แสนประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด ให้สอบสวนประสานผู้ที่ก่อสร้างพญานาคจำนวนสองตัว โดยไม่ได้ขออนุญาต บริเวณพื้นที่ หมู่ที่ 14 ต.กุดพิมาน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับหมู่ที่ 10 ต.หนองบัวตะเกียด ก่อสร้างโดย บริษัท เครื่องรางความรวย 88 จำกัด มีนางภิรดา ธนโชติจินดา หรือแม่นำหนึ่ง เป็นเจ้าของ

โดย พ.ต.อ.ภูไท ระบุว่า กรณีของแม่น้ำหนึ่งต้องแยกออกเป็น 2 คดี คือ

- คดีก่อสร้างพญานาคโดยไม่ได้รับอนุญาต ท้องถิ่นถือเป็นผู้เสียหายจึงเข้ามาแจ้งความ ให้ประสานไปยังแม่น้ำหนึ่ง เนื่องจากก่อสร้างโดยไม่ถูกต้อง เอกสารการขออนุญาตก่อสร้างยังขาดในส่วนของวิศวกร ซึ่งหน่วยงานท้องถิ่นได้ให้เวลาชี้แจงและส่งเอกสารให้ถูกต้องภายใน 30 วันตามระเบียบ หากเลยจากนั้นแล้วยังไม่ดำเนินการ เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะต้องมาให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม จึงจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย

- คดีชักชวนเล่นพนัน หลังพบว่าแม่น้ำหนึ่ง อาจมีส่วนพัวพันกับการชักชวนให้เล่นพนันหวย มีการขายเครื่องรางของขลัง หรือขายตั๋วเพื่อให้ประชาชนเข้ากลุ่มลับ เพื่อใบ้หวยหรือชักชวนเล่นการพนัน ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างปรึกษาเรื่องข้อกฎหมายกับพนักงานอัยการสำนักงานอัยการจังหวัดสีคิ้ว พร้อมกับยืนยันว่า ยังไม่มีการออกหมายจับนางภิรดา ธนโชติจินดา หรือแม่นำหนึ่งแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม น.ส.ภิรดา ยังอยู่ระหว่าง การคุมประพฤติกับสำนักงานคุมประพฤติมีนบุรี หลังศาลอาญามีนบุรี มีคำสั่งในคดี ชักชวนให้ทายผลและเล่นพนันสลากออนไลน์ จึงพิพากษาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนันฯ เห็นควรลงโทษสูงสุดตามกฎหมาย ให้จำคุก 3 ปี และปรับ 5,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 2,500 บาท แต่ศาลให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดี จึงรอการลงโทษไว้ 2 ปี และคุมความประพฤติ 1 ปี ห้ามไม่ให้แม่น้ำหนึ่งประกาศ โฆษณา ชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันทายผลสลากกินรวบ หรือกระทำการอื่นใดที่มีลักษณะเช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติมีนบุรี ตรวจพบการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนคำสั่งของศาล จึงรายงานไปยังอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญามีนบุรี ศาลจึงมีคำสั่งออกหมายเรียกแม่น้ำหนึ่ง มาไต่สวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งศาลหรือไม่ ในวันที่ 29 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.