ตร.บุกทลายแก๊งปล่อยกู้นอกระบบผ่านแอปฯ นายทุนจีน คิดดอกเบี้ยสุดโหด จ่ายดอกไม่ทันเหยื่อโดนประจาน

 

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร. (สบ 8) ช่วยราชการ บช.น.พร้อม พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร่วมกับ พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผู้กำกับ กองกำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวนฯ และตำรวจกองปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำกำลังพร้อมหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นบริษัทเอ๊กซ์เพียว จำกัด ในอาคารริเวอร์วิว เพลส พระราม 3 ซอย 46 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบเปิดใช้เป็นสำนักของเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ แอปพลิเคชัน แมงโก้โลน (mango loan) และ โคโค่โลน (coco loan)

 

 

ที่เกิดเหตุเป็นห้อง 4 ห้องติดกัน ภายในดัดแปลงเป็นสำนักงาน มีกลุ่มพนักงานเป็นชาย 4 คน และหญิง 2 คน กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงกลุ่มพนักงานดังกล่าวพยายามวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามจับกุม ก่อนเข้าตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่กระจายอยู่ตามห้องต่าง ๆ ได้ 30 เครื่อง พร้อมกับเอกสารบัญชีรายชื่อลูกค้าที่กู้ยืมเงิน โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง และซิมโทรศัพท์อีกจำนวนมาก

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า การตรวจค้นจับกุมครั้งนี้ ตำรวจได้รับร้องเรียนว่ามีแก๊งเงินกู้ออนไลน์แอปพลิเคชันดังกล่าว เข้ามาเช่าอาคารพาณิชย์ลักลอบเปิดใช้เป็นสำนักงาน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสกว่า 2-3 เดือน กระทั่งแน่ชัดว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายค้น เข้าตรวจค้นจับกุมผู้กระทำผิดดังกล่าว

สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการนี้ จะเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมาเป็นช่องทางในการติดต่อกับลูกค้าให้เข้ามาติดต่อกู้เงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่มีความเดือดร้อนทางการเงิน โดยกู้ 1,700 บาท ต้องผ่อน7 วัน ดอกเบี้ย 2,910 บาท ส่งวันละ 415 บาท เฉลี่ยดอกเบี้ยตกวันละ 10% ต่อเดือน เป็นการเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงมีการติดตามทวงหนี้ในลักษณะก่อกวนและข่มขู่ หากใครไม่ชำระหนี้ครบตามเวลาก็จะส่งข้อความไปให้กับบุคคลใกล้ชิด เพื่อประจานให้เกิดความอับอาย เนื่องจากแอปฯ นี้ ฝังโปรแกรมที่ดูดข้อมูลสำคัญในโทรศัพท์

จากแนวทางสืบสวนพบว่า ขบวนการนี้มีนายทุนเป็นชาวจีน ทำมานานกว่า 1 ปี ที่ผ่านมา มีการย้ายสถานที่สำนักงานมาแล้วหลายแห่ง เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ก่อนจะย้ายมาตั้งออฟฟิศที่พระราม 3 นานกว่า 2 เดือน โดยพนักงานส่วนใหญ่ที่จับกุมได้ในวันนี้ จะเป็นพนักงานที่ทำหน้าที่โทรติดตาม เร่งรัดหนี้สินจากลูกค้า

จากการสอบสวน นายทศพร ยงเกียรติกานต์ อายุ 38 ปี ผู้จัดการบริษัท ให้การว่า ตัวเองมีหน้าที่ควบคุมดูแลพนักงานทั้งหมดให้ทวงหนี้ โดยเฉลี่ยต่อคนจะทวงหนี้ลูกค้า 40-50 คนต่อวัน

เบื้องต้นกลุ่มพนักงานที่ถูกจับกุมในวันนี้จะถูกดำเนินคดีในความผิดเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และความผิดประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน ปี 2551 ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดได้นั้น หลังจากนี้จะประสาน บก.ปอศ.เข้าตรวจสอบข้อมูล เพื่อขยายผลเอาผิดกลุ่มนายทุนและผู้ร่วมขบวนการคนอื่น ๆ ต่อไป