นายพิจารณ์​ เชาวพัฒนวงศ์​ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล​ กล่าวถึง​ท่าทีและจุดยืนของพรรคก้าวไกลต่อการพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน​บาท ที่มีการบรรจุวาระเข้าที่ประชุมสภาในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ ว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลเห็นว่าการจัดการเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทมีความล้มเหลวมาก ทั้งการจัดการด้านสาธารณสุข และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยสะท้อนจากภาพรวมเศรษฐกิจการและการท่องเที่ยวที่ไม่ฟื้นตัว การอนุมัติเงินกู้รอบนี้จึงเป็นเพียงการต่อลมหายใจให้รัฐบาล หากปล่อยรัฐบาลนี้ยังบริหารต่อไป เชื่อว่าในปีต่อไปจะมีการขอกู้เงินอีก ซึ่งจะเป็นภาระให้ประชาชนต่อไปเรื่อยๆ พรรคก้าวไกลจึงมีมติไม่เห็นชอบให้รัฐบาลกู้อีก 5 แสนล้านบาท โดยในการอภิปรายครั้งนี้ได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ทั้งหมด  11 คน ในกรอบเวลา 125 นาที เปิดโดยณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และปิดท้ายด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

 

ส่วนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นายพิจารณ์เปิดเผยว่าตนผิดหวังกับการลงมติของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เพราะเนื้อหาการอภิปรายไม่เห็นด้วยกับการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งผลที่ออกมาไม่ได้เหนือความคาดหมาย

 

ทั้งนี้ การพิจารณาในชั้นของกรรมาธิการ วิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ65 พรรคก้าวไกล มีกมธ.รวม 6 คนและยังมีส.ส. สมาชิกพรรคที่ร่วมทำงานอย่างแข็งขันเพื่อปกป้องสิทธิ สวัสดิการของประชาชนที่ถูกตัดออกไป เบื้องต้นจะตัดงบประมาณเป็นรายโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ เพื่อนำไปจัดสรรให้กับสวัสดิการประชาชน โดยจะให้ความสำคัญถึงพิจารณางบประมาณฯที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน  ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง รวมถึงประสิทธิภาพ ประสิทธิผลการใช้งบประมาณ เพื่อรีดไขมันออก นอกจากนั้นการทำงานที่ผ่านมางบที่จัดสรร บรรลุเป้าหมายหรือไม่ รวมถึงราคาการจัดซื้อจัดจ้างที่สูงเกินกว่าตลาด นอกจากนั้นความสามารถในงานเบิกจ่ายงบประมาณ ที่พบว่าแม้ได้งบประมาณ แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เช่น การจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ เพื่อบรรเทาสาธารณะภัยที่วางเงินดาวน์แล้วแต่ยังไม่สามารถจัดซื้อได้เพราะมีปัญหาเรื่องสเปค เป็นต้น