รอง หน.เพื่อไทย เผยพบงบราชการลับหลักพันล้านบาท กองทัพ-หน่วยมั่นคง อู้ฟู้ จวกเงินขนาดนี้ยังมีต่างด้าวหลุดเข้ามาแพร่โควิด-19 จ่อสอบงบอาวุธกองทัพ หลังมียอดพุ่งทยาน 4.5 ล้านบาทในรอบ 2 ปี

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร  รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแถลงถึงการติดตามการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 ในชั้นกรรมาธิการ โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ในฐานะเป็นรองประธานกมธ.ฯ ได้แบ่งงานการทำงานและมอบหมายให้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ดูแลด้านศึกษา นายไชยา พรหมา ดูด้านเศรษฐกิจ และมอบตนให้ดูด้านความมั่นคง ซึ่งตนเข้าไปดูงบประมาณราชการลับ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่าหลายหน่วยงานมีงบราชการลับโดยไม่มีรายละเอียด โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม กับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเป็นงบลับของกลาโหม 470 ล้านบาท แยกเป็นของกองทัพบก 290 ล้านบาท,กองทัพเรือ 62 ล้านบาท,กองทัพอากาศ 30 ล้านบาท,สำนักงานปลัดกระทรวง 32 ล้านบาท และกองบัญชาการกองทัพไทย 55 ล้านบาท  ซึ่งเป็นที่สังเกตว่า มีงบราชการลับ 558 ล้านบาท อยู่ที่สํานักปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 60 ล้านบาท ตนสงสัยว่ามีความจำเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังมีงบลับในสำนักข่าวกรองแห่งชาติ 232 ล้านบาท สภาความมั่นคงแห่งชาติ 50 ล้านบาท กระทรวงต่างประเทศ 8 ล้านบาท ศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ล้านบาท รวมถึงยังมีงบราชการลับในกรมจัดหางานอีก 5 ล้านบาท แต่กลับปล่อยให้มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาสร้างคลัสเตอร์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 แสดงว่า การจัดสรรงบประมาณไม่สัมพันธ์กับสถานการณ์และเกิดประโยชน์สูงสุด กับประเทศชาติและประชาชน จึงต้องเข้าไปตรวจสอบ

 

นายยุทธพงษ์ กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทย ยังจะเข้าไปตรวจสอบงบประมาณการจัดซื้ออาวุธต่าง ๆ ของกองทัพ เพราะวันนี้การจัดเก็บภาษีไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย แต่ยังคงมีโครงการจัดซื้ออาวุธ เท่ากับว่าเรากู้เงินมาซื้ออาวุธหรือไม่ จะเห็นได้ว่า กองทัพบก มีโครงการจัดหายานเกราะล้อยางปี 2563- 2565 จำนวน 4,515 ล้านบาท กองทัพเรือมีโครงการซื้อเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ โครงการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์โจมตีระยะไกล ซึ่งเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน เนื่องจากเพื่อนบ้านไม่ได้มีภาวะสงครามอะไร และทั้งหมดเป็นยุทโธปกรณ์ที่ซื้อจากจากต่างประเทศทั้งนั้น หากซื้อก็ยังเดินทางไปฝึกไม่ได้ เพราะเดินทางไปต่างประเทศไม่ได้ และยังมีความคืบหน้าจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่หลังจากอภิปรายและร้องไปยัง ป.ป.ช.แล้ว ปรากฏว่า ป.ป.ช.ชุดใหญ่รับเรื่องและแจ้งกลับมายังพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้ร้องให้เข้าไปชี้แจงในสัปดาห์หน้า