"อนุทิน" ย้ำ วอล์กอินฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ดีเดย์ 1 มิถุนายนนี้ ยืนยันจังหวัดบุรีรัมย์ ลำปาง เชียงใหม่ พัทลุง ไม่มีสิทธิพิเศษรับวัคซีนก่อนจังหวัดอื่น เผยโรงพยาบาลบุษราคัมเมืองทองธานีมีหมอพยาบาลดูแลผู้ป่วยเต็มที่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า โรงพยาบาลบุษราคัม ไม่ใช่โรงพยาบาลสนาม แต่รองรับผู้ป่วยโควิดสีเหลืองที่มีอาการค่อนข้างหนักขึ้น โดยมีจำนวน 1,092 เตียง พร้อมเปิดผู้ป่วย เมื่อวันนี้พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมวกลาโหมเปิดอย่างเป็นทางการเปิดรับผู้ป่วยได้ทันที

โดยโรงพยาบาลบุษราคัม มีโรงพยาบาลเจ้าภาพคือโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าจังหวัดนนทบุรีรวมถึงการใช้เครือข่ายโรงพยาบาลสนับสนุน ซึ่งจะรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาล หลายๆแห่งทั้งโรงพยาบาลสนาม Hospitel ที่จะทำการส่งตัวมารักษา ยืนยันว่าโรงพยาบาลบุษราคัมมีอุปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์ มีเพียงพอรองรับการรักษาผู้ป่วย ซึ่งบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ

นายอนุทิน กล่าวว่า เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับประชาชนที่ถูกต้องตรงกัน ขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักโดยกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข จะประชาสัมพันธ์เน้นย้ำเรื่องการวอล์กอิน ของประชาชนเข้ามาติดต่อเพื่อรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดด้วยตัวเอง ว่าจะเป็นการเริ่มดีเดย์ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยต้องบริหารจัดการวัคซีน จัดให้กับกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆบริหารจัดการในพื้นที่เอง โดยให้บริหารจัดการให้มีเผื่อการวอล์กอินของประชาชนไว้ด้วย

สำหรับที่จังหวัดบุรีรัมย์มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าได้รับวัคซีนเป็นสิทธิพิเศษ นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่เกี่ยว ไม่ว่าจังหวัดใดจะบุรีรัมย์หรือลำปาง เชียงใหม่ พัทลุง ให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละจังหวัดทำเรื่องร้องขอตามจำนวนที่ต้องการ เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขจัดจำนวนให้ จัดไปตามกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มต่างๆ ถ้าบริหาร แค่กระทรวงสาธารณสุขโดยลำพังไม่มีปัญญาที่จะทำได้ครบทั้งหมดทั่วประเทศแต่สาธารณสุขมีหน้าที่กระจายวัคซีนให้เพียงพอและทั่วถึงในแต่ละจังหวัด