นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้า "โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง" เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ และเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าของการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land bridge)

และยังได้มอบหมายให้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำเนินการการคัดเลือกแนวเส้นทาง โดยคำนึงถึงการลดระยะวลาในการขนส่งจากท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งจะต้องสั้นและตรงที่สุด รวมถึงพิจารณาเรื่องการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในพื้นที่บริเวณโดยรอบโครงการ เพื่อให้เกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ และเกิดการกระจายการพัฒนาไปสู่ท้องถิ่น และการเปรียบเทียบโครงการในทุกมิติเพื่อให้เห็นถึงประโยชน์ของโครงการต่อการพัฒนาประเทศชาติ รวมทั้งให้พิจารณาประเด็นการสร้างพันธมิตรที่เหมาะสมสำหรับการร่วมพัฒนาโครงการ โดยให้ครอบคลุมทั้งภายในประเทศ ประเทศในภูมิภาค และจากประเทศต่างๆ ในเวทีโลก

ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการกำหนดกลยุทธ์ในการศึกษาแนวทางการพัฒนาของโครงการออกเป็น 4 ด้าน ประกอบด้วย

1. ด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม โดยออกแบบท่าเรือให้มีความลึก 16 เมตร ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน แนวเส้นทางสามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายทางรถไฟ และทางหลวงสายหลักได้ สามารถรองรับทั้งการขนส่งสินค้าและการขนส่งผู้โดยสาร พร้อมทั้งรองรับระบบขนส่งทางท่อ
2. ด้านการพัฒนาพื้นที่หลังท่า จัดตั้งพื้นที่หลังท่าเป็นพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมหลังท่าตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย
3. ด้านการส่งเสริมการขนส่ง ให้ศึกษาปรับปรุงกฎระเบียบ เพื่อลดขั้นตอน และเอกสาร ในการขนส่งสินค้า ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ให้สิทธิพิเศษทางภาษี เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เปลี่ยนมาใช้เส้นทาง
4. ด้านสิ่งแวดล้อมและการยอมรับของมวลชน ให้ออกแบบโครงสร้างพื้นฐานให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน ให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และต้องเกิดประโยชน์กับท้องถิ่น เช่น กำหนดโควตาการรับสมัครเข้าทำงานในโครงการให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณโดยรอบพื้นที่ จัดทำและดำเนินโครงการ/แผนงานความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อให้โครงการสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน

 

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การศึกษานี้ได้กำหนดหลักเกณฑ์คัดเลือกทำเลที่ตั้งท่าเรือตามแนวทางที่เป็นสากล ตามแนวทางของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา Port Planning Handbook (UNCTAD,1984) และ สมาคมโลกเพื่อการขนส่งทางน้ำ PIANC Outline master planning process for greenfield ports (PIANC 185) โดยมีปัจจัยและสัดส่วนที่ใช้พิจารณา 4 ด้าน ได้แก่ ปัจจัยด้านวิศวกรรม ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการเงิน และปัจจัยด้านสังคม โดยยึดแนวทางการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่ผสานกับเทคโนโลยี และความได้เปรียบทางกายภาพ รวมทั้งการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ช่วยสร้างโอกาส สร้างงานและรายได้เพิ่มขึ้น
  
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รับข้อสังเกตและประเด็นเพิ่มเติม ให้คัดเลือกแนวเส้นทางโดยคำนึงถึงการลดระยะวลาในการขนส่งจากท่าเรือทั้ง 2 ฝั่ง คือ ท่าเรือชุมพระ และท่าเรือระนอง จะต้องสั้นและตรงที่สุด พิจารณาการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในพื้นที่บริเวณโดยรอบโครงการ เพื่อพัฒนาเชิงพื้นที่ กระจายการพัฒนาไปสู่ท้องถิ่น และเปรียบเทียบโครงการในทุกมิติ เพื่อให้เห็นถึงประโยชน์โครงการต่อการพัฒนาประเทศชาติ รวมทั้งให้พิจารณาประเด็นการสร้างพันธมิตรที่เหมาะสมสำหรับการร่วมพัฒนาโครงการ โดยให้ครอบคลุมทั้งภายในประเทศ ประเทศในภูมิภาค และจากประเทศต่างๆ ในเวทีโลก