โควิดรอบใหม่ ทำให้หลายคนกังวลเรื่องเม็ดเงินที่จะขยายเข้าสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดย กระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่าคลังยังคงเหลืองบประมาณในการดูแลสถานการณ์โควิดอีกประมาณ 3.8 แสนล้านบาทขอเวลาประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจเคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ ว่าจะเป็นต้องมีมาตรการออกมาดูแลประชาชนเพิ่มเติมในช่วงใด

เนื่องจากขณะนี้ ยังมีมาตรการเราชนะ ซึ่งยังเหลือเม็ดเงินรอการเบิกจ่ายอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท รวมถึงมาตรการ ม.33 เรารักกัน ของกระทรวงแรงงาน ซึ่งยังเบิกจ่ายเงินไม่หมด ยังเพียงพอที่จะดูแลเศรษฐกิจในช่วง เดือน พ.ค. หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง กระทรวงการคลังก็พร้อมที่จะพิจารณามาตราการต่าง ๆ ออกมาใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

โดยล่าสุดโครงการเราชนะ วันที่ 16 เม.ย.2564 มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมรวม 13,744 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 198,672 ล้านบาท”

ทั้งนี้ คลังยังคงเหลืองบประมาณในการดูแลสถานการณ์โควิดอีกประมาณ 3.8 แสนล้านบาท โดยมาจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อใช้ในสถานการณ์โควิด ในส่วนของเงินกู้เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 2.4 แสนล้านบาท งบกลางของปีงบประมาณ 2564 ภายใต้งบกลางเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น 99,000 ล้านบาท ซึ่งมีการใช้ไปแล้วประมาณ 500 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบรรเทาโควิด-19 อีก 40,000 ล้านบาท โดยใช้ไปแล้วประมาณ 3,200 ล้านบาท

น.ส.กุลยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง ยืนยันว่ายังไม่จำเป็นที่จะต้องมีการกู้เงินเพิ่มขึ้น เนื่องจากวงเงินกู้ตาม พ.ร.ก. กู้เงินฉุกเฉินวงเงิน 1 ล้านล้านบาท ยังเพียงพอ ที่จะดูแลการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ โดยปัจจุบันยังมีวงเงินตาม พ.ร.ก.ดังกล่าวเหลืออีก 2.4 แสนล้านบาท รวมทั้งยังมีงบประมาณรายจ่าย ปี 2564 อีก 3.285 ล้านล้านบาท