อัจฉริยะ และครอบครัวน้องวาวา เข้าร้อง สบส. กรณี รพ.ดัง ย่านเกษตร บังคับให้วางเงินค่ารักษาก่อน แม้ส่งรักษาฉุกเฉิน

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม พร้อมครอบครัวน้องวาวา พริตตี้สาวที่รับงานเอ็นเตอร์เทน บ้านหรูย่านพหลโยธิน ก่อนจะเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ เข้าร้องอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข

นายอัจฉริยะ เผยว่า จากกรณีของน้องวาวาที่โรงพยาบาลดัง ย่านเกษตร ไม่ปฏิบัติตามยูเซ็บในการรักษาคนไข้ฉุกเฉิน โดยบังคับให้วางเงินมัดจำค่ารักษาก่อน จำนวน 15,000 บาท หากไม่วางเงิน จะไม่รักษาให้ นายเก่ง คนที่นำน้องวาวาส่งโรงพยาบาล จึงต้องไปดำเนินเรื่องการจ่ายเงิน ให้กับโรงพยาบาลก่อน ซึ่งทำให้น้องวาวา ต้องนอนรอการรักษานานถึง 50 นาที ในขณะที่สภาพร่างกายค่อนข้างวิกฤต ทางครอบครัวของน้องวาวา เชื่อว่า หากวันนั้นทางโรงพยาบาลรักษาน้องวาวา ทันที น้องวาวาอาจไม่เสียชีวิต วันนี้จึงขอให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตั้งคณะกรรมสอบสวนเอาผิดกับ รพ.หากไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยได้มีการนำพยานหลักฐานทั้งคลิปวิดิโอ วงจรปิด ภาพนิ่ง เอกสาร และสลิปการโอนเงิน มามอบให้กับอธิบดีกรมสนับสนุนสุขภาพในการตรวจสอบ หากยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จะนำศพน้องวาวาขึ้นมาจาก กระบี่มาวางหน้า รพ. เพื่อทวงถามความยุติธรรม

นอกจากนี้ยังมีการเปิดคลิปวงจรปิดที่แสดงให้เห็นทามไลน์ ตั้งแต่น้องวาวา ถึง รพ. อย่างชัดเจนว่า เวลา 06.29 น. ที่มีคนพาน้องวาวา ส่งโรงพยาบาล ก่อน จากนั้นเวลา 7.09 น. เจ้าหน้าที่ให้วางเงินมัดจำ 15,000 บาท ต่อมาเวลา 07.10 น. เมื่อทำการจ่ายเงินมัดจำแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่ทำการรักษา และเริ่มรักษา เวลา 7.18 น. โดยใช้ขั้นตอนดำเนินการกว่า 50 นาที กว่าจะทำการรักษา และต่อมาเวลา 8:45 วาวาเสียชีวิต ไม่เพียงเท่านั้นหลังจากวาวา เสียชีวิตแล้วทางโรงพยาบาลยังไม่ยอมให้ส่งไปชันสูตรพลิกศพ ยังมีการเรียกเก็บเงินค่าชุดผู้ป่วย 500บาท พร้อมทั้งให้จ่ายเงิน ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด กว่า 40,000 บาท ซึ่งตนมองว่า หากโรงพยาบาลทำการรักษา วาวา ในทันที อาจช่วยให้อาการดีขึ้นและไม่เสียชีวิต จึงขอให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพตั้งคณะกรรมสอบสวนเอาผิดกับโรงพยาบาลแห่งนี้

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยว่า ยูเซ็บเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ให้ดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยไม่ต้องคำนึงถึงค่ารักษา จึงฝากเน้นย้ำสถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งให้ดูแลรักษาผู้ป่วยฉุกเฉินให้เป็นไปตามระเบียบมาตรฐาน ส่วนกรณีของพริตตี้สาว หลังจากนี้จะนำข้อมูลเอกสารและภาพจากกล้องวงจรปิด ไปดำเนินการตรวจสอบ โดยจะมีการตั้งอนุกรรมการเข้ามาประชุมภายใน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน