นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายว่า ยังยืนยันความเข้มข้นความเข้มแข็ง ของการอภิปรายตามญัตติ และ ยืนยันว่าผู้อภิปรายมีวุฒิภาวะโดยยึดญัตติ ข้อบังคับและรัฐ ธรรมนูญ ขณะเดียวกันตนเองได้ให้กำลังใจผู้อภิปรายของพรรค ว่าขอให้มีสมาธิอย่าหวั่นไหวและอย่าหลงกลหากมีการประท้วงเสียดสี ซึ่งที่ผ่านมาเป็นไปด้วยได้ อย่างเช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. พรรคก้าวไกล ที่ถูกยั่วโมโหระหว่างการอภิปรายแต่ไม่เคยโต้ตอบ และยังยึดประโยชน์ของชาติและประชาชน ทั้งนี้หลายเรื่องที่เราตั้งคำถามนายกรัฐมนตรีก็ตอบไม่ตรงคำถามกับสิ่งที่เราพูดทั้งในเรื่องวัคซีน การทุจริต เอื้อนายทุนและพวกพ้องตัวเอง

นายพิธา กล่าวอีกว่า สำหรับการอภิปรายในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตเชิงนโยบาย การใช้อำนาจรัฐเอื้อนายทุน และพวกพ้องของตนเองทำให้ประเทศเสียหาย อีกทั้งในกรณีที่เมื่อมีคำถามออกไป เช่นเรื่องภาษีค่าไฟฟ้าค่าน้ำฟรีเบี้ยวหรือไม่ นายกฯ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ตอบโดยตรง แต่จะปิดปากด้วยกฎหมายแทน รวมทั้งนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ นายกรัฐมนตรี ที่จะใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปิดปากนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส. พรรคก้าวไกล ทั้งที่เป็นเอกสิทธิ์การอภิปรายของส.ส. ซึ่งตนได้นืนยันกับนางอมรัตน์แล้วว่าจะยืนเคียงข้างลูกพรรคและจะให้ทีมกฎหมายต่อสู้ต่อไป แต่สิ่งที่จะทำได้เลยตอนนี้ คือจะถามไปยังผู้เสียหายโดยตรงคือนายกฯ ว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่สส.ทำหน้าที่ ถ้าไม่ผิดก็ตอบคำถาม ไม่ใช่ปิดปากฝ่ายค้าน ถ้าเห็นด้วยกับการกระทำของนายสุภรณ์ ก็ถือว่าไม่สง่างามชาติทหารกับสุภาพสตรีที่ทำหน้าที่

ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตรียมรวบรวมข้อมูลในการอภิปรายแจ้งความเอาผิด นายพิธา กล่าวว่า ไม่กลัว ไม่หวั่น และตั้งใจทำหน้าที่สู้เต็มที่ ซึ่งหัวหน้าพรรคและทีมกฎหมายยังอยู่ตรงนี้พร้อมใช้กฎต่อสู้ยืนยันในเอกสิทธิ์สส. ซึ่งหากมีการประท้วงอีกอย่างต่อเนื่อง ก็ขอให้ประชาชนรู้วาาเป็นเกมการเมืองแบบเก่า ดังนั้นให้ประชาชนติดตามและเรียกร้องให้ประชาชนให้คะแนนพวกเราอยู่เขตไหนเขียนจดหมายไปเลยว่าหลักฟังหลักฐานและการอภิปรายแล้วเห็นด้วยหรือไม่ในเรื่องใด

ส่วนพรรครอบคอบแค่ไหนในประเด็นเกี่ยวกับสถาบันได้มีการกำชับอะไรหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ยังยืนยันว่านี่คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐบาล ดังนั้นการจะพูดอะไรเรายึดตามญัตและข้อบังคับ โดยยืนยันว่าเรามีวุฒิภาวะด้วยเหตุด้วยผล และไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งวุฒิภาวะคนมาเป็นผู้แทนราษฎร เราไม่ตระหนกกลัว แต่จะทำหน้าที่เต็มที่ ส่วนการให้คะแนนในภาพรวมนั้นก็ให้ประชาชนให้คะแนนเอง แต่ในนามหัวหน้าพรรคถือว่าเกินความคาดหวังที่ทุกคนทำงานอย่างหนัก

หากการอภิปรายเข้าเรื่องสถาบัน และมีคนข้างนอกจับจ้องเพื่อฟ้องร้องนั้น นายพิธา กล่าวว่า ย้ำว่าเราไม่ได้อภิปรายสถาบัน แต่อภิปรายนายกฯ รัฐบาลและวิธีปฎิบัติของรัฐบาบาล ส่วนการจะฟ้องร้องก็เป็นสิทธิ แต่ก็ต้องถามกลับว่าเสียหายเพราะอะไร ซึ่งเราต้องสู้การฟ้องปิดปากกลั่นแกล้งหรือไม่ แต่ยืนยันเป็นเหตุเป็นผล มีวุฒิภาวะ และไม่ทำให้สถาบันเสียหายแน่นอน