"ณัฏฐพล" ร่วมประชุมกับผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั้งหมด วางแผนจัดเก็บระบบข้อมูลหน่วยงานในสังกัดศธ.แบบบิ๊กดาต้า ลดความซ้ำซ้อนในขั้นตอนการจัดเก็บ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการบริหารงาน และการจัดสรรงบประมาณที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการบริหารจัดการฐานข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า หน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการมีข้อมูลที่จำเป็นอยู่แล้วประมาณ 90% ซึ่งที่ผ่านมามีการบริหารจัดการข้อมูลแบบไซโล หรือเป็นแท่งๆ ขณะเดียวกันอาจไม่มีการสื่อสารระหว่างกันถึงความต้องการอย่างเข้มข้น การจัดเก็บและใช้ประโยชน์จากข้อมูล จึงไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของหน่วยงานอื่นๆ
 
โดยตนมองว่าเรื่องของข้อมูลเป็นกระดุมเม็ดแรกของการจัดสรรงบประมาณ ที่ผ่านมาบางทีเราอาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณอย่างเต็มที่ เพราะความไม่มั่นใจในข้อมูลของกระทรวง แต่ขณะนี้ได้นำ 7 หน่วยงานที่มีข้อมูลของกระทรวงมารวมกัน และมอบหมายให้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการประมวลความจำเป็นและความต้องการของข้อมูล เพื่อการบริหารจัดการ มาลงรายละเอียดในการปฏิบัติงาน เพื่อให้บอกความต้องการที่ชัดเจนว่าเราอยากเห็นข้อมูลอะไร ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลครู นักเรียน หรือบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งหากมีการเพิ่มเติมความต้องการเข้ามา เชื่อว่าจะมีข้อมูลได้ครบถ้วน และจะทำให้มีการขับเคลื่อนดีขึ้น
 
ทั้งนี้ตนเคยกล่าวไว้ตั้งแต่เมื่อเข้ามารับหน้าที่ว่า กระทรวงศึกษาธิการมีข้อมูลครบ แต่ขาดการเชื่อมต่อเป็นแดชบอร์ดเพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจ  จึงอาจมีการเพิ่มเติมข้อมูลที่จำเป็นอีกส่วนหนึ่งสำหรับฝ่ายบริหารที่ต้องการ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับการบริหารจัดการแนวทางใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ

โดยอยากมีฐานข้อมูลของครูกับนักเรียนที่เป็นส่วนสำคัญก่อน เช่น มีสมุดพกของนักเรียน สมุดพกหมายถึงความคืบหน้าในแต่ละชั้นเรียนที่ต้องติดตัว ติดตาม ตัวเองไปตลอด ต้องให้เห็นว่าตั้งแต่ ป.1 นักเรียนมีทักษะ มีพรสรรค์อะไร หรือมีความชอบอะไร เมื่อมาอยู่ในระดับมัธยมฯ โรงเรียนตอบโจทย์พรสรรค์ของเด็กหรือไม่ หรือโดนบังคับด้วยค่านิยมที่ทำให้ต้องมาเรียนทางใดทางหนึ่ง
 
สำหรับข้อมูลของคุณครู ทุกความก้าวหน้าของคุณครู หรือเรื่องของการพัฒนาตนเองก็สามารถอยู่ในสมุดพกของครูได้ โดยไม่ต้องทำวิทยฐานะเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้การทำงานหลายอย่างง่ายขึ้น

อีกส่วนหนึ่งคือการลดการบันทึกข้อมูลเข้าระบบ ซึ่งจากที่สัมผัสด้วยตนเอง วันนี้คุณครูที่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำๆ กันหลายครั้ง บางครั้งเป็นข้อมูลที่มีอยู่แล้ว แต่เมื่อหน่วยงานอื่นนอกกระทรวงศึกษาธิการต้องการ หรือร้องขอมา แต่อาจจะเป็นรูปแบบที่แปลกแตกต่างจากของกระทรวงศึกษาธิการก็เลยต้องทำกันใหม่
 
ซึ่งหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการที่มีการเก็บข้อมูลของครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (กคศ.) และคุรุสภา เป็นต้น

ทั้งนี้นายณัฏฐพล ย้ำว่ากลางเดือนกุมภาพันธ์จะมีการประชุมอีกครั้ง เพื่อสรุปความคืบหน้า ภายหลังจากได้มอบหมายให้คณะทำงานได้หารือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อตรวจสอบความต้องการ และความครบถ้วนของข้อมูลที่จำเป็น