นายกรัฐมนตรี เตือนม็อบละเมิดศาล ชุมนุม 2 ธ.ค. ฟังคำวินิจฉัยศาลตัดสินบ้านพักทหารนายกฯ พร้อมรับฟังทุกฝ่าย ขออย่าสร้างความเดือนร้อน แนะชุมนุมสถานที่ปิด อย่าทำผิดกฏหมาย ขอสื่อไตร่ตรองก่อนนำเสนอ ให้พื้นข่าวม็อบมากไปหรือไม่ หวั่นกระทบภาพลักษณ์ประเทศ ขอดู 3 ข้อเรียกร้องทำได้จริงหรือไม่

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฏร จะเดินทางไปชุมนุมที่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อฟังคำวินิจฉัยตัดสินคดีบ้านพักทหาร ของนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะถูกต้อง และการไปกดดันตามสถานที่ต่างๆโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ อยากให้พิจารณาให้ดี เพราะที่ผ่านมาศาลเคยมีคำวินิจฉัย เกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ศาลและการละเมิดศาล จึงอยากให้ผู้ชุมนุมระมัดระวังด้วย

ส่วนที่เริ่มมีกระแสสังคม เอื้อระอาผู้ชุมนุมที่สร้างความเดือดร้อน อยากให้รัฐบาลดำเนินการเด็ดขาดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลต้องฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งผู้ชุมนุมและกระแสของสังคม จึงอยากให้สื่อทำความเข้าใจ ว่าจะให้รัฐบาลเด็ดขาดในการใช้กำลังคงไม่สามารถทำได้

แต่สิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการ คือ การใช้ขั้นตอนของกฏหมาย ตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและสันติ ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ชุมนุมและผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ดังนั้นอยากให้ผู้ชุมนุมระมัดระวัง เกี่ยวกับการสร้างความเดือดร้อนให้กับคนทั่วไป ด้วยการไปชุมนุมในพื้นที่ปิดได้หรือไม่ มากกว่าการไปชุมนุมในพื้นที่สาธารณะแล้วสร้างความเดือดร้อน

พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้ฝากไปยังสื่อมวลชนเกี่ยวกับการตั้งคำถาม ไม่ให้เกิดการยั่วยุหรือสร้างความแตกแยก โดยขอให้ทำหน้าที่ที่เป็นกลาง และนำเสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์ อย่างกรณีหนังสือพิมพ์บางฉบับที่ทำเรื่องไม่สมควร ที่นำเสนอภาพพระราชกรณียกิจ การลงพื้นที่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เล็กน้อย ผิดกับภาพผู้ชุมนุมที่ให้พื้นที่มากกว่า ซึ่งสื่อควรจะต้องชังน้ำหนักให้ดี ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่

เนื่องจากบางเรื่องส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ ในสายตาของต่างประเทศ จึงอยากให้นำเสนอสิ่งที่ดี ขอประเทศบ้าง หรือการที่สื่อนำเสนอข่าวเกี่ยวกับผู้มาร่วมชุมนุม ซึ่งจากภาพที่ถ่ายออกมา ก็สามารถประเมินจำนวนคนได้ โดยไม่จำเป็นต้องรายงาน ว่ามีจำนวนหลักหมื่น หลักแสน หรือหลักล้าน ซึ่งอาจไม่ตรงตามข้อเท็จจริง และตนก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวการชุมนุม

นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ว่ารัฐบาลไม่ได้เลือกปฏับัติ ในการดำเนินการตามกฏหมายกับผู้ชุมนุม เพราะไม่ว่าจะฝ่ายใด ก็ไม่สามารถละเมิดกฏหมายได้ และแม้กฏหมายจะไว้ใช้คุ้มครองสิทธิเสรีของบุคคลเช่นกัน แต่ก็ขออย่าให้เกินเลย ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ใช่ความรุนแรง ทำตามขั้นตอนกฏหมาย ก่อนจะปฏิบัติการเรื่องใด ก็ได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมทราบก่อน เช่น พื้นที่ที่ไม่บุกรุกเข้าไป แต่ผู้ชุมนุมก็จะเข้าไป ในพื้นที่หวงห้าม ถือเป็นการละเมิดและผิดกฏหมาย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการตรวจสอบผู้ที่อยู่เบื้องหลังการชุมนุม ว่าฝ่ายความมั่นคงได้ตรวจสอบมาตลอด แต่ไม่ทราบว่าเป็นผู้ที่อยู่ในหรือต่างประเทศ และการที่แกนนำประกาศว่า ถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรี จะพ้นจากตำแหน่ง แต่การชุมนุมยังคงเดินหน้าต่อ ตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ก็เป็นเรื่องของผู้ชุมนุมแต่การจะทำอะไรก็ต้องยอมรับผลสิ่งที่ทำไปด้วย

และหากจะไม่รับชอบและไม่เครพกระบวนการยุติธรรมก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดยนายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธ แสดงความเห็นว่าการชุมนุมจะบรรลุตามวัตถุประสงค์ตาม 3 ข้อหรือไม่ กล่าวแต่เพียงว่า อยากให้พิจารณาว่าข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้หรือไม่ ขั้นตอนต่อหลักการบริหารราชการแผ่นดินและรัฐธรรมนูญหรือไม่