แท็กซี่ต้องรู้! ไล่ผู้โดยสารลงรถมีความผิดอะไรบ้าง? ยกเคสตัวอย่าง "ไล่สาวลงเพราะไม่คุยเรื่องการเมือง"

จากกรณีที่มีการแชร์คลิปบนโลกออนไลน์ เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่ผู้โดยสารสาวคนหนึ่งโต้เถียงกับคนขับแท็กซี่ พร้อมเล่าว่า เธอนั่งแท็กซี่จากศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี แต่ปรากฏว่าระหว่างทาง คนขับแท็กซี่ชวนคุยเรื่องการเมือง แต่เธอปฏิเสธที่จะคุย โดยตอบกลับไปว่า ทำงานทั้งวันเหนื่อยแล้ว ขอไม่คุย

เมื่อได้ยินดังนั้น ทำให้คนขับแท็กซี่แสดงท่าทางไม่พอใจและบอกให้ลงจากรถได้เลย แต่เมื่อเธอจะลงจากรถ คนขับแท็กซี่กลับขอเก็บเงินค่ารถ เธอจึงไม่ลงและนั่งต่อไป พร้อมถ่ายคลิปขณะโต้เถียงกันอยู่ในรถ ซ้ำแท็กซี่ยังด่าว่าโง่ อวดฉลาด และด่าถึงพ่อแม่ พร้อมถามกลับว่า งงมาก เธอทำผิดอะไร แค่ไม่อยากคุยเรื่องการเมือง

สำหรับกรณีที่คนขับรถแท็กซี่ ไล่ผู้โดยสารลงจากรถนั้น สอดคล้องกับการพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 104 ให้ลงจากรถก่อนถึงจุดหมายปลายทาง ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
หากทำผิดครั้งที่ 1 จะถูกปรับและต้องเข้ารับการอบรม
ผิดครั้งที่ 2 ปรับ พักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน และเข้าอบรม
ผิดครั้งที่ 3 ปรับ พักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน และเข้าอบรม

นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับการพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถคาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 57 ไม่ส่งคนโดยสาร ณ สถานที่ตามที่ตกลงกันไว้ และพาผู้โดยสารไปทอดทิ้งระหว่างทาง มีบทกำหนดโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ทำผิดครั้งที่ 1 ปรับและต้องเข้ารับการอบรม
ผิดครั้งที่ 2 พักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน และเข้าอบรม
ผิดครั้งที่ 3 ปรับ พักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน และเข้าอบรม

สำหรับกรณีสาวไม่คุยเรื่องการเมืองนั้น ยังมีเหตุการณ์หลังจากลงรถแท็กซี่ คือ เธอโพสต์ภาพแขนที่มีรอยแดง พร้อมระบุว่า เป็นแผลที่ถูกคนขับแท็กซี่กระชากลงจากรถ ล่าสุดได้นำใบรับรองแพทย์ที่ไปตรวจร่างกายไปแจ้งความไว้ที่ สน.คันนายาว พร้อมระบุว่า "เราจะไม่ยอมให้คนประเภทนี้ไปทำแบบนี้ไม่ว่ากับใคร"

ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกได้ทราบเรื่องแล้ว ส่วนในเรื่องคดีความเป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะพิจารณาความผิดตามกฎหมายต่อไป